ภายในงาน “Big Motor Sale 2025” (Bangkok International Grand Big Motor Sale 2025) งานแสดงและจำหน่ายรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ และรถยูสคาร์ระดับพรีเมียม จากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ เพื่อกระตุ้นตลาดซื้อขายยานยนต์ครั้งสำคัญช่วงกลางปี งานจัดเต็มพื้นที่ฮอลล์ 101 – 104 ระหว่างวันที่ 22 – 31 สิงหาคม 2025 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ

Marketeer ได้พูดคุยกับผู้บริหารแบรนด์ยานยนต์ชั้นนำต่าง ๆ ในงาน เกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดยานยนต์ในไทย ปี 2025

คุณพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวม “ตลาดรถยนต์นั่ง” ในไทย 7 เดือนแรก (ม.ค. – ก.ค.) ปี 2025 ยอดขายอยู่ที่ราว 300,000 คัน ลดลง 2.5% รถกระบะและรถอีโคคาร์ซึ่งเป็นตลาดหลัก อย่างแรกชะลอตัวลงสูงสุด ขณะที่อย่างหลังยังเติบโตขึ้นเล็กน้อย ปัจจัยลบมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่อยู่ในความท้าทาย หนี้ครัวเรือนสูง สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อนสินเชื่อ

ส่วนรถยนต์นั่งเอสยูวีขนาดกลาง เป็นเซกเมนต์ที่ยังเติบโตได้ดี จากการเป็นตำแหน่งหลักของผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าที่ทำตลาดกันอยู่ตอนนี้ 

โฟกัสที่รถยนต์ไฟฟ้า 100% ช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค. – ก.ค.) ปี 2025 ขยายตัวอยู่ที่ราว 10% ส่วนสำคัญมาจากทิศทางการเติบโตมากขึ้นของกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ (เอ็มพีวี – MPV) 7 ถึง 11 ที่นั่ง และพรีเมียมเอสยูวีขนาดกลาง แต่คอมแพ็คเอสยูวีก็ยังเป็นสัดส่วนหลักของตลาด

ทิศทางตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% หลังจากนี้ บริษัทประเมินว่าจะมีแบรนด์ทำตลาดทรงตัวแล้ว และมีแบรนด์ข้ามชาติญี่ปุ่นเข้ามาลงเล่นในตลาดนี้มากขึ้น ส่งผลดีต่อการแข่งขันและสร้างการรับรู้เชิงบวกให้ตลาด 

ขณะที่ราคาขายของรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มีการปรับลดลงต่อเนื่อง บริษัทประเมินว่าส่วนหนึ่งมาจากการปรับลดลงของต้นทุนหลักอย่างแบตเตอรีจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการผลิต และการมีปริมาณการผลิตที่มากขึ้น  

บริษัทประเมินว่าตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้ หากสถานการณ์ตลาดรถยนต์นั่งปรับตัวดีขึ้นจากการเข้าช่วงส่งเสริมการขายของปี และรัฐบาลได้ผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในไทย ให้สามารถนับยอดการผลิตเพื่อส่งออก เพื่อนำมาคำนวณเป็นยอดผลิตชดเชยการนำเข้าได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหารถยนต์ไฟฟ้าล้นตลาดในประเทศ และลดการแข่งขันด้านราคา

ตลาดรถยนต์นั่งในไทย ปี 2025 ก็น่าจะมียอดขายแตะ 600,000 คัน เติบโตขึ้นเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมาได้ 

ส่วนของบริษัทมียอดขายรถยนต์ ช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค. – ก.ค.) ปี 2025 อยู่ที่ 13,795 คัน เป็นไปตามเป้าทั้งปีซึ่งวางไว้ที่ 25,000 คัน เนื่องจากการปรับตัวให้สอดคล้องกับการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น 

ในงาน Big Motor Sale บริษัทก็ได้มีการเปิดตัว MG IM6 พรีเมียมเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้า 100% รุ่นย่อยใหม่ อย่าง “MG IM6 Long Range” รถมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง วิ่งได้ระยะทางไกลสูงสุด 750 กิโลเมตรต่อรอบการชาร์จไฟเต็ม

ทั้งปัจจุบันสัดส่วนพอร์ตรถยนต์ของบริษัท แบ่งเป็น รถไฟฟ้า 100% อยู่ที่ 70% และรถไฮบริด 30% วางเป้าขยับสัดส่วนอย่างหลังให้ขึ้นมาอยู่ที่ 50%  

คุณศรัณย์ อรรถเวทยวรวุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนผู้จำหน่ายรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และมอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด อย่างเป็นทางการในเครือ MGC-ASIA

กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์หรูในไทย 7 เดือนแรก (ม.ค. – ก.ค.) ปี 2025 ยอดส่งมอบลดลงราว 10% เฉพาะส่วนของบีเอ็มดับเบิลยู ลดลง 14% บริษัทประเมินว่าผู้บริโภคในตลาดยังมีศักยภาพการซื้อ เพียงตลาดในกลุ่มใกล้เคียงอย่างรถพรีเมียม MPV เริ่มเข้ามามีสัดส่วนดึงลูกค้าในตลาดไปมากขึ้น  

ปกติยอดส่งมอบรถยนต์หรูในไทยอยู่ที่ราว 40,000 คันต่อปี เป็นสัดส่วนตลาดของ บีเอ็มดับเบิลยู และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ราว 50% ซึ่งทั้งสองแบรนด์ยังมีศักยภาพในการดึงดูดผู้บริโภคจากความแข็งแรงของแบรนด์ 

ตลอดจนตลาดรถยนต์หรู นับเป็นกลุ่มตลาดรถยนต์นั่งที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดในแง่กำลังซื้อของผู้บริโภคจากภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย 

หลังจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู จะปรับตัวด้วยการเปิดตัวรุ่นรถยนต์ไฟฟ้า 100% มากขึ้นในกลุ่มอัลตราลักชัวรี อย่างในงาน Big Motor Sale ก็ได้มีการนำรถยนต์ซีดานหรูอย่าง ‘The i7’ Two-tone Edition มาจัดแสดงและทำตลาดในงาน

โดยสัดส่วนรถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยู รถยนต์สันดาป, รถยนต์พลังงานทางเลือก ยังเป็นความต้องการหลักของลูกค้า แต่บริษัทก็จะให้ความสำคัญกับรถไฟฟ้า 100% มากขึ้น ปัจจุบันสัดส่วนพอร์ตหลังนี้อยู่ที่ราว 10% ซึ่งวางให้ขยับขึ้นเล็กน้อยหลังจากนี้

คุณภาณุพล กิตติคำรณ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ตลาดรถจักรยานยนต์ในไทย 6 เดือนแรก (ม.ค. – มิ.ย.) ปี 2025 ยอดขายเติบโต 1% ประเมินทั้งปีจะอยู่ที่ราว 1,700,000 คัน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา  

ความต้องการซื้อของผู้บริโภคในตลาดยังมีอยู่มาก แต่ก็มีความท้าทายในเรื่องของการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินที่เข้มงวดขึ้น โดยพบว่ายอดปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) ในตลาดรถจักรยานยนต์ เพิ่มขึ้นอยู่ที่ราว 60% 

ด้านรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 100% บริษัทประเมินว่ายังอยู่คนละตำแหน่งกับรถน้ำมัน จากการตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันสำหรับผู้บริโภคไทย 

ส่วนของบริษัท ยอดขาย 6 เดือนแรก (ม.ค. – มิ.ย.) ปี 2025 ลดลงเล็กน้อยจากปัญหาการบริหารจัดการสินค้า แต่ก็เริ่มปรับตัวดีขึ้นมาแล้ว บริษัทวางเป้ายอดขายทั้งปีอยู่ที่ราว 260,000 – 270,000 คัน มีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดรถจักรยานยนต์อยู่ที่ราว 15% หากแบ่งตามเซกเมนต์ A.T. (แบบออโต้) สัดส่วนตลาดอยู่ที่ 30% และ Family (แบบมีเกียร์) 10%

บริษัทได้ลุยตลาดรถจักรยานยนต์กลุ่ม Family ต่อเนื่อง โดยได้มีการนำ Lifestyle Bike อย่าง “Yamaha PG-1 2025” มาจัดแสดงและทำตลาดในงาน Big Motor Sale โดยยังคงเอกลักษณ์ของรถจักรยานยนต์สไตล์อเนกประสงค์ที่ขับขี่ง่ายในชีวิตประจำวัน 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer