Starbucks เปิดตัว โฟมโปรตีนเย็น ท็อปปิ้งใหม่ล่าสุด โดยเป็นโฟมรสกล้วยอัดแน่นด้วยโปรตีน 15 กรัม เสิร์ฟมาพร้อมกับวานิลลาลาเต้ไร้น้ำตาล ตามแผนของซีอีโอไบรอัน นิคคอล ที่ต้องการปรับเมนูให้ดูทันสมัยขึ้นและเรียกความสนใจที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ณ ปัจจุบัน ซึ่งมีเมนูสุขภาพรวมอยู่ด้วย

นอกจากเมนูใหม่ดังกล่าวที่อยู่ในช่วงทดลองขาย ซึ่งประเดิมด้วย 5 สาขาในสหรัฐฯ ก่อน ทาง Starbucks ยังได้ปรับเมนูครั้งใหญ่ด้วยการลดเมนูลงถึง 30% แต่ก็จะเพิ่มเมนูอาหารกับเครื่องดื่มใหม่ๆ ทดแทนเข้ามา และเริ่มทดลองอบขนมในร้านเอง แทนที่จะแค่ส่งมาแล้วอุ่นร้อน ซึ่งเมนูทดลองแรกคือครัวซองต์เนยกับคุกกี้ดับเบิลช็อกโกแลต
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ Starbucks มีขึ้นท่ามกลางการเติบโตของตลาดโปรตีนเชคในสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 6,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 220,000 ล้านบาท) ซึ่งเมื่อปี 2024 โตทั้งในเรื่องยอดขายและปริมาณสินค้า จนค่ายเครื่องดื่มใหญ่ๆ อย่าง Coca-Cola กับ Pepsi ต่างต้องรุกตลาด ด้วยการเปิดตัว Core Power และ Muscle Milk ไปแล้วตามลำดับ ส่วนคู่แข่งเบอร์รองของ Starbucks ก็รุกตลาดนี้แล้วเช่นกันด้วยเมนูกาแฟโปรตีนมากมาย
นี่เป็นการสะท้อนว่าผู้บริโภคสหรัฐฯ ในปัจจุบันหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น โดยในสหรัฐฯ ตลาดกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเติบโตอย่างมาก โดยนอกจากโปรตีนเชคที่กล่าวไปแล้ว ยังมีสินค้าใหม่ๆ ออกมามากมายเพื่อรองรับความต้องการของสายเฮลท์ตี้ เช่น Hershey ซึ่งเป็นที่รู้จักมานานจากขนมและลูกอมได้จับมือกับบริษัทอาหารเสริม C4 Energy ออกเครื่องดื่มบำรุงกำลังรสลูกอม
นอกจากนี้ Hershey ยังได้ซื้อกิจการของ One บริษัทผู้ผลิตแท่งพลังงานแบบน้ำตาลน้อยอีกด้วย ด้าน Pringles แบรนด์มันฝรั่งอบกรอบที่ถูกมองว่าเป็นขนมขบเคี้ยวไม่ดีต่อสุขภาพมาตลอดก็ขอเป็นอาหารรักสุขภาพด้วยการลดโซเดียมลง

กลับมาที่ Starbucks โดยตั้งแต่ ไบรอัน นิคคอล มาเป็นซีอีโอ ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนมากมาย เพื่อแก้ปัญหายอดขายตกหลังลูกค้าเข้าร้านน้อยลง และสถานการณ์โลกที่ดันให้กาแฟกับวัตถุดิบต่างๆ มีราคาแพงขึ้น โดยแผนปรับเปลี่ยนที่ซีอีโอผู้นี้สั่งให้เดินหน้าไปแล้วคือ นำโซนบริการตัวเอง (เติมน้ำตาลและน้ำเชื่อมฟรี) และการเขียนชื่อลูกค้าบนแก้วเพื่อเพิ่มความประทับใจกลับมา
จากนั้นต่อเนื่องด้วยการลดความซับซ้อนของเมนูลง ออกกฎไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้สั่งเมนูเข้ามาใช้ห้องน้ำและนั่งในร้านเพื่อลดงานของพนักงาน และนำเอไอมาใช้เพื่อช่วยบาริสต้า จนมาถึงล่าสุดกับการเพิ่มท็อปปิ้งโฟมโปรตีนเย็น
ส่วนที่จีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดของ Starbucks นอกสหรัฐฯ ทางซีอีโอเผยว่า เตรียมลดราคาของบางเมนูลงเพื่อดึงลูกค้าจาก Luckin Coffee เชนร้านกาแฟเจ้าถิ่นซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญ / cnn
