เทรนด์การท่องเที่ยว 2563 เปิดเผยข้อมูลแนวโน้มของการท่องเที่ยวทั่วโลกก่อนใคร ที่นี่
เรื่องเที่ยวเรื่องใหญ่ หาวันลาได้ไหมค่อยว่ากัน
เมื่อการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจของคนทั่วโลก เรามาดูกันว่า 2020 มีเทรนด์อะไรที่น่าสนใจในการท่องเที่ยวกันบ้าง
แอปพลิเคชันตอบโจทย์ความสะดวกสบาย เดินทางไม่มีพาสปอร์ตก็ดีนะ
ในวันนี้นักท่องเที่ยวทั่วโลกมีความต้องการแอปพลิเคชันเพื่อสร้างความสะดวกสบายในการเดินทาง
จากรายงานของ Agoda ที่อ้างอิงผลสำรวจจาก YouGov สิงคโปร์ สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มตัวอย่างถึงความคาดหวังการใช้งานแอปพลิเคชันเดียวสำหรับทุกความต้องการในการเดินทาง การเช็กอินผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ และการเดินทางโดยไม่ใช้พาสปอร์ตพบว่า
นักเดินทางชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นนักเดินทางที่มองว่า การใช้งานแอปพลิเคชันเดียวสำหรับทุกความต้องการในการเดินทาง การเช็กอินผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ และการเดินทางโดยไม่ใช้พาสปอร์ตจะเป็นเรื่องปกติในการเดินทางในทศวรรษ 2020 เป็นต้นไป
โดย 6 ประเทศที่มองว่าสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องปกติ ได้แก่
อินโดนีเซีย 56%
สิงคโปร์ 54%
ประเทศมาเลเซีย 53%
ไต้หวัน 50%
ฟิลิปปินส์ 48%
ประเทศไทย 48%
ส่วนสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา มีนักเดินทางเพียง 1 ใน 3 หรือ 33% เท่านั้นที่เห็นด้วย
เทรนด์การท่องเที่ยว
เมื่อมองไปถึงแอปพลิเคชันเช็กอินที่พักผ่านมือถือ
1 ใน 2 ของนักเดินทางชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดหวังว่าจะเช็กอินเข้าที่พักผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือได้ และดาวน์โหลดคีย์การ์ดเปิดประตู เพื่อไม่ต้องเสียเวลาเข้าคิวเช็กอินที่ล็อบบี้
โดย 4 ประเทศที่คาดหวังจะให้บริการเช็กอินผ่านแอปพลิเคชันมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากที่สุด ได้แก่
มาเลเซีย 58%
สิงคโปร์ 54%
ฟิลิปปินส์ 53%
ไทย 49%
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวในยุค 2020 ยังมีความต้องการที่จะท่องเที่ยวโดยไม่ต้องพกพาสปอร์ตอีกต่อไปโดย นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ จีน และออสเตรเลีย คือ 5 ประเทศที่คาดหวังจะได้เห็นเทรนด์นี้มากที่สุด
5 ประเทศที่คาดหวังท่องเที่ยวไม่มีพาสปอร์ต
สิงคโปร์ 50%
เวียดนาม 47%
ฟิลิปปินส์ 45%
จีน 44%
ออสเตรเลีย 41%
การท่องเที่ยวต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
จากปัญหาด้านมลภาวะต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวในยุค 2020 มีความต้องการการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
จากผลสำรวจพบว่านักเดินทางมากกว่า 1 ใน 4 ต้องการทางเลือกในการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในทศวรรษหน้า
โดยเฉพาะนักเดินทางจากประเทศสิงคโปร์ ไทย และอินโดนีเซีย ที่มีความกระตือรือร้นในการเลือกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาจเนื่องมาจากการปิดอ่าวมาหยาในประเทศไทย และเกาะโบราไกย์ (Boracay island) ในประเทศฟิลิปปินส์เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งทำให้นักเดินทางอยากมีส่วนร่วมช่วยรักษ์โลกขณะท่องเที่ยว
