ตลาดแอร์ไทย มูลค่า 34,567 ล้านบาทในปีนี้ มีผู้เล่นใหม่เข้ามาอีกหนึ่ง หลังจากเสียวหมี่ส่งแอร์เข้ามาท้าชิงตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ
การเข้ามาของเสียวหมี่ถือเป็นการเข้ามาชิมลางในตลาดด้วยการเปิดตลาดเพียง 1 รุ่นในชื่อ Mijia Air Conditioner Pro Eco EGAT Label No.5 with 3 Stars 12000BTU Inverter
ผ่านจุดขายแอร์ที่มีเทคโนโลยี AI ช่วยควบคุมอุณหภูมิได้เสถียรกว่าโหมดประหยัดพลังงานแบบเดิม มีวัสดุป้องกันความชื้น การกัดกร่อน, ฟังก์ชันทำความสะอาดตัวเอง และแจ้งเตือนให้ทำความสะอาดตัวกรอง บนการรับประกันเครื่อง 5 ปี คอมเพรสเซอร์ 10 ปี ในราคาจำหน่าย 15,999 บาท ไม่รวมโปรโมชั่นสั่งออนไลน์ในช่วงเปิดตัว
แม้เสียวหมี่จะทำตลาดในไทยมาอย่างยาวนาน และสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างผ่านเครื่องฟอกอากาศ ที่ให้ประสิทธิภาพในราคาที่ผู้บริโภครับได้
ประกอบกับที่ผ่านมาภาพรวมของเสียวหมี่บริษัทแม่ประสบความสำเร็จจากธุรกิจแอร์ในปีที่ผ่านมา ด้วยยอดจำหน่ายมากถึง 6.8 ล้านเครื่อง เติบโต 50% จากปี 2565
แต่การเข้ามาลงเล่นในตลาดแอร์ในประเทศไทย ถือเป็นเรื่องใหม่ของเสียวหมี่ ที่มีความท้าทายรออยู่ข้างหน้า
ภายใต้ความท้าทายของตลาดแอร์ในไทยของเสียวหมี่ Marketeer มองว่าประกอบด้วย
1. ตลาดแอร์ 2568 เติบโตแต่ไม่สูงมากจากความร้อนที่มาช้า
ในปีนี้คาดการณ์ตลาดแอร์มูลค่า 34,567 ล้านบาท เติบโตเพียง 6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเป็นการเติบโตที่เหลือเพียงหลักเดียว เมื่อเทียบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ตลาดแอร์เติบโต 2 หลักอย่างต่อเนื่อง
จากปี 2566 ตลาดแอร์มูลค่า 28,606 ล้านบาท เติบโต 27%
ปี 2567 มูลค่า 32,610 ล้านบาท เติบโต 14% อ้างอิงจากแอลจี อีเลคทรอนิกส์ (ประเทศไทย)
การเติบโตที่ลดลงของตลาดแอร์มาจากสภาพอากาศของไทยในปีนี้ฤดูร้อนช้ากว่าทุก ๆ ปี จากอากาศเย็นยาวนานถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์
ซึ่งเมื่อเทียบกับ 1-2 ปีที่ผ่านมา ในช่วงเวลาที่ตลาดแอร์เติบโต 2 สองหลัก มาจากประเทศไทยเผชิญกับอากาศที่ร้อนกว่าปกติ จากปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่ผลักดันให้คนไทยซื้อแอร์เพิ่มขึ้น หรือเปลี่ยนแอร์ใหม่เพื่อใช้คลายร้อนมากขึ้น
และความร้อนที่น้อยกว่าเดิมในปี 2568 อยู่บนสภาพเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ที่กดดันให้ผู้บริโภคบางรายประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น การซื้อแอร์เครื่องใหม่
2. การแข่งขันในตลาดแอร์รุนแรงในรอบ ๆ ด้านจากคู่แข่งหลากชาติ
จากการเติบโตของแอร์ที่ลดลงในปีนี้ ทำให้แบรนด์แอร์ต่างมุ่งเน้นสร้างการเติบโตไปพร้อม ๆ กับรักษาส่วนแบ่งตลาดผ่านจุดขายที่แตกต่างกันไป เช่น
– การนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาเป็นหนึ่งในจุดสร้างความแตกต่างดึงดูดการตัดสินใจผู้บริโภค เช่น มีเทคโนโลยีเครื่องฟอกอากาศในตัว, ประหยัดไฟ, เทคโนโลยี AI, IoT และอื่น ๆ
– ผู้ประกอบการแอร์บางรายเน้นสงครามราคาเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่นำราคาเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักในการตัดสินใจ ทำให้ราคาแอร์ที่จำหน่ายโดยเฉพาะในกลุ่มระดับล่างและระดับกลางมีราคาจำหน่ายไม่ห่างกันเท่าไรนัก และทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มตัดสินใจเลือกซื้อแอร์จากราคา แบรนด์ที่รู้จัก และบริการหลังการขายประกอบกัน
– ผู้ประกอบการหลายรายนำบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นพรีเซนเตอร์ และแบรนด์แอมบาสเดอร์เข้ามาเป็นหนึ่งในการตลาดเพื่อสร้างภาพลักษณ์ในฐานะตัวแทนแบรนด์สร้างการรับรู้และผลักให้เกิดยอดจำหน่ายผ่านพรีเซนเตอร์อีกทางหนึ่ง
เช่น แอลจี นำเจฟ ซาเตอร์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่จากฐานแฟนคลับของเจฟ ซาเตอร์ ที่มีอยู่จำนวนมาก, มิตซูบิชิ อีเลคทริค ใช้นนท์ ธนนท์ เป็นพรีเซนเตอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 พร้อมสื่อสารการตลาดผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุด “ให้ ME เป็นความสบายให้คุณ” แบรนด์ไมเดีย นำบัวขาว บัญชาเมฆ เป็นพรีเซนเตอร์เป็นปีที่ 2 ตอกย้ำภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งและความทนทาน
3. ผู้บริโภคบางกลุ่มมี Brand Loyalty ที่ศึกษาข้อมูลเพิ่มก่อนตัดสินใจซื้อจากแบรนด์ที่มีอยู่ในใจ นอกจากนี้ ผู้บริโภคบางกลุ่มตัดสินใจซื้อจากคำแนะนำของคนรู้จักที่ประทับใจในแอร์แบรนด์ที่ใช้อยู่ และบางกลุ่มตัดสินใจซื้อจากคำแนะนำของพนักงานขาย หรือช่างแอร์ที่ติดตั้ง เพราะมองว่าเป็นผู้ที่มีความรู้หรือประสบการณ์กับแอร์แบรนด์ต่าง ๆ มาก่อนหน้านั้น
4. ผู้ประกอบการแอร์แบรนด์ต่าง ๆ ที่อยู่ในตลาดมาอย่างยาวนาน ได้วางรากฐานด้านช่องทางจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และการดูแลหลังการขายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการเข้าถึงลูกค้า และความมั่นใจในบริการในกรณีที่มีปัญหาในการใช้งาน เนื่องจากแอร์เป็นสินค้าที่ต้องมีการติดตั้งจากช่างที่มีความเชี่ยวชาญในการติดตั้ง ซึ่งแตกต่างจากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่เสียวหมี่ทำตลาดในไทยที่ผ่านมา ที่สามารถเสียบปลั๊กใช้งานได้ทันที และสามารถเปลี่ยนอะไหล่ต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้ เช่น เครื่องฟอกอากาศ ที่ผู้บริโภคสามารถซื้อไส้กรองเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ดี แม้ ตลาดแอร์ไทย จะมีความท้าทายแต่มีโอกาสไม่น้อยสำหรับเสียวหมี่ เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภครู้จักจากสินค้ากลุ่มอื่น ๆ และมีฐานแฟนคลับที่ตัดสินใจติดตั้งแอร์เสียวหมี่จากความมั่นใจในแบรนด์และสินค้าที่เคยใช้งานมาก่อนหน้านั้น
ประกอบกับประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อน แต่ยังมีการเข้าถึงแอร์เพียง 44% ของครัวเรือนทั้งหมดในประเทศ ที่ยังมีช่องว่างให้เสียวหมี่เข้าถึงตลาดอีกมาก
แต่เสียวหมี่จะสร้างความเย็นของแอร์ได้มากแค่ไหน คงต้องดูกันยาว ๆ เพราะในหน้าร้อนนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในตลาดของการลงเล่นตลาดเท่านั้น
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
