แอน”รสรินทร์ เปิดใจสัมภาษณ์พิเศษกับ Marketeer หลังปิดดีลใหญ่ CRG
รสรินทร์ ติยะวราพรรณ กรรมการบริหาร บริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ลัคกี้ สุกี้ เปิดใจสัมภาษณ์พิเศษกับ Marketeer หลังปิดดีลใหญ่ CRG ในเครือเซ็นทรัล ซื้อหุ้น 40% มูลค่า 940 ล้านบาท ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
อย่างแรกที่ทุกคนจะเห็นได้ชัด คือการเดินเครื่องขยายสาขาแบบก้าวกระโดด
ที่ผ่านมา การขยายสาขาไปต่างจังหวัดของเราใช้กลยุทธ์ “Drop to Drop” คือเริ่มจากจังหวัดที่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 300 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ เพื่อควบคุมคุณภาพวัตถุดิบและการขนส่งให้ดีที่สุด
“แต่ในปีหน้าเราจะก้าวไปไกลกว่านั้น โดยวางแผนขยายครอบคลุมเมืองใหญ่ทั่วประเทศ พร้อมปิดยอดรวมสาขามากกว่า 70 สาขาทั่วประเทศอย่างแน่นอนค่ะ”
รสรินทร์ยังเชื่อว่าในปีต่อ ๆ ไป พลังการขยายสาขาจะยิ่งเติบโตได้เร็วกว่าเดิม
โดยเฉพาะจากการเข้าสู่สาขาในศูนย์การค้าของเครือเซ็นทรัล ซึ่งเป็นเครือข่ายทำเลศักยภาพสูง รวมถึงทำเลอื่น ๆ ที่ลัคกี้ สุกี้คัดเลือกด้วยตัวเอง
ปัจจุบัน ลัคกี้ สุกี้ และลัคกี้ บาร์บีคิว มีทั้งหมด รวม 38 สาขา และในช่วงเดือนกว่า ๆที่เหลือของปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 4 สาขาใหม่ ได้แก่ โคราช, ลพบุรี และบุรีรัมย์อีก 2 สาขา
ด้านผลประกอบการ ปี 2568 รายได้ทะลุ 2,000 ล้านบาทแน่นอน และปี 2569 ตั้งเป้าทะลุ 3,000 ล้านบาท
Distribution Power คือปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ทำให้ลัคกี้ สุกี้ตัดสินใจร่วมทุนกับ CRG
เธอย้ำว่าการมีพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่งในเรื่อง Know-how ระบบหลังบ้าน และโครงสร้างซัพพลายเชน ซึ่งเป็นจุดแข็งของ CRG ที่พิสูจน์แล้วจากการบริหารหลายแบรนด์ระดับประเทศ
คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลัคกี้ สุกี้ยอมให้ CRG เข้ามาถือหุ้นใหญ่
ทั้งที่ก่อนหน้ามีนักลงทุนมาคุยกับเราหลายรายมาก แต่เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินทุน สิ่งที่เราต้องการคือพาร์ตเนอร์ในการทำธุรกิจที่ 1+1 ต้องมากกว่า 2
รวมทั้งการที่ CRG ให้เกียรติในการบริหารงานอย่างเต็มที่
ลัคกี้ยังคงบริหารทุกอย่างตามความตั้งใจตั้งแต่วันแรกของการก่อตั้งบริษัท ทั้งเรื่องความคุ้มค่า คุ้มราคา การรักษาคุณภาพ และการยืนหยัดไม่เข้าร่วมสงครามราคา
“แม้จะมีพาร์ตเนอร์รายใหญ่เข้ามา แต่เราไม่ได้เปลี่ยนแก่นแบรนด์ เราเชื่อว่าคุณภาพที่ดีและราคาที่เหมาะสมคือสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเลือกเรา ไม่ใช่การลดราคาแข่งกันไปเรื่อย ๆ”
แทนที่จะลงแข่งด้วยการลดราคา ลัคกี้ สุกี้เลือกใช้โปรโมชันรูปแบบที่ลูกค้า “ได้มากขึ้น” ในงบเท่าเดิม แต่แน่นอน ต่อไปเราจะมีโปรโมชันที่มากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
การได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ของ CRG ซึ่งเป็นองค์กรที่มีเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมกว่า 22 แบรนด์ รวมกว่า 1,400 สาขา ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้ลัคกี้ สุกี้ได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยน และต่อยอดธุรกิจร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“การอยู่ใต้ชายคาเดียวกับแบรนด์ที่แข็งแรงมากมาย เปิดโอกาสให้เราสามารถทำ Co-Marketing ร่วมกันในหลายรูปแบบ ซึ่งลูกค้าจะได้เห็นความ ‘ว้าว’ แน่นอน ว่าลัคกี้ สุกี้จะจับมือกับแบรนด์ไหนและอย่างไร”
อย่างไรก็ตาม มีโอกาสสูงที่ในอนาคต ลัคกี้ สุกี้อาจเปิดไลน์อาหารใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำใคร เพื่อสร้างการเติบโตในแนวราบและตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มกว้างขึ้น
27 มกราคม 2569
ลัคกี้ สุกี้ จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ปีแห่งการ “เร่งเครื่องครั้งใหญ่” ที่จะสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งสำคัญในสงครามหม้อร้อนของไทย
โดยมี CRG เป็นพลังที่แข็งแกร่งเบื้องหลังการขับเคลื่อน
