Trends / Manchester United แพ้ Tottenham Hotspur 0-1 ในนัดชิง UEFA Europa League เมื่อคืนวันพุธ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา นับเป็นอีกหนึ่งความผิดหวังครั้งใหญ่สำหรับตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของสโมสรผู้เป็นมหาเศรษฐี และ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย ที่เข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน

ความพ่ายแพ้ครั้งนี้หมายความว่า Manchester United หมดสิทธิ์เข้าไปเล่นในรายการ UEFA Champions League ในฤดูกาลหน้า โดยนอกจากสร้างความผิดหวังให้แฟน ๆ “ปีศาจแดง” แล้ว ยังกระทบต่อเนื่องไปถึงตัวเลขในการดำเนินธุรกิจสำคัญ ๆ ของสโมสรอีกด้วย
หุ้นของ Manchester United ในการซื้อขายในช่วงเช้าวันถัดมา ร่วงลงเกือบ 8% ซึ่งถือว่าลดลงมากสุดในรอบกว่า 8 เดือน แม้จากนั้นปรับขึ้นเล็กน้อยไปปิดที่ลดลง 6.7% แต่ก็มีขึ้นช่วงที่หุ้นของสโมสรแทบไม่เป็นที่ต้องการของนักลงทุน ยืนยันได้จากตั้งแต่เปิดปี 2025 มาหุ้นลดลงไปแล้วถึง 20%

ข่าวร้ายนอกสนามของ Manchester United ในยุคของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ยังไม่หมดแค่นั้น โดยการพลาดแชมป์ UEFA Europa League ซึ่งทำให้หมดสิทธิ์ไปแข่งใน UEFA Champions League นั้น ยังจะทำให้สโมสรสูญเงินจากค่าตั๋ว ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด และโบนัสจากสปอนเซอร์ ซึ่งมีการประเมินกันว่าเมื่อรวม ๆ กันแล้วจะมากกว่า 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,393 ล้านบาท) ไปด้วย
จากสถานการณ์ทั้งหมด จึงหมายความว่าซีซั่นนี้ Manchester United พลาดแชมป์ทุกรายการ และกำลังจะปิดซีซั่นในกลุ่มครึ่งล่างของตารางคะแนน โดย ณ 23 พฤษภาคม อยู่ในอันดับที่ 16 จากทั้งหมด 20 อันดับ และหากอีกไม่กี่นัดที่เหลือยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งเลื่อนอันดับได้ จะถือเป็นซีซั่นที่แย่สุดในรอบ 50 ปี
วิกฤตของ Manchester United ครั้งนี้ที่เริ่มจากฟอร์มในสนาม ต่อเนื่องสู่การไม่มีถ้วยแชมป์มาเพิ่มในตู้โชว์ของสโมสร และ ยังจะทำสถานะการเงินสโมสรยิ่งแย่ลงไปอีก ทั้งที่ก็ไม่สู้ดีอยู่แล้ว จน เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ สั่งให้รัดเข็มขัดเพื่อการประหยัดขั้นสุด ด้วยการตัดงบส่วนที่เห็นว่าไม่จำเป็นออกไปมากมายแล้ว
ไล่ตั้งแต่ตัดโบนัส และลดเงินเดือนพนักงาน ต่อเนื่องไปสู่เลิกสวัสดิการค่าอาหารฟรี ปลดพนักงาน 2 รอบ เป็นจำนวน 500 คน ลดเงินเดือนของอดีตนักเตะดังที่ได้รับเลือกให้เป็นทูตสโมสร ไปจนกระทั่งยกเลิกตำแหน่งทูตกิตติมศักดิ์ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมคนสำคัญที่สุด ซึ่งทำให้เขาสูญเสียรายได้ปีละ 2.66 ล้านปอนด์ (ราว 89 ล้านบาท) ไป

ประเด็นที่ต้องติดตามต่อจากนี้คือ Manchester United จะไปปิดซีซั่น 2024/25 ด้วยอันดับเท่าไรของตารางคะแนน Premier League แผนการต่าง ๆ โดยเฉพาะโปรเจกต์ยักษ์ อย่างการสร้างสนามแห่งใหม่ จุผู้ชมได้ถึง 100,000 คน ด้วยงบมากถึง 2,000 ล้านปอนด์ (ราว 87,800 ล้านบาท) จะกระทบมากน้อยแค่ไหน
ขณะเดียวกันยังต้องจับตามองด้วยว่า รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน ที่ล้มเหลวในการเรียกฟอร์มเก่งของ Manchester United ทั้งที่เมื่อครั้งคุม Sporting Lisbon ในโปรตุเกสบ้านเกิดเคยฝากผลงานน่าประทับใจเอาไว้ จะถูกปลดจากตำแหน่งนายใหญ่ “ปีศาจแดง” หรือไม่
ในกรณีที่ รูเบน อโมริม ถูกปลดจะหมายความว่า หลังหมดยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตั้งแต่ปี 2013 Manchester United เปลี่ยนผู้การทีมไปแล้วถึง 10 คน

ส่วนกรณีในซีซั่นหน้าที่ไม่ดีขึ้นหรือซ้ำร้ายแย่ลงไปอีก นอกจากเปลี่ยนผู้จัดการทีมแล้ว เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ อาจถอนตัวจาก Manchester United ไปด้วย เพราะมีรายงานว่า ผลงานที่น่าผิดหวังในซีซั่น 2024/25 กระทบถึงรายได้ในปีกธุรกิจกีฬาของเขาลดลงไปอย่างมาก ซ้ำร้าย Ineos เครือเคมีภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ในความดูแลยังจะขาดทุนจากสงครามการค้าอีกด้วย/theguardian, bbc
–
