ผลิตภัณฑ์โปรตีนสูงในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากกระแสรักสุขภาพและการออกกำลังกายที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนไทย โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่า ผลิตภัณฑ์โปรตีนสูงในไทยขยายตัวมากกว่า 126% ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี และมีมูลค่ารวมแตะระดับ 4,300 ล้านบาทในช่วงกลางปี 2568 สะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่ม สู่โภชนาการที่ถูกบริโภคในชีวิตประจำวันอย่างชัดเจน
ทิศทางการเติบโตดังกล่าวสอดคล้องกับภาพรวมของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและโภชนาการ (Food Supplements and Nutrition: FSN) ในระดับโลก ซึ่งครอบคลุมกลุ่มเครื่องดื่มโปรตีนสูง เครื่องดื่มเสริมวิตามิน และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง758.99 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2034 และเติบโตเฉลี่ยราว 7% ต่อปี
แรงขับเคลื่อนสำคัญของผลิตภัณฑ์โปรตีนสูงมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่มอง “โภชนาการ” เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพในระยะยาว
โดยผลการสำรวจผู้บริโภคทั่วโลกของ เต็ดตรา แพ้ค (Tetra Pak) ซึ่งศึกษาทัศนคติและความคาดหวังของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและโภชนาการ พบว่า 59% ของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ เลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบพร้อมดื่ม เนื่องจากความสะดวกและตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจเดียวกันยังชี้ให้เห็นว่า 71% ของผู้บริโภคให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มาจากแหล่งธรรมชาติ และยอมรับได้กับผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่ค่อยเป็นค่อยไป มากกว่าการเห็นผลรวดเร็วจากสารสังเคราะห์ แม้ต้องแลกกับราคาที่สูงขึ้น สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคจากการมอง “อาหารเสริม” เป็นทางลัด ไปสู่การเลือกโภชนาการที่ยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับประเทศไทย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบเครื่องดื่มพร้อมดื่มยังคงเป็นรูปแบบหลักที่ผู้บริโภคเลือก โดยเฉพาะกลุ่มพาสเจอไรซ์ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 96%
อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์โปรตีนสูงในรูปแบบยูเอชที (UHT) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากจุดเด่นด้านการพกพาง่าย อายุการเก็บรักษานาน และเหมาะกับการบริโภคระหว่างวัน ซึ่งสอดรับกับอินไซต์จากการสำรวจของเต็ดตรา แพ้ค ที่ระบุว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความสะดวกควบคู่กับคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น
การเติบโตของผลิตภัณฑ์โปรตีนสูงในไทยจึงไม่เพียงสะท้อนเทรนด์สุขภาพที่ชัดเจนขึ้น แต่ยังตอกย้ำว่า “ข้อมูลเชิงลึกจากผู้บริโภค” กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในระยะต่อไป