ศูนย์พักพิงสัตว์ในสหรัฐฯ กำลังเผชิญปัญหาใหญ่จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและปัจจัยลบมากมาย จนเจ้าของพากันนำสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะหมาและแมวไปให้ศูนย์ฯ รับไปดูแลต่อ เพราะเลี้ยงเองต่อไปไม่ไหว

แม้สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เจ้าของถูกมองเหมือนคนใจร้าย และสะท้อนถึงปัญหาของศูนย์พักพิง แต่หากพิจารณาจากปัจจัยลบต่างๆ ที่รุมประดังเข้ามาที่ฝ่ายเจ้าของแล้ว ก็ต้องบอกว่าน่าเห็นใจ เพราะมันบีบให้พวกเขาไม่มีทางเลือก

เมลลิสซา ไนซลีย์ โฆษกของศูนย์ดูแลสัตว์ Charlotte-Mecklenburg Animal Care & Control ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งทำงานในวงการนี้มากว่า 19 ปี สังเกตเห็นสัญญาณที่น่าเศร้าอย่างหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ

นั่นคือ การที่ผู้คนนำสัตว์เลี้ยงมาทิ้งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอเห็นปรากฏการณ์นี้ในช่วงวิกฤตการเงินปี 2000 การเลิกจ้างงานครั้งใหญ่ และล่าสุดคือช่วงที่เงินเฟ้อพุ่งสูง

ในปีนี้ สถานการณ์ยิ่งน่าเป็นห่วง โดยจำนวนสัตว์เลี้ยงที่ถูกเจ้าของทิ้งจนทางศูนย์ดังกล่าวต้องรับไปดูแลต่อ เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ไนซลีย์ยืนยันว่า ทุกครั้งที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ จำนวนเคสที่เจ้าของนำสัตว์มาทิ้งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จนสังเกตได้

สถานการณ์แบบเดียวกันนี้ยังเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ของสหรัฐฯ ด้วย โดยองค์กรช่วยเหลือสัตว์และศูนย์พักพิงทั่วประเทศต่างรายงานการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง หลายองค์กรให้ข้อมูลกับ CNN ว่า ความยากลำบากทางการเงินคือสาเหตุหลักของการตัดสินใจอันเจ็บปวดเหล่านี้

ยกตัวอย่างเช่นที่ ศูนย์ Ruff Start Rescue ในรัฐมินนิโซตา ได้รับแจ้งเมื่อต้นปี 2025 ถึงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า เจ้าของเกือบ 1,500 คน แจ้งให้รับสัตว์เลี้ยงไปดูแลต่อ ซึ่งสูงกว่าเกือบ 1,300 คนเมื่อช่วงเดียวกันของปี 2024 และบางวันมีมากถึง 22 คนที่แจ้งเข้ามา

ส่วนบางแห่งต้องบอกว่าสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต เช่น ศูนย์ Animal Care Centers of New York ในนิวยอร์ก ที่จำเป็นต้องระงับการรับสัตว์เลี้ยงชั่วคราวเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเกินขีดความสามารถในการรับสัตว์เลี้ยงแล้ว หลังมีสัตว์เลี้ยงกว่า 1,000 ตัวในการดูแล

ขณะที่ชิคาโก สำนักงานดูแลสัตว์และการควบคุมของเมืองได้โพสต์เตือนถึงจำนวนสัตว์ที่เข้ามาในศูนย์เฉลี่ย 56 ตัวต่อวันในเดือนพฤษภาคม จนทั้งอาหาร กำลังเจ้าหน้าที่ และจำนวนกรง ไม่พอที่จะรับสัตว์ตัวใหม่ๆ แล้ว

วิกฤตครั้งนี้เกิดจากปัจจัยลบมากมาย โดยปัจจัยแรกคือ ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสัตว์ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล หรืออุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างมาก และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากกำแพงภาษีนำเข้า

นอกจากนี้ ปัญหาหนี้สิน การเจ็บป่วยกะทันหัน การตกงาน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เจ้าของหมดทางเลือก

ปัจจัยต่อมาคือเรื่องที่พัก เพราะผู้คนไม่สามารถหาที่อยู่อาศัยที่ราคาจับต้องได้และอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ พวกเขาถูกบีบให้ย้ายไปที่อื่นที่ไม่สามารถนำสัตว์เลี้ยงไปด้วยได้

ขณะที่เจ้าของจำนวนไม่น้อยก็จำเป็นต้องทิ้งบรรดาสัตว์เลี้ยงแสนรัก หลังถูกบีบให้ต้องเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด เพราะถูกเนรเทศจากนโยบายไม่ต้อนรับชาวต่างชาติของรัฐบาลสหรัฐฯ

ยังมีอีกปัจจัยที่ทำให้วิกฤตครั้งนี้เลวร้ายอย่างมาก นั่นคือ จำนวนศูนย์พักพิงสัตว์ในสหรัฐฯ มีจำนวนลดลง และสัตวแพทย์กับเจ้าหน้าที่ก็มีไม่เพียงพอ

สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่พึ่งพาเรา และเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการหาวิธีช่วยเหลือทั้งสัตว์และเจ้าของที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากนี้ / cnn


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer