บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ “WASH” ผู้ให้บริการร้านสะดวกซักภายใต้แบรนด์ “WashXpress” ประกาศกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) ที่หุ้นละ 7.50 บาท เตรียมเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 24 และ 27–28 ตุลาคม 2568 โดยมีแผนนำเงินระดมทุนไปใช้ขยายสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของไม่น้อยกว่า 160 สาขาในปี 2569–2570 รวมถึงปรับปรุงร้านเดิมและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อผลักดันการเติบโตแบบก้าวกระโดดและเสริมศักยภาพสู่การเป็นผู้นำธุรกิจร้านสะดวกซักครบวงจรในไทย
นายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานคณะกรรมการ บริษัทลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH เปิดเผยว่า WASH มุ่งมั่นสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจร้านสะดวกซักครบวงจรในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “สะอาด สะดวก สบาย” ซึ่งก่อตั้งขึ้นจากวิสัยทัศน์ของผู้ร่วมก่อตั้ง 4 ท่าน คือ คุณชิษณุพันธ์ ตั้งเฉลิมกุล, คุณกวิน กลองกระโทก, คุณอุไรวรรณ อ่อนเจริญ และคุณพรสิริ ธัญญานุรักษา ที่ต้องการทำให้การซักผ้าเป็นเรื่องง่ายสำหรับชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม จากความตั้งใจดังกล่าวได้ส่งผลให้แบรนด์ WashXpress ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างรวดเร็ว
เดินหน้าขยายสาขา-เสริมบริการครบวงจร
นายกวิน กลองกระโทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง WASH เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจหลัก 3 ด้าน ได้แก่ 1) ร้านสะดวกซัก WashXpress 2) ธุรกิจแฟรนไชส์ และ 3) การจำหน่ายเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าและบริการที่เกี่ยวข้อง โดยรายได้หลักกว่า 97% มาจากสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจ “Owner-Operator” ที่เน้นการบริหารคุณภาพและมาตรฐานบริการอย่างใกล้ชิด
ปัจจุบัน WASH มีสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 469 แห่ง คิดเป็น 85.6% ของทั้งหมด และตั้งเป้าขยายเพิ่มอีก 80 สาขาในปี2568 พร้อมเปิดเพิ่มไม่น้อยกว่า 160 สาขาในปี 2569–2570 เพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) และต่อยอดบริการใหม่ เช่น ซักอบพับ รีดผ้า บริการ B2B สำหรับโรงแรม–ธุรกิจ และเตรียมนำบริการรับ-ส่งผ้าถึงบ้านผ่านแอป WashXpress รวมถึงโมเดลสมาชิกรายเดือน (Subscription Model) เพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้า
ตลาดร้านสะดวกซักโตแรง แตะหมื่นล้านบาท
นายชิษณุพันธ์ ตั้งเฉลิมกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจและผู้ร่วมก่อตั้ง กล่าวว่า ตลาดร้านสะดวกซักไทยเติบโตต่อเนื่องจากมูลค่า 3,000 ล้านบาทในปี 2563 สู่ 10,000 ล้านบาทในปี 2565 และคาดแตะ 13,500 ล้านบาทในปี 2567ปัจจัยหนุนสำคัญ ได้แก่ การขยายตัวของสังคมเมือง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและท่องเที่ยว รวมถึงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการซักผ้า
ผลประกอบการโตต่อเนื่อง
นางสาวนันทพร ฤทธินภากร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายบัญชีและการเงิน เผยว่า รายได้รวมของบริษัทเติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 33% จาก 464 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 823 ล้านบาทในปี 2567 โดยกำไรสุทธิเพิ่มจาก 59 ล้านบาทเป็น 83 ล้านบาทในช่วงเดียวกัน ขณะที่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานยังเป็นบวกและขยายต่อเนื่อง สะท้อนความสามารถในการสร้างผลตอบแทนจากธุรกิจหลัก
หุ้น Growth Stock เด่นในเมกะเทรนด์
นางสาวสุธางค์ คนศิลป กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การเสนอขาย IPO ของ WASH รวมไม่เกิน 105.88 ล้านหุ้น หรือ 30% ของทุนหลัง IPO เปิดจอง24 และ 27–28 ตุลาคมนี้ คาดเข้าซื้อขายในตลาด mai ภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 โดยมีบล.หยวนต้า เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย พร้อมพันธมิตรอีก 4 แห่ง
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า “WASH เป็นหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตสูงในธุรกิจเมกะเทรนด์ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนเมือง เชื่อว่าราคา IPO ที่ 7.50 บาทต่อหุ้นสะท้อนมูลค่าพื้นฐานและศักยภาพการเติบโตได้อย่างเหมาะสม”
