เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของมหกรรมกีฬาที่ต้องมีเพลงประจำการแข่งขันอย่างเป็นทางการ (Official Song) เพื่อเพิ่มความคึกคัก และสร้างความมีส่วนร่วม รวมถึงใช้เป็นส่วนหนึ่งของ Marketing Campaign
โดยต้องยอมรับว่าฟุตบอลโลกเป็นมหกรรมกีฬาที่มี Official Song ซึ่งคนส่วนใหญ่จดจำได้มากสุด ยืนยันได้จากจังหวะอันเร่งเร้าของ The Cup Of Live ที่ยังก้องดังอยู่ในโสตประสาทของคอบอลและคนทั่วโลก แม้เวลาจะผ่านมาตั้งแต่ฟุตบอลโลกเมื่อปี 1998 แล้วก็ตาม
ล่าสุดสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ได้ปล่อยเพลง Live It Up โดย Nicky Jam ,Will Smith และ Era Istrefi สำหรับฟุตบอลโลกปีนี้ออกมาแล้ว เพื่ออุ่นเครื่องก่อนศึกชิงความเป็นเจ้าลูกหนังบนแผ่นดินรัสเซียของทั้ง 32 ทีมชาติ ลองย้อนกลับไปฟัง Official Song จากการแข่งขันครั้งก่อนๆ และรับรู้ถึงเรื่องราวที่ ‘เสียงแห่งความคึกคัก’ เหล่านี้ได้สร้างไว้
รวมฮิตยุคเก่า : ความคึกคักหลายสำเนียงที่ต้องฟังเสียงเจ้าภาพ
El Rock del Mundial คือ Official Song เพลงแรกของฟุตบอลโลกที่มีการบันทึกไว้ โดย Rock ‘n Roll ภาษาสเปนประจำการแข่งขันที่ชิลีเมื่อปี 1962 ที่ทาง Jorge Rojas แต่งขึ้นเพื่อชื่นชมเจ้าภาพ ขายดีได้ถึง 2 ล้านแผ่นในประเทศแถบอเมริกาใต้
จากนั้นในการแข่งขันอีก 5 ครั้งต่อมา เพลงที่ใช้ก็เป็นไปตามที่เจ้าภาพเห็นว่าดีและเปลี่ยนตามยุคสมัย คอลูกหนังจึงได้ฟังทั้งเพลงพื้นบ้านที่เยอรมันตะวันตกเป็นเจ้าภาพในปี 1974 หรือ Disco เมื่อเม็กซิโกเป็นเจ้าภาพในปี 1986
รวมฮิตยุคกลาง : จุดเริ่มต้นของเพลงในศึกลูกหนังที่คนทั่วโลกร้องตามได้
มาถึงการแข่งขันอิตาลีในปี 1990 ทั้งคอบอลและคนทั่วโลก คงยังจดจำ To Be Number One เพลง Rock ภาษาอิตาเลียนที่สร้างความฮึกเหิมที่ร้องโดย Edoardo Bennato กับ Gianna Nannini ซึ่งติดชาร์ตหลายประเทศในยุโรปและยังมีการนำมาร้องในอีกหลายภาษา ทั้งอังกฤษ สเปนหรือแม้กระทั่งจีนกวางตุ้ง
ส่วนเพลง The Cup of Life ของ Ricky Martin ซึ่งใช้ในการแข่งปี 1998 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ ได้สร้างตำนานไว้มากมาย ตั้งแต่กลายเป็นเพลงฮิตของปีนั้น ทำยอดขยายถล่มทลาย และส่งให้นักร้องหนุ่มชาวเปอร์โตริโก้เอวพริ้วรายนี้ดังไปทั่วโลก
ขณะเดียวกันยังเป็นเหมือนพิมพ์เขียวให้ Official Song ของการแข่งขันครั้งต่อๆ มาต้องมีทำนองลาตินและเครื่องเคาะต่างๆ ผสมอยู่ด้วย โดย Martin ซึ่งปัจจุบันอายุ 46 ปี ยอมรับว่า The Cup of Life ซึ่งขึ้นอันดับ 1 ใน 72 ประเทศ นั้นเปลี่ยนชีวิตตนไปเลย พร้อมกับทำให้เพลงลาตินได้โด่งดังไปทั่วโลก
รวมฮิตยุคใหม่ : จังหวะลาตินที่ดังขึ้นของ Shakira และผองเพื่อน
ฟุตบอลโลกครั้งแรกในทวีปแอฟริกาเมื่อปี 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ โลกทั้งใบต้องขยับตามจังหวะของ เพลง Waka Waka (This Time for Africa) จากเสียงและการเต้นของ Shakira ซึ่งตัวเพลงติด Top 5 ทั้งในยุโรปและอเมริกา ยาวนานถึง 22 สัปดาห์ ขณะที่ Music Video มียอดชมบน Youtube กว่า 1,700 ล้านครั้ง ส่งให้นักร้องสาวชาวโคลัมเบียมีเพลงประจำตัวเพิ่มอีกเพลง ต่อจาก Whenever, Wherever เพลงฮิตในปี 2001
ท่วงทำนองติดหูและชวนขยับแข้งขยับขาของ Waka Waka (This Time for Africa) ถูกนำมายกกำลังความอึกทึกคึกคักจนกลายเป็น We Are One (Ole Ola) เพลงประจำการแข่งขันที่บราซิลปี 2014 ที่ Pitbull ,Jennifer Lopez และ Cluadia Leitte ร่วมกันร้อง
ส่วน Shakira ยังได้กลับมาร้อง La La La (Brazil 2014) เพลงที่ใช้ในพิธีปิด ขณะเดียวยังเป็นที่คาดกันว่านี่คือต้นแบบของ Live It Up เพลงที่ใช้ในปีนี้ด้วย
Hidden Track : สงครามเพลงบอลโลกสองค่ายน้ำดำก็สู้กันด้วยเพลงลาติน
แน่นอนว่าฟุตบอลโลกครั้งนี้แบรนด์ต่างๆ คงทำ Campaign เกาะกระแสกันเต็มที่ และมีหลายแบรนด์ต้องขับเคี่ยวกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งที่ถูกจับตามองสุดคือศึกระหว่าง Coca-Cola กับ Pepsi โดยแม้ฝ่ายแรกได้เปรียบกว่าจากการเป็น FIFA Partner มายาวนาน
แต่ฝ่ายหลังก็ไม่ยอมแพ้ ติดต่อนักฟุตบอลชั้นนำหลายคนมาเป็น Brand Endorser โดยแบรนด์คู่ปรับคู่นี้ต่างชิงดีชิงเด่นกันทุกทางแบบไม่มีใครยอมใคร กระทั่งเพลงในหนังโฆษณายังมีจังหวะลาตินใกล้เคียงกัน
/ billboard ,sportstarlive ,chicagotribune ,fifa ,wikipedia
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



