รพินท์นิภา ทำความรู้จัก Boutique Agency แบบ All-in-One ที่ขับเคลื่อนด้วย Passion-Driven Strategy สู่ Trend Setter ที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ
ชื่อของ “Rapinnipha’s” (รพินท์นิภา) เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ชั้นนำหลากหลายแบรนด์ และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนแคมเปญต่าง ๆ ให้ประสบความสำเร็จ เจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด บริการแบบ All-in-One ครบจบในที่เดียว ทั้ง Digital Strategic PR Planning, Marketing Communication, Social Influencer Management, Event Management ฯลฯ ด้วย Digital Tool มากมายที่พร้อมเสิร์ฟให้กับแบรนด์พาร์ทเนอร์มากมาย
เบื้องหลังความสำเร็จคือการขับเคลื่อนองค์กรของ คุณจอย-รพินท์นิภา เกียรติธนฉัตร์ CEO คนเก่งของบริษัท รพินท์นิภา จำกัด ที่มีหลากหลายแง่มุมชีวิตและประสบการณ์การทำงานที่น่าสนใจ Marketeer พาไปพูดคุยเจาะลึกถึงสูตรสำเร็จการทำงานในแบบฉบับ “Rapinnipha’s” กับนิยามความเป็น Boutique Agency แบบ All-in-One ที่ขับเคลื่อนด้วย Passion-Driven Strategy พร้อมก้าวสู่ Trend Setter ที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ
ประสบการณ์การทำงาน สู่นิยามความเป็นตัวเอง
คุณจอย เริ่มต้นเล่าถึงเส้นทางก่อนจะเป็น “Rapinnipha’s” ในวันนี้ ว่าเกิดจากการหลอมรวมของ ความเป็นตัวเอง การเรียนรู้ และประสบการณ์ทำงาน ซึ่งหลากหลายเรื่องราวเป็นมากกว่าความทรงจำ แต่ยังเป็นเบ้าหลอมสำคัญสู่การทำงานที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
“เริ่มต้นจากความสนใจในด้าน Marketing Communication มาตั้งแต่เด็ก โดยในช่วงศึกษาที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะชื่นชอบในส่วนของ Psychology เป็นอย่างมาก และด้วยฝันที่อยากเรียน Marketing Communication จึงเลือกเรียนต่อที่ Master of Science in Marketing ที่ University of Birmingham ประเทศอังกฤษ ซึ่งศาสตร์นี้เองที่ทำให้ได้ใช้ความรู้ในเชิงจิตวิทยาและการเข้าใจผู้คนอย่างเต็มที่ และยังชื่นชอบในวิชา Strategic Brand Management ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้เป็นหนึ่งในแกนหลักสำคัญให้ยึดถือและนำมาปรับใช้ในการทำงานตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา
การเรียนรู้และการเติบโตในเส้นทาง Public Relations นั้นได้ผ่านการทำงานในองค์กรหลากหลาย ทั้ง PR ภายในและภายนอก และในบางองค์กรที่ทำงานต้องดูแลหลายเซ็กเมนต์ จึงได้เรียนรู้การประสานงานกับผู้คนที่หลากหลาย พร้อมกับการทำ Communication ที่ต้องซัพพอร์ต Selective Part ของแต่ละทีมในแต่ละเซ็กเมนต์
จนได้ก้าวสู่การทำงานในระดับ Global Brand และดูแลในพาร์ท Luxury Division ซึ่งได้รับโจทย์ให้ปั้นแบรนด์ชั้นนำและเผชิญกับความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของการ Collaboration ซึ่งในช่วง 10-20 ปีก่อนถือเป็นเรื่องใหม่มาก แต่ก็สามารถสร้างปรากฏการณ์จนทำให้แบรนด์มีพลังและคนเริ่มเชื่อมั่นในแบรนด์มากขึ้น เพราะการ Collaboration ครั้งนี้ไม่ได้แค่กับดารา นักแสดง หรือ Local Artist แต่เป็นบุคคลอีกระดับหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นเป็นที่ฮือฮาในวงการอย่างมาก และโปรเจ็กต์นี้ได้ลุยเองตั้งแต่ต้นจนจบ
