แมริออท บอนวอย (Marriott Bonvoy) โปรแกรมสะสมคะแนนและแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวจากแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย
ในโอกาสที่ จอห์น ทูมีย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นจีน) หรือ Chief Commercial Officer, Asia Pacific excluding China (APEC) แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล มาเยือนประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกลยุทธ์ในการขยายฐานสมาชิก “แมริออท บอนวอย” ในภูมิภาค APEC ซึ่งปัจจุบันมีฐานสมาชิกเกือบ 240 ล้านคนทั่วโลก
เขาระบุว่า โปรแกรม “แมริออท บอนวอย” มีอายุ 6 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมามีการพัฒนาและขยายตัว อย่างต่อเนื่อง โดยมียุทธศาสตร์สำคัญคือ การสร้างให้ “แมริออท บอนวอย”เป็นมากกว่าแค่ “โปรแกรมสะสม คะแนน” แต่เป็น “พันธมิตรสำคัญ” (Partner of Choice) ของสมาชิก
“เราต้องการให้สมาชิกได้รับโอกาสในการสะสมคะแนนมากยิ่งขึ้นในระหว่างการเดินทาง ที่สำคัญคือ ทำให้ แมริออท บอนวอย กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่ตอนที่เข้าพักเท่านั้น”
ความสำเร็จของโปรแกรมแมริออท บอนวอยสะท้อนจากจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในภูมิภาค APEC โดยปี 2024 เติบโตขึ้น 17.4% เทียบกับปี 2023
จอห์น ทูมีย์ ระบุว่า ในปีนี้ “แมริออท บอนวอย” ในภูมิภาค APEC และประเทศไทย ยังคงเดินหน้า กลยุทธ์ มอบสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้น ด้วยหลากหลายวิธีในการสะสมคะแนนและแลกรับสิทธิประโยชน์ การเพิ่มจำนวนพันธมิตรที่มากขึ้น และการนำเสนอความคุ้มค่าที่มากขึ้น
รวมถึงให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์ม “แมริออท บอนวอย โมเมนต์ส” (Marriott Bonvoy Moments) ที่มอบประสบการณ์พิเศษระดับ “เงินก็ซื้อไม่ได้” ให้กับสมาชิก ผ่านอีเวนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟตลอดปีนี้
ไฮไลท์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง อาทิ การแข่งขัน Formula 1 (F1) Singapore Grand Prix 2025 ระหว่างวันที่ 3 – 5 ตุลาคม 2025 และงานอีเวนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับวง K-pop ชื่อดัง จัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ในเดือนกรกฎาคม เป็นต้น
อีกกลยุทธ์สำคัญของแมริออท บอนวอยคือ การตอบสนองพฤติกรรมนักเดินทางในกลุ่ม Gen Z & Millennial ที่เติบโตขึ้นทั่วโลก จากงานวิจัยของแมริออท บอนวอย “Gen Z & Millennial Trend Report (2024)” ที่ระบุถึงพฤติกรรมของนักเดินทางกลุ่มนี้ อาทิ
เขามองว่า พฤติกรรมที่เด่นชัดของนักเดินทางกลุ่ม Gen Z & Millennial คือ ต้องการความแท้จริง (authenticity) ความเป็นเอกลักษณ์ และต้องการประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งทำให้โรงแรมต้องปรับตัวในการจัดเตรียมช่วงเวลาที่น่าสนใจและ พิเศษจริงๆ ให้กับคนกลุ่มนี้
ยกตัวอย่าง การจัดกิจกรรมที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บไข่ไก่ การชิมน้ำผึ้งสดๆ จากรังผึ้ง หรือการเด็ดสมุนไพรและผักสดจากสวน ฯลฯ ซึ่งถือเป็น “นิยามใหม่” ของการเดินทาง ประสบการณ์เหล่านี้คือ ช่วงเวลาที่กลายเป็นความทรงจำ และนั่นคือช่วงเวลาพิเศษที่ “แมริออท บอนวอย” พยายามสร้างสรรค์ขึ้น
