มีหลายเหตุผลที่ทำให้การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศอเมริกันฟุตบอลของสหรัฐในแต่ละปีได้รับความสนใจ เริ่มจากการที่คอกีฬาจะได้รู้ว่าทีมไหนจะเป็นแชมป์ศึก “คนชนคน” ทีมใหม่ ตามด้วย Concert ช่วงพักครึ่ง (Half Time Show) ของศิลปินดังแห่งปีจะตระการตาแค่ไหน และท้ายสุดแต่น่าสนใจที่สุดสำหรับคนในวงการโฆษณากับการตลาดทั่วโลกคือ โฆษณาที่ออกอากาศตลอดการถ่ายทอดสดเพราะนี่คือรายการทางโทรทัศน์ของสหรัฐที่มีผู้ชมมากสุดของปี ดังนั้นแต่ละแบรนด์สินค้าจึงขับเคี่ยวกันปล่อยสุดยอดโฆษณามาให้ชาวอเมริกันได้ดูกัน ให้คุ้มกับทั้งงบประมาณในการถ่ายทำและค่าออกอากาศที่สูงสุดในโลก

สำหรับปีนี้ซึ่งเป็น Super Bowl ครั้งที่ 52 ปรากฏว่าหนังโฆษณาแนวย้อนยุค อารมณ์โหยหาอดีต (Nostalgia) มาแรงสุด ยืนยันได้จากที่มีหนังโฆษณาถึง 4 ตัวคือ This is Pepsi : 30 ของ Pepsi ,Feel Something Again ของ Kia ,ตัวอย่างหนัง Crocodile Dundee ภาคใหม่ และ The Wonder of Us ของ Coca-Cola ที่ใช้แนวทางนี้ โดยในกลุ่มนี้เรื่องที่ชัดเจน และโดดเด่นสุดคือเรื่องแรกซึ่งเล่าถึงเครื่องดื่มน้ำดำแบรนด์นี้ที่คนหลายรุ่นดื่มกันที่มีคนดังต่างยุคเช่น Cindy Crawford และ Britney Spears มาปรากฏตัวพร้อมLogo บนกระป๋องที่เปลี่ยนแปลงไป

วิเคราะห์กันว่านี่คือแนวทางการนำเสนอที่ปลอดภัยสุดในยามที่ชาวอเมริกันต้องเผชิญปัญหาความแตกแยกในชาติอย่างรุนแรง เรียกความสนใจได้แน่นอนและแสดงให้เห็นว่าเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่กับผู้บริโภคมานาน ขณะเดียวกันยังช่วยให้งบโฆษณาปีนี้ไม่บานปลาย เพราะค่าออกอากาศปีนี้สูงถึง 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 155 ล้านบาท) ต่อ 30 วินาที ทำให้ NBC เก็บค่าโฆษณาได้สูงสุดถึงเกือบ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เกือบ 15,500 ล้านบาท)

ในส่วนของผลการแข่งขันปรากฏว่า Philadelphia Eagles สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกของเมือง ด้วยการชนะ New England Patriots ไป 41-33 ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ ขณะที่ Half Time Show เป็นการแสดงของ Justin Timberlake / adweek,cnn



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online