ต่อมาได้ก้าวมาเป็น PR Manager ให้กับแบรนด์หนึ่งในพาร์ท Local Market โดยมีโจทย์ที่ต้องการปรับปรุงภาพลักษณ์และเปลี่ยน Mindset ของผู้คนให้มองแบรนด์ในแง่ของมูลค่าที่มากขึ้น จนได้ข้ามไปดู Total Portfolio ของผลิตภัณฑ์ Personal Care ทั้งหมดในองค์กร เรียกได้ว่าเป็น PR Brand เพียงคนเดียวขององค์กรในช่วงนั้นเลย เพราะที่เหลือมีแต่ทีม Marketing เท่านั้น”
ความเป็น “Rapinnipha’s” คือ จุดแข็งที่แตกต่าง
จากเส้นทางการทำงานบางส่วนของคุณจอยดังที่กล่าวไป คือปฐมบทก่อนจะมาเป็น “Rapinnipha’s” ซึ่งจุดตัดเล็ก ๆ ที่ทำให้เติบโตสู่องค์กรที่แข็งแกร่งและเป็นที่ไว้ใจของพาร์ทเนอร์ชั้นนำมากมายในปัจจุบัน เกิดจาก Passion ส่วนตัวที่รักในงาน PR และ Marketing Communication อย่างแท้จริง
“ตัดสินใจตั้ง บริษัท รพินท์นิภา จำกัด ด้วย Passion ล้วน ๆ เพราะเราใช้ Passion ในการทำงานเยอะมาก เราไม่แคร์ว่า Budget จะเท่าไรแต่เราแคร์ว่าผลลัพธ์คือ Performance ของแบรนด์
โดยส่วนตัวรู้สึกว่า หากพูดถึงการสร้าง Brand Love ทุกคนมักคิดว่าต้องเก่ง Strategy ต้องทำตามเทรนด์แบบนี้ ๆ เท่านั้น แต่มักจะลืมสิ่งสำคัญไปนั่นคือ สุดท้ายเวลาเราจะเลือกอะไรสักอย่าง ต้องเลือกด้วยความรู้สึกชอบจากใจก่อน ต้องรักและเชื่อมั่นในแบรนด์ และจบที่ตัดสินใจเลือกแบรนด์นั้น ๆ มาใช้หรือครอบครอง
ดังนั้นต้องทำให้ Brand ครองใจคนให้ได้ก่อน ซึ่งนี่คือหน้าที่ที่ Rapinnipha’s กำลังทำอยู่ เช่นเดียวกัน เราเปิด Rapinnipha’s จากความหลงใหลในงานของเรา ดังนั้นเราจะพยายามเต็มที่เพื่อทุกผลลัพท์ที่ยอดเยี่ยมของพาร์ทเนอร์ทุกราย ซึ่งเรานิยามมันว่า Passion Driven Strategy”
เมื่อถามว่าอะไรคือจุดเด่นที่แตกต่างของ Rapinnipha’s คุณจอยตอบอย่างชัดเจนว่า คือ “ความเป็น Rapinnipha’s” นี่เอง ที่ทำให้พาร์ทเนอร์ทุกรายเชื่อมั่นและไว้ใจ
“อย่างที่กล่าวไปว่า เราทำงานด้วย Passion เกินร้อย นี่คือ DNA ของ Rapinnipha’s และด้วยความเป็น Rapinnipha’s นี่แหละที่เรามองว่าคือจุดเด่นที่ทำให้แตกต่างจากองค์กรอื่น ๆ ในธุรกิจเดียวกัน
ภายใต้ชื่อ Rapinnipha’s เราทำงานกับพาร์ทเนอร์มาหลายร้อยแอคเคาท์ และไม่ใช่แอคเคาท์ในอดีตแต่ทั้งหมดคือปัจจุบัน เราทำงานด้วยมาตรฐานระดับสูงของตัวเอง แม้เราจะมีจํานวนพนักงานไม่เยอะ แต่เราสร้าง Quality Piece of Work ในระดับสูงได้ เราเน้นเรื่อง Quality เป็นหลักสำคัญในการทำงาน
เราไม่มี Sales ไม่มี AE เรามีแต่ ‘Word of Mouth’ ลูกค้าแนะนำลูกค้ามาให้อย่างต่อเนื่อง และกล้าพูดได้เลยว่า ลูกค้าตั้งแต่วันแรกที่เปิดบริษัทมาจนถึงวันนี้ก็ยังคงใช้บริการอยู่อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนอีกหลากหลายแบรนด์ที่เชื่อมั่นให้เราดูแลเสมอมา ทั้ง ในพาร์ท PR, Communication, Influencer และอื่น ๆ อย่างครอบคลุมในทุกมิติ
อีกจุดเด่นหนึ่งของเราคือ เรามุ่งมั่นที่จะเป็น Trend Setter จึงต้อง Adaptability อยู่เสมอและศึกษาเทรนด์ต่าง ๆ ตลอดเวลา ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก่อนหน้านี้ สื่อมวลชนถือเป็น God of Everything ในการ Communication Message
แต่วันนี้ไม่ใช่ หรืออย่างแพลตฟอร์มที่เราเคยคิดว่ายอดเยี่ยมที่สุดอย่าง Facebook ในการสื่อสาร วันนี้กลายเป็น TikTok นี่คือสิ่งที่ทำให้เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดในทุกวัน เพื่อที่จะ Capture Trend ให้ได้ เพราะโลก Digital รวดเร็วมาก Responsive ต้องฉับไว และทำทุกอย่างเพื่อให้เราเข้าไปจับกระแสและเทรนด์เหล่านั้นได้อย่างทันท่วงที”
เข้าใจอินไซต์ผู้บริโภค กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ
พร้อม Digital Tool มากมายที่พร้อมตอบโจทย์
หนึ่งในกุญแจสำคัญที่ให้ Rapinnipha’s เป็นที่ไว้ใจของแบรนด์ชั้นนำมากมาย คือความเข้าใจในอินไซต์เชิงลึกของกลุ่มผู้บริโภคว่าต้องการอะไรจากแบรนด์ ตลอดจนสามารถเลือกรูปแบบการสื่อสารและการใช้สื่อได้อย่างเหมาะสม
คุณจอยยกตัวอย่างการทำงานร่วมกับ Premium Brand ใน Category Beauty แบรนด์หนึ่ง ซึ่ง Rapinnipha’s ได้เข้าไปช่วยในเรื่องของ Main PR
รวมถึงดูแลพาร์ทของ KOL และ Media ทั้งการ Selective Media Influencer และ Deliver Content ต่าง ๆ ซึ่งแกนหลักของการดำเนินการคือการสร้างสังคมที่มีความเชื่อในเรื่องเดียวกัน เพื่อให้แบรนด์และผู้บริโภคมีประสบการณ์ร่วมกัน และต่อยอดสู่การเป็น Brand Love ในใจผู้บริโภค
“เราเชื่อว่ากระแสในยุคปัจจุบันนี้ยังคงเป็น Social First ดังนั้นสิ่งสำคัญมาก ๆ คือ การสร้าง Community ของคนที่มีความหลงรักในเรื่องเดียวกัน
อย่างในตัวอย่างที่กล่าวข้างต้นคือเราสร้าง Community ของคนรักในเรื่องของ Beauty อยากดูแลตัวเอง ซึ่งเดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็ดูแลตัวเองทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง LGBTQ มันไม่มีขอบเขต และเราจะให้ความสำคัญกับความหลากหลายตรงนั้น จุดนี้สำคัญมาก ๆ สำหรับเอเจนซี่ที่ดี ที่ควรต้องเข้าใจ Consumer Insight Data ว่าเขาต้องการอะไร
อย่างไรก็ดี ทุกแบรนด์พยายามพูดเหมือนกัน แต่ไม่เคยตั้งคําถามว่าสิ่งไหนที่เป็น Unmet Need ที่อยู่ลึก ๆ ในใจเรา และไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่นั่นคือสิ่งที่ Rapinnipha’s พยายามที่จะ Fight และเข้าใจอย่างถ่องแท้
ดังนั้นเราจึงลงทุนในเรื่องของ Tools และแพลตฟอร์มที่หลากหลายมากมาย เพื่อให้เข้าใจว่า Consumer ต้องการอะไร มี Character แบบไหน และ Lifestyle ที่แตกต่างอย่างไร เราพยายามเข้าใจ Complexity ของ Consumer แล้วออกแบบ Design Strategy ออกมาให้เหมาะสม”
นอกจากนี้ ในโลกดิจิทัล ณ วันนี้ ผู้คนทุกคนเสมือนเป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ Speedy Response มาก ๆ วันนี้เป็นกระแสพรุ่งนี้ก็อาจจบไปแล้ว ดังนั้น สิ่งที่ Rapinnipha’s กําลังทำอยู่คือการสร้าง Storytelling ที่น่าสนใจในช่วงเวลาที่เหมาะสม บน Selective Media & Selective Influencer และแน่นอนว่าลูกค้าอาจจะต้องการสร้าง Branding หรือสร้างให้ผู้คนเข้าใจ Product Functionality
แต่ท้ายที่สุดแล้วการ Design Strategy ของ Rapinnipha’s นั้นลูกค้าต้องขายของได้ เราถึงกล้าพูดว่าเราเป็น One Stop Service ของ Marketing Communication เป็น All-in One คือมาหาเราได้ครบ จบในที่เดียว เราเก่ง Digital Marketing Communication ทุกมิติ และเราสามารถจะแบ่ง Percentage ให้เหมาะกับแคมเปญ และ Brand Direction ได้อย่างเหมาะสม
ตลอดจนเรื่องของการดูแลภาพลักษณ์และ Crisis Management เพราะเราเชื่อในเรื่องพื้นฐาน ของ Real Relationship ว่ามีความสำคัญมากในการที่จะทำให้ผู้คนเห็นถึงความจริงใจของแบรนด์ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือ การสร้าง Experience ที่ดีร่วมกันนั่นเอง”
พร้อมซัพพอร์ท Local Brand ให้เติบโต
ด้วยประสบการณ์และ Know How ในการทำงานร่วมกับ Global Brand ชั้นนำมาแล้วมากมาย Rapinnipha’s พร้อมที่จะเดินหน้า Support แบรนด์สินค้าของคนไทย และ Local Brand ต่าง ๆ ให้เติบโตยกระดับสู่แบรนด์ระดับสากล
