อุตสาหกรรมน้ำมันได้รับข่าวดีแต่เป็นผลกระทบสืบเนื่องจากท่าทีข่มขู่ของผู้นำสหรัฐฯ โดยราคาน้ำมันสหรัฐฯ จากแหล่ง West Texas สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้ารอบส่งมอบเดือนมิถุนายน วานนี้ (พุธ 22 เมษายน) ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 13.78 เหรียญสหรัฐ (ราว 450 บาท) ต่อบาร์เรล หรือขึ้นมาถึง 19% และยังฟื้นจากการลงไปติดลบครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อวันจันทร์ เพราะปริมาณน้ำมันในคลังที่มีอยู่มากเกินความต้องการของตลาดโลกหลังกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักท่ามกลางวิกฤตไวรัสโควิด-19
ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังประธานาธิบดี Donald Trump ขู่ผ่าน Twitter ว่าจะสั่งให้เรือรบสหรัฐฯ ที่ลอยลำอยู่ในทะเลอาหรับยิงเรือติดอาวุธของอิหร่านทุกลำ หากแสดงท่าทีข่มขู่หรือคุกคามทัพเรือสหรัฐฯ อีกเหมือนเมื่อสัปดาห์ก่อน
การขู่จะโต้กลับอิหร่านอย่างรุนแรงของประธานาธิบดี Donald Trump สร้างความตึงเครียดให้เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง แหล่งน้ำมันใหญ่ของโลกทันที
แต่เมื่อรวมกับข่าวดีในสหรัฐฯ อย่างวุฒิสภาสหรัฐฯ อนุมัติงบเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 มูลค่า 484,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 15.7 ล้านล้านบาท) ก็ทำให้ราคาน้ำมันคืนสู่แดนบวก
ราคาน้ำมันในสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นครั้งนี้ยังส่งผลดีต่อเนื่องไปอีกหลายทอด โดยช่วยให้ราคาน้ำมันดิบจากแหล่ง Brent ของยุโรป ขึ้นมาอยู่ที่ 20.37 เหรียญสหรัฐ (ราว 664 บาท) ต่อบาร์เรล และส่งให้ Dow Jones กับ Nasdaq 2 ใน 3 ดัชนีสำคัญในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ ยังต้องติดตามแบบวันต่อวัน และมีความผันผวน เพราะเกี่ยวเนื่องเป็นระบบกับทั้งข้อมูลการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตัวเลขทางเศรษฐกิจ สถานการณ์การเมืองในสหรัฐฯ ที่ปีนี้จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี
ท่าทีของซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นชาติมหาอำนาจแถบตะวันออกกลางของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และยังต้องจับตาดูด้วยว่าสหรัฐฯ จะทยอยระบายน้ำมันที่ใกล้ล้นที่จัดเก็บออกไปได้ทันเวลาหรือไม่/cnbc, ft, aljazeera, reuters, cnn
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