Mercedes Benz คือแบรนด์รถหรูเยอรมันที่มียอดขายมากที่สุดในโลกโดยในปีที่ 2017 ที่ผ่านมามียอดขาย 2.28 ล้านคัน รวมไปถึงในบ้านเรา ที่รถโลโก้ดาว 3 แฉก ก็มียอดขายแซงหน้าคู่แข่งทุกรายพร้อมกับมีรายได้เติบโตต่อเนื่องในทุกๆ ปี
เหตุผลของการมียอดขายมหาศาลในบ้านเรา นอกจากคนไทยจะรู้จักรถค่ายนี้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ทำให้เชื่อมันในเรื่องคุณภาพ ต้องบอกว่า Image ของ Mercedes Benz ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องประดับที่ช่วยยืนยันในการประสบความสำเร็จในชีวิตของผู้ขับขี่

อนาคตที่ Mercedes Benz วาดไว้คือ ?
ถึงจะขายดีต่อเนื่องแต่ Mercedes Benz เองก็มีเรื่องให้ขบคิดมากมายเกี่ยวกับอนาคตตัวเองโดยเฉพาะการผลิต EV Car
แม้ปัจจุบันยอดขายของ Mercedes Benz รถยนต์ประเภท Plug-in Hybrid (รถที่มีเครื่องยนต์สันดาป และมอเตอร์ไฟฟ้า) ในประเทศไทยจะมีสัดส่วนสูงเกือบๆ 50% ของยอดขายทั้งหมด
แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ความพึงพอใจเต็ม 100% เพราะ ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เคยให้สัมภาษณ์ว่า “บริษัทแม่ที่ประเทศเยอรมันได้วางนโยบายว่ารถ Mercedes Benz ทุกคันที่วางขายทั่วโลกภายในปี 2030 จะต้องเป็นรถที่มีพลังงานสะอาดรักษาสภาพแวดล้อม”
ซึ่งนั้นแปลว่าในอนาคตอันใกล้ Mercedes Benz ต้องการจะขาย EV Car อย่างเต็มตัว
เพียงแต่ปัญหาในอนาคตของรถหรูคันนี้ หากจะแปลงร่างเป็น EV Car เต็มระบบ นั้นคือต้องปักหลักการผลิตในประเทศนั้นๆ ที่ตัวเองทำธุรกิจให้ได้ ถึงแม้จะมีอีก 1 วิธีทางเลือกคือการนำเข้า EV Car มาขายได้ก็ตามที
และแน่นอน Mercedes Benz ไม่เลือกวิธีนั้น และต้องการจะผลิตรถ EV Car ขายในเมืองไทย
แล้วทำไมต้องผลิตในไทย?
เพราะจะทำให้ต้นทุนของรถแต่ละคันต่ำลงกว่าการนำเข้ารถทั้งคันที่ต้องเสียภาษีหลายด้านอย่างเต็มสตรีม ไม่แปลกที่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นรถ Mercedes Benz และ BMW หลายรุ่นที่มีราคาขายถูกกว่าในอดีต เพราะเลือกที่จะผลิตในประเทศไทยนั้นเอง
ทำให้ความเคลื่อนไหวล่าสุด Mercedes-Benz ประเทศไทยได้ยืนยันแล้วว่า กำลังเจรจาเรื่องการลงทุนกับ BOI เพื่อขอสิทธิประโยชน์ ในการผลิตรถยนต์ Plug-in Hybrid และ EV ในประเทศไทย
บทสรุปจะเป็นอย่างไร…คงต้องรอคำตอบอีก 2 – 3 ปี แต่สิ่งที่ Mercedes Benz ยังต้องปรับเปลี่ยนก็คือ Image ของตัวเองที่ดูเป็น ชายสูงอายุผู้มั่งคั้ง ในขณะที่คู่แข่งอย่าง BMW หรือ Audi มีภาพลักษณ์แบรนด์ที่เป็นเศรษฐีหนุ่มไฮโซ
ทำให้ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา Mercedes-Benz จึงพยายามทำให้ตัวเองดูหนุ่มขึ้นและมีความเป็นแบรนด์รถที่มีแฟชั่นมากขึ้นกว่าเดิม
แต่ก็ไม่ใช่จะสลัดภาพลักษณ์เดิมไปหมดสิ้น เพราะกลุ่มคนสูงอายุก็ยังเป็นฐานลูกค้าหลักของตัวเอง เพียงแต่เพิ่มไลน์อัพรถรุ่นใหม่เข้าไปในโชว์รูมของตัวเอง นอกจากรุ่นที่เรารู้จักกันดีอย่าง
New Generation Compact Car (เช่น C-Class, A-Class)
Contemporary Luxury (เช่น E-Class,S-Class)
Dream Car (เช่น Coupé,Roadster)
รุ่นใหม่ที่ว่าก็คือกลุ่ม CLA Class ที่มีดีไซน์ทันสมัยและมีราคาเข้าถึงง่ายเริ่มต้นที่ 2 ล้านต้นๆ จับกลุ่มเศรษฐีวัยรุ่นอายุน้อย
ขณะเดียวกันก็เลือกจะลงทุนจ้าง “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” รับบท Brand ambassador ถึง 2 ปีติดๆ เพื่อสื่อสารว่า Mercedes-Benz เป็นรถที่มีภาพลักษณ์ทันสมัยกว่าในอดีต
การขยับตัวของรถหรูระดับตำนานอย่าง Mercedes-Benz เหตุผลเพราะ ณ วันนี้โลกของยนต์กรรมหมุนเร็วกว่าในอดีต อีกทั้งคู่แข่งก็มีเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ที่สำคัญทุกรายยังพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดด
หากต้องการรักษาคำว่า “ผู้นำรถหรู” ไม่ให้หลุดมือจากไปไหน อนาคตต่อจากนี้ไป Mercedes-Benz ก็ต้องทำให้ดีกว่าคู่แข่งแบบ “ทิ้งขาด” มากขึ้น
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