เขาย้ำว่า วันนี้ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล มีความพร้อมในการตอบสนองความต้องการนักเดินทางกลุ่มนี้ ผ่านแมริออท บอนวอย ซึ่งเป็นสะพานเชื่อมระหว่างนักเดินทางกลุ่ม Gen Z กับโรงแรมของเราใน แต่ละจุดหมายปลายทาง สิ่งสำคัญคือ โรงแรมแต่ละแห่งต้องเปิดรับและผสมผสานวัฒนธรรม รวมถึงความ โดดเด่นเฉพาะตัวของสถานที่นั้นๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบและน่าประทับใจให้แก่ผู้เข้าพักกลุ่มนี้
ด้วยเป้าหมายต้องการให้โรงแรมทุกแห่งของแมริออทฯ ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางที่ช่วยให้เมื่อ นักเดินทางมาถึง รู้สึกได้ถึงเอกลักษณ์ของจุดหมายปลายทางนั้นๆ ในบางแง่มุมโรงแรมก็เปรียบเสมือน ตัวแทนของจุดหมายปลายทางนั้น และต้องมีการเชื่อมโยงกับสิ่งพิเศษและเอกลักษณ์ต่างๆ ที่สถานที่นั้นมีให้
“เราไม่ได้คาดหวังให้นักเดินทาง โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z อยู่แต่ในโรงแรมตลอดเวลา แต่คาดหวังให้ พวกเขาได้มาเยี่ยมชมโรงแรมและได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่ พร้อมรับประสบการณ์ที่ดี จากนั้นก็ออกไปสำรวจและ สัมผัสสิ่งที่จุดหมายปลายทางนั้นมีให้”
หลักคิดดังกล่าวส่งผลต่อการวางแผนกิจกรรมต่างๆ ซึ่งถือเป็นคีย์ซัคเซสที่ทำให้แมริออท บอนวอยสามารถรักษาความผูกพันของสมาชิกที่มีต่อโปรแกรมได้อย่างยาวนาน หัวใจหลักคือ “ประสบการณ์” โดยมอบสิ่งที่มากกว่า “ความคาดหวัง” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการรักษาความสัมพันธ์และความผูกพันที่เหนียวแน่น กับสมาชิก
เขาขยายความว่า สำหรับแมริออทฯ การต้อนรับที่ดีไม่ได้หมายถึงแค่การให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น หรือการบริการที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่คือการเชื่อมโยงนักเดินทาง เข้ากับประสบการณ์ที่พิเศษและไม่เหมือนใคร
“คุณต้องมีการต้อนรับอย่างอบอุ่น มีบริการดีเยี่ยม แต่สิ่งสำคัญคือ การให้สิ่งที่มากกว่า สิ่งที่สมาชิกอาจหาไม่ได้จากที่อื่น สิ่งนี้เป็นคีย์ซัสเซสของเรา โดยตระหนักว่าหากโรงแรมของเราทำได้ดีในการ ผสานตัวเองเข้ากับเอกลักษณ์ของจุดหมายปลายทาง นักเดินทางเหล่านั้นก็จะเลือกพักกับเราไปตลอดชีวิต” John Toomey กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับประเทศไทย เขาย้ำว่า วันนี้ แมริออท บอนวอย เปรียบเสมือน พันธมิตรด้านอุตสาหกรรมบริการระดับโลกที่พร้อมจะขับเคลื่อนบทใหม่ของการท่องเที่ยวไทย (The Global Hospitality Partner Powering Thailand’s Next Tourism Chapter) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักเดินทางจากทั่วโลก สำหรับการมาเยือนประเทศไทยในรูปแบบที่มีความหมายและยั่งยืนมากขึ้น
“นักเดินทางยุคใหม่ไม่ได้มองหาวันหยุดธรรมดาอีกต่อไป พวกเขาต้องการความหมาย การเชื่อมโยง และเรื่องราวประทับใจกลับบ้านไป นั่นคือเหตุผลที่เราเชื่อว่ายุคทองของการท่องเที่ยวไทยยังรออยู่ข้างหน้า
สำหรับแมริออทเราไม่ได้ลงทุนแค่ในเรื่องโรงแรม แต่เราลงทุนพัฒนาคน ส่งเสริมศักยภาพของสถานที่ท่องเที่ยว และสร้างพันธมิตรที่จะช่วยกำหนดอนาคตของการท่องเที่ยวไทย และสร้างแรงบันดาลใจให้นักเดินทางจากทั่วโลกมาเยือนประเทศไทยในรูปแบบที่มีความหมายและยั่งยืนมากขึ้น” จอห์น ทูมีย์ กล่าวทิ้งท้าย
Website : Marketeeronline.co /