“ทุกวันนี้คนไทยเก่งมาก แบรนด์สินค้าของคนไทยมีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง มีความคิดซับซ้อน มีความละเอียดอ่อน และจอยเชื่อในเรื่องของ Local Culture และ Localization มาก ๆ ดังนั้นสิ่งที่อยากทำคือต้องการที่จะสร้าง Local Brand ต่าง ๆ ให้สามารถออกไปเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในตลาดที่กว้างขึ้น โดยเริ่มจากสร้าง Brand Love สร้างความเชื่อให้แบรนด์มี มี Value เพิ่มขึ้น
สิ่งที่เราถนัดคือการนำประสบการณ์ในการทำ PR มามากกว่า 20 ปี มาเป็นสารตั้งต้นในการวางกลยุทธ์ และประยุกต์ใช้ในการทำงานบนโลกดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม เรามีความเข้าใจในเรื่องของการใช้สื่อ Organic หรือแบบ Non-Paid อย่างแท้จริง และเราทำ Non-Paid PR ให้กับลูกค้าทุกราย
พูดได้เลยว่าการทำงานกับเรา คุณใช้เงินได้เกินมูลค่ามาก ๆ เช่น ถ้าเดินมาจ้างเรา 100,000 บาทให้ทำงานสิ่งหนึ่ง บริษัททั่วไปก็ทำงานตามนั้น แต่ สิ่งที่คุณได้รับจาก Rapinnipha’s คุ้มค่าเกินราคา เพราะเราทำ PR ประกอบอื่น ๆ ให้ด้วย
เรามี Connection ในการเชิญสื่อต่าง ๆ มากมายหลากหลาย เพื่อสร้าง Awareness หรือ Voice ของ Message ของเราถูกบอกเล่าออกไปในทุกแพลตฟอร์ม คนทั้งประเทศตลอดจนทั้งโลกสามารถที่จะรับรู้ได้”
การผลักดัน Local Brand ให้เติบโตถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่ Rapinnipha’s ตั้งธงไว้เป็นแกนหลักสำคัญ ไปพร้อมกับการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมในทุกรูปแบบ
“เราเป็น Boutique Agency ที่ต้องการเติบโตในเชิงของ Quality ดังนั้น เราจึงอยากขยายฐานไปในลูกค้าทุกรูปแบบ ในพอร์ทของเราตอนนี้มีในทุก Segment และ Industry จะ Beauty, Food, Automobile, Banking เราไปมาทุกรูปแบบ และสามารถสร้าง Strategy ที่เหมาะสมให้กับแบรนด์ได้อย่างแท้จริง
เรากล้าพูดว่าเราเก่งมากในการทำ Global Brand และอยากที่จะกลับมาช่วยเหลือ Local Brand ทั้งหมด เราต้องการสร้างให้แบรนด์ของคนไทยประสบความสำเร็จและเติบโต ซึ่งสุดท้ายแล้วผลลัพธ์เชิงบวกจะกลับมาที่ผู้บริโภคชาวไทยนั่นเอง
อยากให้ทุกคนจดจำและยอมรับ Rapinnipha’s ในเชิงของ Quality ที่คนต้องการและมองหา มี Value ในตัวเอง ให้แบรนด์รู้สึกว่าถ้าเดินมาหาแล้วเราจะเป็น Supporter ที่ดี ที่ช่วยสร้างโลกแห่งความสำเร็จให้กับเขาได้ ด้วยบริการแบบ All-in-One
เรามีศักยภาพระดับสูงที่จะช่วยให้คุณมีแต้มต่อในการแข่งขัน ด้วย Cost Effective ที่คุ้มค่าจากพลังของ World of Connection ที่เรามีอยู่ เราแข็งแกร่งในเรื่องของ Connection มีพี่น้อง Media, Influence และ PR มากมาย ที่มี Relationship ในการทำงานที่ดีร่วมกัน
เราใช้กลยุทธ์ Always-On Marketing ในการสร้าง Relationship กับลูกค้าและ Consumer ดังนั้น เราจะมี Giving Extra Organic Thing ต่าง ๆ ที่ทำให้เกิด Shareability หรือ Talkability บนโลกออนไลน์กับลูกค้า และรู้สึกว่าประทับใจใน Performance ของเรา เพราะสุดท้าย Product ของเราก็คือตัว Rapinnipha’s เอง”
ติดต่อ บริษัท รพินท์นิภา จำกัด
Email : Rapinnipha’spr@gmail.com
Instagram : www.instagram.com/Rapinnipha’spr/
Facebook : www.facebook.com/Rapinnipha’spr
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