เที่ยวประเทศตนเองมากกว่าเที่ยวต่างประเทศ
จากผลสำรวจของ YouGov พบว่า 40% ของผู้ตอบแบบสอบถามอยากเที่ยวในประเทศของตนเองให้มากขึ้น และ 35% อยากเที่ยวในต่างประเทศให้มากขึ้น
นักท่องเที่ยว 2 กลุ่มคือ อายุ 35-44 ปี และมากกว่า 55 ปีขึ้นไป เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มที่จะอยากท่องเที่ยวในประเทศของตนเองมากขึ้น (40% และ 42% ตามลำดับ)
และนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ไทย สหรัฐอเมริกา และประเทศเวียดนาม เลือกจุดหมายปลายทางในประเทศเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกบนรายการจุดหมายปลายทางที่ตนอยากไปในทศวรรษหน้า
นอกจากนี้ นักเดินทางจากประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศไทย ไต้หวัน ประเทศเวียดนาม และประเทศมาเลเซีย ต่างต้องการไปเที่ยวที่อื่นมากกว่าที่เมืองหลวงของประเทศตัวเอง
ขณะเดียวกันนักเดินทางจากประเทศเกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร และประเทศออสเตรเลีย เป็น 3 ประเทศที่ไม่ได้เลือกที่เที่ยวในประเทศเป็นจุดหมายปลายทางในทศวรรษหน้า
ใครๆ ก็อยากท่องเที่ยวคนเดียว
จากผลสำรวจพบว่านักเดินทางชาวเกาหลีและญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวมากขึ้นในทศวรรษหน้า
และนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและอินโดนีเซีย มีแนวโน้มจะเดินทางช่วงจบการศึกษาเพื่อค้นหาตัวเองก่อนศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยหรือวางแผนอื่นๆ ในอนาคต
เกียวโตคือจุดหมายปลายทางที่ผู้คนอยากไปเยือนมากที่สุด
ทวีปเอเชียขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ของจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลกในทศวรรษหน้า นักเดินทางทั้งจากเอเชียและตะวันตกต่างอยากมาสัมผัสและสำรวจเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นดั่งสมบัติของทวีปเอเชีย อาทิ เมืองเกียวโตในประเทศญี่ปุ่นที่มีศาลเจ้าชินโต วัฒนธรรม อาหาร และประวัติศาสตร์อันเลื่องชื่อ ตามมาด้วยกรุงเทพมหานคร และเกาะบาหลีในประเทศอินโดนีเซีย
แต่อย่างไรก็ดี นักเดินทางชาวอเมริกันและชาวอังกฤษต่างอยากไปท่องเที่ยวที่มหานครนิวยอร์กมากที่สุดในทศวรรษหน้า
ทั้งนี้มหานครนิวยอร์กก็เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับนักเดินทางจากประเทศออสเตรเลีย ประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีใต้ ส่วนนักเดินทางทั้งชาวมาเลเซียและอินโดนีเซียก็มีความต้องการอยากไปเยือนกรุงมักกะฮ์ให้ได้ก่อนปี 2030
Marketeer FYI
คนไทยมองเทรนด์การท่องเที่ยว 2020 อย่างไร
คนไทย 49% มองการเช็กอินเข้าที่พักผ่านมือถือจะกลายเป็นเรื่องปกติ
39% ต้องการแอปพลิเคชันเดียวสำหรับการเดินทาง
32% เลือกการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
36% ของนักเดินทางชาวไทยต้องการท่องเที่ยวในประเทศตัวเองมากขึ้น
30% ต้องการไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น
ที่มา: Agoda อ้างอิงผลสำรวจของ YouGov (ประเทศสิงคโปร์) โดยมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามทั้งหมด 16,383 คน
และมีการทำการสำรวจทางออนไลน์ขึ้นในระหว่างวันที่ 12-18 ธันวาคม 2562
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
