เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา หลัว หย่งเห่า หนึ่งในนักไลฟ์สตรีมแถวหน้าของธุรกิจขายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในจีน ได้ทดลองใช้เวอร์ชันดิจิทัลของตัวเองและ เสี่ยว มู่ ผู้ร่วมดำเนินรายการ ซึ่งล้วนถูกสร้างขึ้นจาก เอไอ เพื่อมาโต้ตอบกับผู้ชมแบบเรียลไทม์นานกว่า 6 ชั่วโมง บนแพลตฟอร์ม Youxuan ของ Baidu 

ผลที่ออกมาทำให้เขาเองยังต้องทึ่ง เพราะสามารถทำยอดขายได้ถึง 55 ล้านหยวน (ราว 284 ล้านบาท) แซงหน้าการไลฟ์ของเขาเองในแพลตฟอร์มเดียวกันเมื่อเดือนก่อนไปแบบขาดลอย

หลัว หย่งเห่า เริ่มต้นอาชีพไลฟ์สตรีมเมื่อเดือนเมษายน 2020 บนแอปพลิเคชันวิดีโอสั้น Douyin ของ ByteDance เพื่อหาเงินมาล้างหนี้จากบริษัทสมาร์ทโฟน Smartisan ที่ประสบปัญหา โดยบัญชีไลฟ์สตรีม “Be Friends” ของเขามีผู้ติดตามเกือบ 24.7 ล้านคน

ตัวตนเสมือนจริงที่สร้างจาก เอไอ ของ หลัว หย่งเห่า และผู้ร่วมดำเนินรายการถูกสร้างขึ้นโดยใช้ โมเดลเอไอของ Baidu ซึ่งเรียนรู้และเลียนแบบมุกตลก รวมถึงสไตล์การพูดของพวกเขาจากวิดีโอที่มีอยู่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา อู๋ เจียหลู

หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Be Friends Holding บริษัทอีกแห่งของ หลัว หย่งเห่า ให้สัมภาษณ์ว่า วงการไลฟ์สตรีมของจีนกำลังสั่นสะเทือนจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาทดแทนคนด้วยงบที่ถูกกว่า หรือเรียกได้ว่าเป็น “ช่วงเวลา DeepSeek” ที่วงการเอไอในสหรัฐฯ เพิ่งเจอมาจนเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกเมื่อต้นปี 2025 เข้าเสียเอง 

ข้อดีของอวตารเอไอ คือสามารถลดต้นทุนได้อย่างมหาศาล เพราะบริษัทไม่จำเป็นต้องจ้างทีมงานผลิตหรือสตูดิโอขนาดใหญ่ในการไลฟ์สตรีม อีกทั้งอวตารเหล่านี้ยังสามารถสตรีมได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องหยุดพัก ซึ่งตรงข้ามกับคนที่ต้องมีเวลาพักเบรก

สำหรับการช้อปปิ้งผ่านไลฟ์สตรีมได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในจีนหลังจากเกิดโรคระบาดใหญ่ ซึ่งทำให้ธุรกิจต้องมองหาช่องทางการขายทางเลือกใหม่ ๆ นอกจากนี้ ผู้คนจำนวนมากขึ้นยังหันมาไลฟ์สตรีมเพื่อหารายได้จากค่าคอมมิชชันและของขวัญเสมือนจริง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตช้าลง

เมื่อปี 2024 การไลฟ์สตรีมสามารถสร้างยอดขายบน Douyin ได้อย่างมหาศาล จนแซงหน้า JD.com ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซแบบดั้งเดิม ขึ้นเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจีน และยังเบียดส่วนแบ่งตลาดของ Alibaba ซึ่งเป็นผู้นำตลาดอีกด้วย

ขณะเดียวกัน บริษัทอื่น ๆ ในจีน เช่น Tencent ก็ได้พัฒนาเครื่องมือสำหรับสร้างมนุษย์ดิจิทัลที่สามารถนำไปใช้เป็นผู้ประกาศข่าวได้ และในช่วงปลายปี 2023 ธุรกิจหลายแห่งก็เริ่มทดลองใช้ไลฟ์สตรีมเมอร์เสมือนจริงในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งวันคนโสด

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ได้ออกมาเตือนว่าสินค้าที่ขายผ่านไลฟ์สตรีมมักมี อัตราการคืนสินค้าสูง เนื่องจากมักเป็นการซื้อแบบหุนหันพลันแล่น

อู๋ เจียหลู กล่าวทิ้งท้ายว่าความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการใช้มนุษย์เสมือนจริงมาไลฟ์สตรีมไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยีอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของ ข้อกำหนดและกฎระเบียบของแพลตฟอร์ม เพราะมนุษย์ดิจิทัลจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนให้ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณาสินค้า ในขณะที่แพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมขนาดใหญ่อาจมีกฎที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการนำตัวตนที่สร้างจาก เอไอ มาจัดรายการ / cnbc


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer