ท่ามกลางตลาดครีเอเตอร์ในไทยที่กำลังขยายตัวต่อเนื่อง อ้างอิงรายงาน “iCreator Report 2025” ที่ร่วมจัดทำโดย RAiNMaker, Tellscore, Wisesight, คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ 

ไทยมีครีเอเตอร์อยู่ราว 12 ล้านคน เป็นกลุ่มที่ทำเป็นพาร์ทไทม์ 9 ล้านคน และทำเป็นงานจริงจัง 3 ล้านคน

สอดคล้องกับรายงานของ MI Group ซึ่งประเมินว่าครีเอเตอร์ 3 ล้านคนในตลาด สามารถแบ่งออกเป็นหลายระดับ ตั้งแต่ Celebrity & Mega (ผู้ติดตามตั้งแต่ 1 ล้านคนขึ้นไป), Micro (ผู้ติดตามหลักหมื่นถึงหลักแสน) และ Nano (ผู้ติดตามหลักพันถึงหลักหมื่น) 

ซึ่งกลุ่ม Micro และ Nano ได้รับความสนใจจากแบรนด์มากขึ้นชัดเจน ตั้งแต่ช่วงหลังวิกฤตโรคระบาด เนื่องจากประหยัดงบในการจ้างงาน และสร้างการมีส่วนร่วมสูง เหมาะสำหรับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะทาง

อีกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมเลือกติดตามครีเอเตอร์หลายคน แบรนด์จึงมองถึงการจ้าง Micro และ Nano เพื่อกระจายแคมเปญให้เกิดการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

ผลสำรวจจาก MI Group ยังพบว่าผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในคำแนะนำของครีเอเตอร์สูงถึง 61% ของผู้ตอบแบบสอบถาม และ Gen Z (อายุ 11-26 ปี) กับ Millennials (อายุ 27-42 ปี) มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหรือบริการจากคำแนะนำของครีเอเตอร์ มากกว่าโฆษณาแบบดั้งเดิมถึง 2-3 เท่า

ซึ่งจากเทรนด์ดังกล่าว และการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดครีเอเตอร์ จึงพบว่าครีเอเตอร์เริ่มหาช่องทางสร้างรายได้ใหม่ ๆ ให้ตัวเอง ลดการพึ่งพิงรายได้จาก Sponsorship เพียงอย่างเดียว 

โดยหนึ่งในช่องทางที่กำลังมาแรงคือ “Affiliate Marketing” ที่ครีเอเตอร์เป็นนายหน้าช่วยขายหรือโปรโมทสินค้าให้แบรนด์ผ่านคอนเทนต์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อดึงดูดผู้สนใจเข้ามาซื้อสินค้าผ่านลิงก์ตะกร้าสินค้าที่ติดไว้ และได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการขายที่เกิดขึ้น ซึ่งคอนเทนต์วิดีโอสั้นและไลฟ์วิดีโอ นับเป็นรูปแบบการทำ Affiliate ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง 

สอดรับกับเทรนด์ผู้บริโภคจากรายงานผลสำรวจที่จัดทำขึ้นโดย Kantar ในเดือนเมษายน 2025 มีกลุ่มตัวอย่าง 6,004 คนใน 8 ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนี้ อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, ไทย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, มาเลเซีย, ฮ่องกง และไต้หวัน

พบว่าแพลตฟอร์มวิดีโอที่มีสัดส่วนผู้บริโภคใช้งานสูงสุดในภูมิภาค โดยหนึ่งคนสามารถตอบได้มากกว่า 1 ตัวเลือก ดังนี้ YouTube ผู้ใช้งานสูงถึง 88% ของผู้ตอบแบบสอบถาม, TikTok 78%, Facebook Reels 76%, Instagram Reels 58%

ซึ่งปัจจุบัน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแต่ละรายที่มีความแข็งแรงในฟีเจอร์วิดีโอ ก็มีจุดเด่น และกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไป ทั้งตอบรับเทรนด์การทำ Affiliate Marketing กันเต็มที่ 

YouTube แพลตฟอร์มที่เปิดตลาดวิดีโอโซเชียลมีเดีย และยังคงเป็นผู้นำตลาดในปัจจุบัน ก็ได้มีการเปิดตัว YouTube Shorts สำหรับวิดีโอสั้นโดยเฉพาะ และมีโปรแกรม YouTube Shopping Affiliate โดยร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามชาติรายใหญ่ 

TikTok แพลตฟอร์มที่มาแรงและเป็นผู้นำในตลาดวิดีโอสั้น ก็มีระบบ TikTok Shop Affiliate ที่เปิดให้ครีเอเตอร์สามารถโปรโมตสินค้าในวิดีโอหรือไลฟ์ของตัวเอง ซึ่งเป็นรูปแบบที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน

Meta ที่มี Facebook และ Instagram ก็มีฟีเจอร์วิดีโอสั้นอย่าง Reels และถึงจะยังไม่มีโปรแกรม Affiliate ที่เป็นทางการ แต่ครีเอเตอร์ก็สามารถทำ Affiliate Marketing ได้หลายวิธีผ่านฟีเจอร์ดังกล่าว

ขณะที่ทิศทางของ Affiliate Marketing จากแพลตฟอร์มวิดีโอหลัก ๆ หลังจากนี้ อย่างในงานฉลองครบรอบ 1 ปี YouTube Shopping ในไทย 

YouTube ก็ได้เปิดเผยว่าได้รับฟังความคิดเห็นจากครีเอเตอร์เพื่อนำมาต่อยอดพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การทำ Affiliate Marketing เป็นเรื่องง่ายขึ้น อาทิ การออกฟีเจอร์ Stickers บน YouTube Shorts ที่ทำให้สินค้าที่ติดแท็กดูน่าสนใจมากขึ้น และช่วยให้ผู้ชมสามารถซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer