ไม่ใช่แค่ทองคำเท่านั้นที่ราคาทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงในปีนี้ เพราะ ‘โลหะเงิน’ (Silver) ก็เป็นสินทรัพย์มีค่าอีกชนิดที่ราคากำลังพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์เช่นกัน 

เมื่อจันทร์ที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ราคาโลหะเงินของสัญญาซื้อขายโลหะเงินล่วงหน้าในตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้น 7% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (New High) ที่ 52.63 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ (ประมาณ 1,724 บาท)

นี่ถือว่าทำลายสถิติเดิมที่เคยทำไว้เมื่อปี 1980 หรือเมื่อ 45 ปีก่อน ซึ่งเฉพาะปีนี้ราคาเพิ่มขึ้นถึง 75% 

เช่นเดียวกับราคาซื้อขายทันที (Spot Silver) ที่ทำสถิติสูงสุดเหนือ 52 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ (ประมาณ 1,704 บาท) เช่นกัน 

ปัจจัยหลักที่ผลักดันราคาโลหะเงินคือการที่นักลงทุนและเทรดเดอร์หันมาถือครองสินทรัพย์ที่จับต้องได้ (Hard Assets) อย่างทองคำและโลหะเงิน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นความกังวลเรื่องกำแพงภาษี เงินเฟ้อ ไปจนถึงภาระหนี้สินของรัฐบาล กันมากขึ้น 

นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์จากการที่ทองคำทำนิวไฮเช่นกันที่ราคา 4,000 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ (ประมาณ 131,040 บาท) ไปก่อนหน้านี้ 

ไมเคิล ดิริเอนโซ ซีอีโอของ Silver Institute กล่าวว่า เมื่อมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ผู้คนจะหันไปหาสินทรัพย์ที่จับต้องได้อย่างโลหะเงิน ซึ่งมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นตามทองคำ 

นอกเหนือจากความต้องการของนักลงทุนเพื่อสร้างความอุ่นใจแล้ว ปัญหาซัพพลายเชนก็เป็นสาเหตุที่ทำให้โลหะเงินราคาขึ้นมากเป็นประวัติการณ์เช่นกัน เพราะโลหะประเภทนี้ สำคัญต่อการสร้างศูนย์ข้อมูลสำหรับเอไอและธุรกิจออนไลน์ แผงโซลาร์เซลล์ ไปจนถึงสมาร์ทโฟน 

เอวา แมนธีย์ นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จาก ING กล่าวว่า บทบาทคู่ขนานของการเป็นทั้งโลหะในภาคอุตสาหกรรมและสินทรัพย์ปลอดภัย คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ราคาโลหะเงินสูงในปีนี้ 

ในขณะเดียวกัน ปัญหาด้านอุปทานก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้ราคาสูงขึ้น ตลาดโลหะเงินกำลังเผชิญกับภาวะขาดดุลอุปทานเชิงโครงสร้างเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน เนื่องจาก ผลผลิตจากเหมืองที่ชะงักงัน ไม่สามารถตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ทัน 

อย่างไรก็ตามเทรนด์การเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยได้แผ่ขยายไปยังโลหะมีค่าอื่นๆ ด้วย โดยในปีนี้ โลหะเงินและแพลทินัมให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าทองคำ โดยราคาพุ่งขึ้นราว 75% และ 80% ตามลำดับ ขณะที่ทองคำปรับขึ้นประมาณ 51% 

มาเรีย สเมอร์โนวา ผู้บริหารของ Sprott Asset Management กล่าวทิ้งท้ายว่า ราคาของโลหะมีแนวโน้มแพงขึ้นได้อีก สวนทางอุปทานกำลังลดน้อยลง และนักลงทุนก็เริ่มสังเกตเห็นแล้ว ดังนั้นจึงถือได้ว่าโลหะประเภทนี้กำลังเนื้อหอมเป็นอันดับต้นๆ ในบรรดาโลหะทั้งหมด / cnn   

 

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer