หากพูดถึงเมืองบอร์โดซ์ในฝรั่งเศส นักท่องเที่ยวย่อมจินตนาการถึงการทัวร์ไร่องุ่นเพื่อลิ้มรสไวน์แดงชั้นเลิศ 

ข้ามมาในอีกซีกโลกหนึ่ง เอเดรียน ชอย เจ้าของสวนผลไม้ในมาเลเซียก็หวังให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศของเขามองว่า การชิม “ราชาผลไม้” ที่มีรสสัมผัส กลิ่น และเปลือกอันเป็นเอกลักษณ์เป็นประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่น่าประทับใจเช่นกัน

ที่ DurianBB Park ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ นักท่องเที่ยวจะได้ชิมทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์ที่ส่งตรงจากฟาร์มของบริษัท ตั้งแต่ มูซังคิง ที่หวานละมุน ไปจนถึง หนามดำ ที่เนื้อเนียนนุ่มเหมือนคัสตาร์ด 

โดยนักท่องเที่ยวทุกคนจะสวมถุงมือพลาสติกเพื่อป้องกันกลิ่นรุนแรงที่บางคนเปรียบว่าเหมือน ‘อาเจียนบูด’ แต่สำหรับแฟนพันธุ์แท้ รสชาติของมันกลับหอมหวานเหมือนคาราเมลหรือแม้กระทั่งชีสเค้ก

ตลาดทุเรียนเคยเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน โดยรายงานจาก HSBC ในปี 2023 ระบุว่าเทรนด์นี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2017 และระหว่างปี 2022 ถึง 2023 ยอดส่งออกทุเรียนจากประเทศกลุ่มอาเซียนพุ่งสูงขึ้นถึง 400% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม เทรนด์การบริโภคทุเรียนสดเริ่มชะลอตัวลง โดยนักเศรษฐศาสตร์ที่เชี่ยวชาญประเด็น AEC ให้ทรรศนะว่า เกมกำลังเปลี่ยนจากการแข่งขันว่าประเทศไหน หรือสวนไหนจะส่งออกทุเรียนไปจีนได้มากกว่า ไปสู่การแข่งขันว่าใครจะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ จากทุเรียนได้ดีกว่ากัน

นี่คือจุดที่บริษัทอย่าง DurianBB นำมาเป็นไอเดียตั้งต้นเพื่อพลิกเกม ท่ามกลางการแข่งขันตลาดทุเรียน.ในกลุ่ม AEC ที่ดุเดือด, ซึ่งปัจจุบันมีคู่แข่งทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ กำลังเขย่าบัลลังก์แชมป์ที่ไทยครองอย่างยาวนาน

ด้านมาเลเซียก็ขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่ประมาทไม่ได้ หลังปี 2024 จีนเปิดรับทุเรียนมาเลย์ โดยในปีนั้น มาเลเซียส่งออกทุเรียนไปจีน เป็นน้ำหนักรวม 400 ตัน

สำหรับการโปรโมททุเรียนของ DurianBB เป็นแผนการตลาดเชิงประสบการณ์ ซึ่งนอกจากสวนสนุกธีมทุเรียนที่กล่าวถึงไปข้างต้นแล้ว ยังมีละครเวทีสำหรับเด็กในธีมทุเรียน และคาแรกเตอร์ “น้องทุเรียน” ที่ขายในร้านของเล่นดังอย่าง Toys “R” US

รวมไปถึง DurianBB Academy ฟาร์มขนาด 30 เอเคอร์ที่กำลังจะเปิดตัวเต็มรูปแบบ ที่ซึ่งผู้มาเยือนจะได้เล่นเกมในธีมทุเรียน ชมการแสดงวิทยาศาสตร์ และเรียนรู้ทุกแง่มุมของทุเรียนอีกด้วย

แผนโปรโมทดังกล่าวทำเงินให้ DurianBB มากถึง 10 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 360 ล้านบาท) โดยแม้รายได้หลักจะมาจากยอดขายของที่ระลึก แต่ DurianBB ก็เชื่อว่าท้ายที่สุดจะช่วยให้ทุเรียนในสวนของทางบริษัทขายดีขึ้น ซึ่งแน่นอนย่อมดีต่อทุเรียนมาเลย์ด้วย

ส่วนลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของ DurianBB คือนักท่องเที่ยวจีน โดยตั้งเป้าไว้ที่ 400,000-500,000 คนต่อปี และหากสวนสนุกเปิดอย่างเป็นทางการ ก็คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มเป็น 700,000-800,000 คนต่อปี โดยมีนโยบายฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีนเป็นปัจจัยหนุน

อย่างไรก็ตาม DurianBB จะไม่หยุดแค่นี้ โดยชอยเผยว่า มีไอเดียใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ และในอนาคตอยากสร้างภาพยนตร์และซีรีส์ทีวี ที่มีธีมหลักคือทุเรียนcnn 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer