บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประสบความสำเร็จในการจัดงาน Delta Future Industry Summit 2025 ภายใต้ธีม “พลิกโฉมอุตสาหกรรมสู่อนาคตด้วย AI ระบบอัตโนมัติ และพลังงาน แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” งานนี้เป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำภาคธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการบูรณาการเทคโนโลยี AI, ระบบอัตโนมัติ, และนวัตกรรมพลังงาน ซึ่งเป็นกลไกหลักในการเปลี่ยนผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่สังคมที่ยั่งยืนและเชื่อมโยงกันมากขึ้น
ดร. ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังก้าวสู่ยุคใหม่ที่เทคโนโลยีและความยั่งยืนต้องเดินหน้าควบคู่กัน การนำเทคโนโลยี AI, ระบบอัตโนมัติ, และพลังงานสะอาดมาประยุกต์ใช้ จะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนของภาคอุตสาหกรรมได้อย่างแท้จริง ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาค ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลและสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมอัจฉริยะ เพื่อให้ประเทศเติบโตอย่างครอบคลุมและสร้างผลกระทบในระดับสากล
คุณวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวแสดงความขอบคุณผู้เข้าร่วมงานที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์อันทรงคุณค่า งานประชุมสุดยอดครั้งนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเดลต้าในการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างภูมิภาคอาเซียนที่ฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยนวัตกรรมและการประยุกต์ใช้โซลูชันประหยัดพลังงานอัจฉริยะ เดลต้ามุ่งมั่นที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรมและสังคมบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรม
Shan Shan Guo ประธานเจ้าหน้าที่แบรนด์องค์กร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ อิ้งค์ บรรยายพิเศษในหัวข้อ “ก้าวสู่อนาคต AI ปัญญาประดิษฐ์เข้ากับความยั่งยืนสีเขียว” โดยกล่าวถึงรายงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การผสานเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและประหยัดพลังงานเข้ากับความร่วมมือในระบบนิเวศอุตสาหกรรม จะเป็นตัวขับเคลื่อนโลกสู่ยุค Green AI ทั้งนี้กว่า 78% ขององค์กรทั่วโลกมองว่าประสิทธิภาพด้านพลังงานของระบบ AI จะเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ เดลต้ามีวิสัยทัศน์ในการส่งเสริม AI อย่างยั่งยืน ผ่านการพลิกโฉมระบบแปลงพลังงานแบบ ‘grid-to-chip’ และการเพิ่มความยืดหยุ่นให้ระบบด้วยเทคโนโลยีไมโครกริด
คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS) กล่าวในวงเสวนาว่า ในยุค AI เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติได้พัฒนาจากกระบวนการพื้นฐานไปสู่ระบบที่มีความยืดหยุ่นสูงและชาญฉลาดมากขึ้น ผ่านการใช้ Machine Learning และ Generative AI การเปลี่ยนผ่านนี้ช่วยยกระดับประสิทธิภาพของบุคลากรและประสบการณ์ผู้ใช้ได้อย่างมหาศาล องค์กรจำเป็นต้องเตรียมพร้อมทั้งบุคลากรและระบบเพื่อสร้างคุณค่าทางธุรกิจจากนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI เหล่านี้ให้ได้สูงสุด เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่พร้อมสำหรับอนาคต
การประชุมยังมีเสวนาสำคัญที่เจาะลึกการพลิกโฉมอุตสาหกรรมในด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและการผลิต ซึ่งรวมถึงหัวข้อ “โซลูชันอาคารอัจฉริยะและดาต้าเซ็นเตอร์พลิกโฉมอนาคตโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอย่างไร” และ “ขับเคลื่อนโรงงานสีเขียวอัจฉริยะด้วยระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติและพลังงานอัจฉริยะ” ผู้เชี่ยวชาญได้ร่วมแบ่งปันแนวคิดเกี่ยวกับบทบาทของเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพอาคาร การจัดการพลังงานในดาต้าเซ็นเตอร์ และการส่งเสริมความยั่งยืนในการผลิตระดับภูมิภาค
ภายในงาน เดลต้าได้จัดแสดงนวัตกรรมและโซลูชันล้ำสมัยที่ครอบคลุม ทั้งโซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์, ระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ, พลังงานอัจฉริยะและสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า, รวมถึงระบบอาคารอัตโนมัติ การจัดแสดงเหล่านี้สะท้อนถึงแนวทางแบบครบวงจรของเดลต้าในการพัฒนาอาคาร โรงงาน และระบบนิเวศดิจิทัล เพื่อยกระดับทั้งประสิทธิภาพและความยั่งยืน โดยตอกย้ำว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่และความยั่งยืนสามารถเติบโตไปด้วยกันได้อย่างกลมกลืน
