ศรีจันทร์ แบรนด์ไทยที่กำลังเติบโตรับรุ่งอรุณของ T-Beauty กวาดยอดขาย 1,600 ล้าน
นับเป็นปีทองของ T-Beauty แบรนด์ไทยหลายแบรนด์ต่างประกาศยอดขายทะลุพันล้าน เขย่าตลาดบิวตี้ 2.7 แสนล้าน ให้เติบโตสวนทางเศรษฐกิจที่ซบเซา
แต่บิวตี้แบรนด์ไทยที่ Represent ความเป็นไทยได้ดีที่สุด เห็นจะเป็น “ศรีจันทร์” เจ้าของแป้งม่วงในตำนานที่ผู้หญิงทุกคนรู้จัก เคล็ดลับความสวยตั้งแต่รุ่นแม่ ทุกยุคทุกสมัย แต่แม้จะอยู่มา 76 ปี ศรีจันทร์ครองใจคนรุ่นแม่ได้เช่นไร ก็ครองใจคนรุ่นใหม่ได้เช่นนั้น จนวันนี้มียอดขายระดับ 1,600 ล้านบาท

รวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จํากัด ทายาทรุ่นที่ 3 กล่าวว่า บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ในช่วงปี 2021-2024 แม้จะเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องจากโควิด-19 แต่บริษัทสามารถปรับตัวรับความท้าทาย และพลิกเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโต
จนทำให้บริษัทมียอดขายรวมกว่า 1,000 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2023 และเติบโตต่อเนื่องแบบ Double Digit ตั้งแต่ปี 2021-2024 โดยเฉพาะเมื่อดูจากอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) ของทั้งสองแบรนด์หลักอย่างศรีจันทร์ และ ศศิ ซึ่งอยู่ที่ระดับสูงถึง 51% และ 53% ต่อปีตามลำดับ สำหรับปี 2568 โตทะลุ 1,600 ล้านบาท เติบโต 58.98% จากปีก่อน
การเติบโตรายประเภทผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เมคอัพ (11%) สกินแคร์ (148%) ครีมกันแดด (73%) หมวดเมคอัพ สินค้าที่ขายดีที่สุดคือ แป้งฝุ่นโปร่งแสง Bare to Perfect Translucent Powder (10 g) อ้างอิงจากข้อมูล NielsenIQ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มแป้งฝุ่น (Loose Powder) ในประเทศไทย
ทั้งนี้ ศรีจันทร์เข้าสู่ตลาดสกินแคร์ตั้งแต่ปี 2021 และในปี 2024 บริษัทสามารถมีการเติบโตถึง 117% ในหมวดสกินแคร์ จนขึ้นแท่นเป็นแบรนด์ไทยอันดับ 1 ในตลาดสกินแคร์ พร้อมตั้งเป้าจะเพิ่มยอดขาย 45% ในปี 2025
หมวดสกินแคร์ สินค้าที่ขายดีที่สุดคือ SRICHAND Skin Moisture Burst Gel Cream Sachet (10 ml) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวหน้า (Moisturizer for Face) ในประเทศไทย โดยมีอัตราการเติบโต 79% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดที่เติบโต 3.44% อ้างอิงจากรายงาน NielsenIQ
จากที่เดิมผงหอมศรีจันทร์รีแบรนด์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็น “แบรนด์ศรีจันทร์” ด้วยการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์องค์กร รีแบรนด์บรรจุภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่าย ทำให้ศรีจันทร์กลับมาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในตลาดอีกครั้ง กลับมาครองใจผู้บริโภค
ขณะที่ “ศศิ” แม้จะก่อตั้งได้ไม่นาน ปี 2017 แต่มีการเติบโต CAGR มากกว่า 50% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2021-2024 เป็นแบรนด์ที่ตั้งใจจับกลุ่มลูกค้าวัยเรียน วัยเริ่มทำงาน เน้นกลุ่มเมคอัพที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
ยอดขายรวมย้อนหลังของบริษัท ศรีจันทร์ สหโอสถ จำกัด
ยอดขายปี 2021 คือ 520 ล้านบาท
ยอดขายปี 2022 คือ 717 ล้านบาท (+42.02%)
สำหรับยอดขายปี 2023 คือ 1,019 ล้านบาท (+41.92%)
และยอดขายปี 2024 คือ 1,600 ล้านบาท (58.98%)
ตั้งเป้ายอดขายปี 2025 มากกว่า +30% – 40% เป็นรายได้รวมจากช่องทางการจำหน่ายแบบออฟไลน์ 90% และออนไลน์ 10%
4 กลยุทธ์ ยืนหยัดเป็นบิวตี้แบรนด์ไทย
- รักษาเอกลักษณ์ Modern Classic Thainess ของแบรนด์ไว้
ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ศรีจันทร์รักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้ในแบรนด์มาตลอด ตั้งแต่ชื่อแบรนด์ที่ไม่เคยเปลี่ยน
นับจากยุครีแบรนดิ้งที่นำเสนอความเป็นไทยแบบทันสมัย กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญและแนวทางที่ศรีจันทร์รักษาเอกลักษณ์มาตลอด เช่น การใส่คำว่า “SRICHAND BANGKOK 1948” ระบุเมืองและปีต้นกำเนิดลงในผลิตภัณฑ์เพื่อเน้นความสำคัญของรากฐานความเป็นไทย และยังสื่อสารให้ผู้บริโภคภูมิใจกับความเป็นแบรนด์ไทยไปด้วย - พรีเซ็นเตอร์คือหน้าตาของแบรนด์
กลยุทธ์ในการเลือกพรีเซ็นเตอร์ของศรีจันทร์และศศิ คือ มองหาตัวแทนคนไทยที่มีความร่วมสมัยทั้งความคิด ความสามารถ และภาพลักษณ์ เข้าถึงง่าย ทำให้คนรู้สึกภูมิใจในความเป็นคนไทย ปัจจุบัน พรีเซ็นเตอร์ของศรีจันทร์ ได้แก่ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ (Base Makeup) โบว์ เมลดา สุศรี (Sunscreen) แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล (SRICHAND IN-SKIN) และพรีเซ็นเตอร์ของ sasi ได้แก่ เก้า-สุภัสสรา ธนชาต (Face of sasi- Lipstick & Eyebrow) และ PROXIE (Face of sasi- Loose Powder & Foundation) - พัฒนาคุณภาพสินค้าเทียบเคียงสากล
การพัฒนาสูตรต่างๆ มีการใช้ข้อมูล Market trend, Research ต่างๆประกอบรวมกัน และคัดเลือก Active Ingredients ที่มีความโดดเด่นเรื่อง Technology และการทดสอบผลต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะออกมาดี เกิดผลัพธ์ตามที่ Claim ไว้ - สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่คนอยากร่วมงานด้วย
บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ได้รับการยอมรับในฐานะองค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วย จากการได้รับคะแนนอันดับที่ 1 จาก 55 บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยปี 2025 โดย QMAC : QGEN Thailand Most Attractive Companies 2025 ฯลฯ เนื่องมาจากวัฒนธรรมในการทำงานที่มุ่งเน้น “Resilience” เพื่อให้พนักงาน พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และดึงศักยภาพสูงสุดมาใช้ได้ พร้อมทั้งสวัสดิการที่ให้คุณค่าความเท่าเทียมและการพัฒนาศักยภาพ เช่น ลาคลอด ลาดูแลภรรยาที่ตั้งครรภ์หรือคลอดบุตร ลาผ่าตัดแปลงเพศ ลาพักใจกรณีสูญเสียบุคคลในครอบครัว 10 วันต่อปี ลาปฏิบัติธรรมหรือศาสนกิจ ฯลฯ
ตลาดต่างประเทศ ลาวและญี่ปุ่นสัญญาณตอบรับดี
ศรีจันทร์มีการขยายสู่ตลาดลาว โดยมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี ตั้งแต่ 2021-2024 อยู่ที่ 112.5% ต่อปี ลาวเป็นประเทศที่คนเสพคอนเทนต์ของไทย ทำให้ไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกัน สินค้าที่ได้รับความนิยมอยู่ในหมวดสกินแคร์ เช่น Moisture Burst Series, Sunscreen แป้งฝุ่นและรองพื้น สร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมระดับประเทศ เช่น สนับสนุนการประกวด Miss Universe Laos ในปี 2022-2024 การจัดงานและสนับสนุน Laos Fashion Week 2024 ฯลฯ และมีการใช้ Local Brand Presenter คือ “Nethdao” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังของลาว
นอกจากนั้น ยังมีสัญญาณตลาดที่ดีในตลาดญี่ปุ่น ปัจจุบันศรีจันทร์วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มแป้งในตลาดญี่ปุ่นผ่านช่องทางออฟไลน์มากกว่า 2,000 ร้านค้าทั่วประเทศ นอกจากนั้น ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของศรีจันทร์ ทำให้ BANDAI บริษัทผลิตของเล่นจากประเทศญี่ปุ่นขอซื้อลิขสิทธิ์ของตัวแป้ง เพื่อนำไปทำเป็นกาชาปอง โดยเลือกจากแป้งที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นทั้ง 6 แบบอีกด้วย
รุ่งอรุณของ T-Beauty
กระแส T-Beauty ที่มาแรงตั้งแต่ปีก่อน คนไทยเริ่มหันมาให้ความสนใจสินค้าไทย ทำให้แบรนด์ต้องแข่งขันกันพัฒนาคุณภาพโปรดักส์ จนเมื่อสินค้าคุณภาพดีคนก็ยิ่งหันมาใช้แบรนด์ไทยกันมากขึ้น เมื่อแบรนด์ในประเทศแข็งแกร่ง ตลาดต่างประเทศก็ได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย ทำให้เวลานี้คือ “ยุครุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง” หรือ “The Dawn of Thai Beauty Era”
ตลาดต่างประเทศมีความเชื่อมั่นต่อ T-Beauty หรือ Thai Beauty ได้รับความนิยม อันเป็นผลจากการส่งผ่านทางละคร ซีรีส์ เพลง ฯลฯ ทำให้ผลิตภัณฑ์ความงามของไทยได้รับความนิยมไปด้วย ชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยก็ซื้อผลิตภัณฑ์ไทยกลับไปด้วย
อย่างเช่น ในประเทศญี่ปุ่น มีเทรนด์ “สุวาอิ เมคุ” ซึ่งหมายถึงการแต่งหน้าแบบไทย ผิวใช้รองพื้นแบบกึ่งแมตต์ ปัดขนคิ้วให้ตั้งขึ้นเล็กน้อย โชว์ขนคิ้วที่เรียงตัวเป็นธรรมชาติ ตาใช้อายแชโดว์โทนธรรมชาติ กรีดอายไลน์เนอร์ และปัดขนตาล่างให้ยาว ปากใช้ลิปสติกเนื้อเซมิแมตต์ และปัดแก้มเป็นวงรีใช้สีที่ดูสุขภาพดี
ศรีจันทร์ จึงต่อยอดความสำเร็จนี้ให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจด้วยการขยายสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนด์ระดับภูมิภาค โดยเป้าหมายหลักคือ ตลาดอาเซียน และตลาดเอเชีย เน้นการหาคู่ค้าทางธุรกิจเพื่อเป็น Distributor ในแต่ละตลาด โดยจะมุ่งเน้นไปยังบริษัทท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการขายและทำการตลาดทั้ง Offline และ Online ตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นจนมีสัดส่วนเป็น 10-15% ภายในเวลา 3 ปี
“นี่คือรุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลงของ T-beauty ที่ต้องคว้าโอกาสไว้” คุณรวิศกล่าว
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
