เปิดตัว “Super APP” แอปพลิเคชันใหม่ล่าสุดของ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” วางเป้าผู้ใช้ใหม่ 5 ล้านราย พร้อมปรับสัดส่วนการซื้อตั๋วหนัง จากเดิมแอปพลิเคชั่น 8% เป็น 20%-ซื้อผ่านเคาน์เตอร์ลดเหลือ 5% จากเดิม 21% ส่วนแอปพลิเคชันเดิมปิดให้บริการมีนาคมนี้
นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด มหาชน เปิดเผยว่า ในปี 2562 เมเจอร์ฯ จะมุ่งการทำการตลาดไปที่ Mobile Marketing เต็มรูปแบบ ตามนโยบาย Major 5.0 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
โดยหนึ่งในกลยุทธ์ที่บริษัทเข้ามาทำการตลาดคือการใช้แพลตฟอร์ม ‘แอปพลิเคชัน’ ปัจจุบัน เมเจอร์ฯ มีแอปพลิเคชันเดิมชื่อ “Major Movie Plus” กับยอด 10 ล้านดาวน์โหลด แต่มียอดผู้ใช้งานต่อเนื่องทุกวัน 1.8 ล้านราย ซึ่งมีฟังก์ชันเฉพาะ ‘จองตั๋ว’ และ ‘ชำระเงิน’ เท่านั้น
โดยบริษัทจะปิดให้บริการแอปพลิเคชัน Major Movie Plus ในเดือนมีนาคม 2562 นี้
ล่าสุด เมเจอร์ฯ ได้เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ชื่อ “Super APP” โดยมีฟังก์ชันที่ครอบคลุมพฤติกรรมผู้บริโภคมากกว่าเดิม เช่น Express Ticketing ซื้อตั๋วหนังเพียง 3 คลิก, Social Seating เลือกโชว์ที่นั่งให้เพื่อนดูว่าอยู่ตำแหน่งไหน, Major Live รวบรวมข่าวภาพยนตร์, Digital Major Experience สะสมแต้มแลกของรางวัล ฯลฯ นรุตม์กล่าวอีกว่า แอปพลิเคชั่นใหม่จะเป็น Ecosystem ที่มีการนำ Big Data, AI: Artificial Intelligence, Advertisers & Sponsor, Social Influence, Loyalty Program เข้ามาใช้

นรุตม์ตั้งเป้าว่า “Super APP” จะมียอดดาวน์โหลด 5 ล้านดาวน์โหลด และจากยอดซื้อตั๋วหนังผ่านแอป 2.5 ล้านใบในปี 2561 ตั้งเป้าใหม่เป็น 7.8 ล้านใบในปี 2562
นรุตม์กล่าวอีกว่า ในปี 2562 ยอดซื้อตั๋วผ่านช่องทางต่างๆ จะปรับสัดส่วนเป็นแอปพลิเคชัน 20% จากปี 2561 ที่ 8% ตู้คีออส-Kiosk (ตู้ซื้อตั๋วหนังผ่านเครื่อง) 75% จากเดิม 71% และบ็อกซ์ออฟฟิศหรือเคาน์เตอร์เพียง 5% จากเดิมที่ 21%
นรุตม์กล่าวอีกว่า แอปพลิเคชันใหม่นี้เป็นการลงทุนร่วมระหว่าง “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” กับ “เอ็มเทล” ในสัดส่วน 70 : 30 ซึ่งการร่วมทุนครั้งนี้เป็นการพัฒนาแพลตฟอร์มที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โดยเมเจอร์ฯ ได้แอปพลิเคชัน ส่วนเอ็มเทลได้สร้างซอฟต์แวร์ต้นแบบเพื่อขาย ‘แพลตฟอร์ม’ แอปพลิเคชันให้กับธุรกิจโรงภาพยนตร์ทั่วโลก
ทั้งนี้ เอ็มเทลเป็นบริษัทด้าน Digital Solution Provider จากฮ่องกง มีพนักงานราว 1,800 คนทั่วโลก และทำแอปพลิเคชันให้กับลูกค้าในประเทศไทย ได้แก่ McDonald, Starbucks, Watson และล่าสุดคือ Major Cineplex –
