งาน 2025 Retail Asia Awards งานประกาศรางวัลธุรกิจค้าปลีกที่มีความโดดเด่นในด้านต่างๆ ระดับเอเชียที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ “โลตัส” ห้างค้าปลีกชั้นนำของไทยคว้าไปถึง 3 รางวัล หนึ่งในนั้นคือ Influencer Marketing Campaign of the Year วันนี้เรามาดูกันว่าอะไรที่ทำให้โลตัสมีกลยุทธ์ด้าน Influencer Marketing อย่างไรจึงประสบความสำเร็จจนได้รับการยกย่องในระดับทวีปเอเชีย
หลายคนอาจจะจำคลิปชุด “สุขภาพดีกับ Lotus’s by หมอท็อป” อินฟลูฯ สายสุขภาพที่ให้เคล็ดลับง่ายๆ กับการเลือกซื้อหรือรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับตนเองและคนในครอบครัว หรือเคล็ดลับการช้อปสินค้าอย่างคุ้มค่าที่โลตัสกับ “แก้มบุ๋ม” ตัวแทนครอบครัวรุ่นใหม่ เมนูง่ายๆ แต่สร้างสรรค์ถูกใจคนรุ่นใหม่จาก “เชฟลัท” เชฟชื่อดังจากรายการมาสเตอร์เชฟ และ “เชฟปิง” เจ้าของฉายาเชฟกระทะหล่อ
คอนเทนท์เหล่านี้คือผลงานที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างโลตัสกับอินฟลูฯ ที่แตกต่างไปจากคอนเทนท์ที่เราเห็นกันในโลกออนไลน์ส่วนใหญ่ เพราะโลตัสไม่ได้มองแค่ยอดวิวของอินฟลูฯ หรือ algorithm ของแต่ละแพลตฟอร์ม ซึ่งตอนนี้เราทราบกันดีว่ายอดวิวปั่นได้ ดันได้หากใช้เงินมากพอ แต่กลับเน้นที่ insight หรือความเข้าใจ ความจริงใจในการสร้างคอนเทนท์ที่ทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่คนดูจะรู้สึกได้ทันทีว่านี่คือ “ของแท้ ของจริง”
ก่อนจะออกมาเป็นคอนเทนท์แต่ละชิ้น โลตัสเลือกที่จะชวนอินฟลูเอนเซอร์ตัวจริงในแต่ละสาขามานั่งคุยกันตั้งแต่ช่วงพัฒนาแคมเปญ “ร่วมคิด” ก่อนช่วยกันสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจในสไตล์ของแต่ละคนได้อย่างค่อนข้างอิสระ สร้าง “ความจริง จากตัวจริง” ให้กลายเป็นคอนเทนท์ที่มีคุณค่า มีความออริจินัล ขณะเดียวกันก็เชื่อมโยงเข้ามาหาแบรนด์โลตัส รวมถึงสินค้าและบริการต่างๆ ทำให้ผู้ที่ติดตามชมไม่รู้สึกเบื่อหรือยัดเยียด แต่ได้ความรู้และความบันเทิงอย่างเต็มอิ่ม ดูแล้วจำได้ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และยังได้ร่วมให้ความเห็น เข้ามาพูดคุยกันต่ออีกมาก
นอกจากอินฟลูฯตัวท็อปๆ แล้ว โลตัสยังเชื่อว่าไม่มีใครรู้จักลูกค้า สินค้า และบริการของโลตัสได้ดีไปกว่าพนักงานและลูกค้าของโลตัสเอง เพราะพนักงานเหล่านั้นคือกลุ่มคนจริง ใกล้ชิดกับลูกค้าจริงๆ ในทุกๆ วัน น้องๆ เหล่านั้น ใช้เวลามากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวันกับกลุ่มลูกค้า ทำให้เขาเหล่านั้น เข้าใจพฤติกรรมและสิ่งที่ลูกค้าจริงๆ ต้องการได้ตรงที่สุด ดังนั้น พนักงานและลูกค้าของโลตัสจึงได้กลายมาเป็นอินฟลูฯของโลตัสด้วย ซึ่งจากการทดลองทำแคมเปญแบบนี้ ให้ผลลัพธ์ออกมาดีเกินคาด เพราะลูกค้าสัมผัสได้ว่าเป็นเรื่องที่เกิดจากประสบการณ์จริง การเล่าเรื่องมีความจริงใจ ไม่ซับซ้อน ทำให้น่าเชื่อถือมากขึ้น รู้สึกใกล้ชิดกับ แบรนด์มากยิ่งขึ้น และทำให้รู้สึกไม่ต่างจากสโลแกนที่ว่า “รู้สึกดีดีทุกวัน ที่โลตัส” ได้จริง
การให้ความสำคัญกับพาร์ทเนอร์ซึ่งในที่นี้คืออินฟลูเอนเซอร์นี่เอง ที่ทำให้ Influencer Marketing ในแบบของโลตัสมีความโดดเด่น ทั้งการเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสม เป็นตัวจริงในสายของตนเอง และเปลี่ยนรูปแบบการทำงานจากการให้บทพูด มาเป็นให้บทบาทคนเหล่านี้ในการสื่อสาร ให้เขาร่วมเป็น โค-ครีเอเตอร์ เพราะเชื่อมั่นว่าอินฟลูฯตัวจริงเหล่านี้มีความเข้าใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับผู้ชม และลูกค้า หรือผู้ติดตามช่องของตนเอง โดยทางโลตัสสมีข้อมูลด้านการตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภคแบ็คอัพอย่างดี ทำให้สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายและประเด็นในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมโลตัสจึงคว้ารางวัล Influencer Marketing Campaign of the Year มาได้จากงาน 2025 Retail Asia Awards ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติสำหรับธุรกิจค้าปลีกทั่วเอเชีย ซึ่งในการประกาศรางวัลครั้งนี้ โลตัสยังกวาดมาอีก 2 รางวัล คือ Hypermarket of the Year และ Domestic Retailer of the Year ที่ยิ่งตอกย้ำความแข็งแกร่งของโลตัสในธุรกิจค้าปลีกได้อย่างชัดเจน
ในช่วงครึ่งปีแรก โลตัสยังได้รับรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย อาทิเช่น Top Brand 2024 ประเภทซูเปอร์มาร์เก็ต (3 ปีซ้อน) Best Brand Performance on Social Media (ประเภท Hypermarket & Supermarket) และ LINE Thailand Awards 2024 (รางวัล Best LINE Ads กลุ่มค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ)
รอดูกันต่อว่า โลตัสจะมีคอนเทนท์อะไรที่ทำจริง ทำถึงแบบนี้ออกมาอีก
