ในปีที่เศรษฐกิจไทยยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ชื่อหนึ่งที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องในวงการธุรกิจ การเงิน และตลาดทุน ไม่ใช่เพราะดราม่า ไม่ใช่เพราะการออกสื่อ แต่เพราะทุกความเคลื่อนไหวมีผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง
ชื่อนั้นคือ สารัชถ์ รัตนาวะดี วัย 60 ปี เจ้าของและผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มบริษัท กัลฟ์ (GULF)
ชื่อของคนคนนี้เคยถูกค้นหาผ่าน Google เป็นอันดับต้น ๆ เมื่อปี 2562 จากการเข้ามาเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยคนใหม่ป้ายแดง ที่ร่ำรวยประมาณ 1.21 แสนล้านบาท และยังคงเป็นแชมป์อันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ในปี 2568 โดยมูลค่าพอร์ตหุ้นที่ถืออยู่ราว 189,990 ล้านบาท
สารัชถ์จบการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ และเติบโตมากับโลกของ “โครงสร้าง” และ “ระบบ” ในวัยประมาณ 29 ปี เขาได้ตั้งบริษัท กัลฟ์ อิเล็คตริก จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า และมีบริษัทอื่น ๆ ตระกูลกัลฟ์ตามมาอีกหลายบริษัท
ก่อนที่จะมาตั้ง กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ขึ้นมาเมื่อปี 2554 แล้วเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปี 2560
กัลฟ์ ไม่ได้หยุดอยู่ที่ “โรงไฟฟ้า” แต่ค่อย ๆ ต่อยอดธุรกิจพลังงานเดิมสู่กลุ่มธุรกิจแห่งอนาคต เช่น การควบรวมกิจการ Gulf-Intouch เพื่อขยายธุรกิจสู่โทรคมนาคมผ่าน AIS การลงทุนในธุรกิจดิจิทัลโดยร่วมมือกับ Google Cloud พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ AI ในไทย และร่วมกับ Binance เปิดแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตฯ
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ดีลที่แยกขาดจากกัน แต่คือการ “ต่อจิ๊กซอว์” ของระบบเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงพลังงาน ข้อมูล และทุนเข้าด้วยกัน
หนึ่งในความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาที่สุดในช่วงหลัง คือการที่ GULF เข้าไปถือหุ้นในสถาบันการเงินขนาดใหญ่
กัลฟ์ เริ่มทยอยเข้าซื้อหุ้น KBANK ตั้งแต่ปี 2567 การเพิ่มสัดส่วนเป็นไปแบบ “ค่อยเป็นค่อยไป” ไม่ใช่ดีลเดียวก้อนใหญ่
เมื่อเดือนตุลาคม 2568 GULF เดินหน้าสะสม KBANK ต่อเนื่อง เข้าซื้อเพิ่มกว่า 5.39 ล้านหุ้น ดันสัดส่วนถือครองทะลุ 5% กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ Top 5 ของ KBANK
ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2568 สารัชถ์ยังเข้าถือหุ้น KTB ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 130 ล้านหุ้น ในนามส่วนตัว จนติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 8 ของ KTB
วันนี้ บทบาทของเขาจึงไม่ใช่แค่ “เจ้าของกิจการ” แต่เป็น System Player ของเศรษฐกิจไทย ที่โครงสร้างความมั่งคั่งของเขาผูกอยู่กับ “โครงสร้างพื้นฐานของประเทศ”
ปี 2568 ในวันที่นักลงทุนจำนวนมากยังวัดความสำเร็จจากกำไรระยะสั้น สารัชถ์กลับเลือกมองเกมที่ยาวกว่านั้นมาก ไม่ใช่เกมของการเก็งกำไร
แต่คือเกมของการเป็น ผู้ชนะในระบบเศรษฐกิจ ตั้งแต่พลังงาน ดิจิทัล ไปจนถึงการเงิน
