คมสันต์ ลี จากเด็กบนดอยวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย สู่ผู้ก่อตั้ง Flash Express ยูนิคอร์นหมื่นล้าน ที่มีเรื่องราวชีวิตทางธุรกิจสุดเดือด กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้ซีรีส์ “สงครามส่งด่วน” ที่กำลังโด่งดังทาง Netflix

ในซีรีส์ เรื่องราวของเขาจบด้วยความแฮปปี้เอนดิ้ง สามารถชนะคู่แข่ง และกลายเป็น “สตาร์ตอัปยูนิคอร์น” รายแรกของประเทศไทย
ในชีวิตจริง Flash Express เป็นสตาร์ตอัปยูนิคอร์นเมื่อปี 2564 สามารถระดมทุนรอบ Series D+ และ E รวม 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 4,600 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่ากิจการทะยานเกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ยูนิคอร์นคือคำเรียกบริษัทสตาร์ตอัปที่มีมูลค่ากิจการเกิน 1 พันล้านดอลลาร์
การได้เป็นยูนิคอร์น คือช่วงเวลาที่ Flash Express ไม่ได้แค่พิสูจน์ว่าทำได้ แต่แสดงว่าโมเดลธุรกิจของเขาดีพอให้โลกรับรู้ ให้คุณค่า และยอมรับเป็นยูนิคอร์นตัวจริงในเวลาอันสั้น
“ยูนิคอร์น” คือคำที่คมสันต์เคยบอกกับ “หนุ่มเมืองจันท์” ในงานสัมมนา New Era Economy ว่าเป็นคำที่เขาใฝ่ฝันอยากได้มากที่สุด
แต่เมื่อได้รับมันจริง ๆ กลับกลายเป็นคำที่เขาไม่ชอบเลย
เพราะแม้มันจะเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จของสตาร์ตอัป แต่ผ่านไปเพียงปีเดียว คำ ๆ นี้กลับทำให้คนในองค์กรเริ่มประมาท เข้าใจว่าบริษัทประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนแล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริง ยังต้องเจอกับความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และอาจล้มเหลวได้ทุกเมื่อเหมือนเดิม
คำพูดของเขาสะท้อนมายังผลประกอบการในปี 2565 จากเม็ดเงินกำไร 5.6 ล้านบาทในปี 2564 พลิกขาดทุนถึง 2,186 ล้านบาท มีรายได้ 14,805 ล้านบาท
ในปี 2566 เขาต้องปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ ลดบทบาทตัวเอง กระจายอำนาจมากขึ้น ทำให้รายได้เพิ่มเป็น 20,093 ล้านบาท แต่ยังขาดทุน 559 ล้านบาท
ปี 2567 เริ่มเห็นกำไรอีกครั้ง 940 ล้านบาทในรอบ 3 ปี รายได้รวม 24,728 ล้านบาท
เขาบอกว่า วันนี้ไม่ว่า Flash Express จะแข็งแรงขึ้นแค่ไหน แต่ถ้าเราไม่ทำอะไร ก็อาจจะเป็นได้แค่กรรมกรส่งของและสุดท้ายจะถูกแทนที่ได้ง่ายมาก
บทเรียนจากคำว่า “ยูนิคอร์น” สอนให้เขาไม่หลงกับคำว่าชัยชนะ แต่เปลี่ยนแนวคิดใหม่ จากผู้ให้บริการปลายทาง เป็นผู้ที่พยายามเข้าไป “เริ่มต้น” กับลูกค้าตั้งแต่วันแรกของการขาย เพื่อให้ลูกค้าเห็นความสำคัญตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจ
ดังนั้น นอกจากเขาทุ่มเทให้กับธุรกิจหลักคือ Flash Express แล้ว หลายปีมานี้ยังมีชื่อของเขาปรากฏเป็นกรรมการ เป็นผู้ถือหุ้นในธุรกิจอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งสินเชื่อ, ที่ปรึกษา, โฮลดิ้ง, บริการเฉพาะทาง, ขนส่งเย็น, การลงทุนเชิงเทค เครื่องมือหลังบ้าน และขยายตลาดระหว่างประเทศในหลายประเทศ (ในตาราง Marketeer รวบรวมมาได้เพียงบางส่วน)
ล่าสุด บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFMAMA ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า” ได้อนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ชื่อ “บริษัท ไทยเพรซิเดนท์เบเวอร์เรจ จำกัด” โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายธุรกิจไปยังผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม คมสันต์ แซ่ลี ถือหุ้นด้วย 25%
ถึงแม้ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นเครื่องดื่มอะไร แต่ทำให้ข่าวนี้มีสีสันน่าสนใจขึ้นมากมาย
เขาอ้างคำพูดของลีกาชิง ที่เคยพูดกับแจ็คหม่า ว่า
“โลกวันนี้ไม่มีอะไรแน่นอนอีกต่อไปแล้ว และต่อให้เกิดสงครามและวิกฤต แต่เชื่อไหมว่าฉันจะยังมีธุรกิจ 1 ถึง 2 ตัวที่ยังทำกำไรได้”
วันนี้แม้หลายกิจการยังขาดทุน และ cash cow ตัวใหม่อาจจะยังไม่ชัดเจน แต่การขยับตัวของเขายังเต็มไปด้วยพลัง
ภาค 2 ของ คมสันต์ ลี ในโลกแห่งความจริง จึงเป็นเรื่องที่เร้าใจให้ติดตามเหมือนเดิม
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
