กลุ่มประเทศส่งออกเนื้อปลาแซลมอนต้องกลับมาป่วยเพราะไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งมีที่มาจากสถานการณ์ระบาดของตลาดใหญ่สุดในเอเชีย โดยรัฐบาลจีนสั่งห้ามนำเข้าเนื้อปลาแซลมอน หลังพบว่าการระบาดแบบกลุ่มรอบใหม่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จากร้านนำเนื้อเข้าเนื้อปลาชนิดนี้ที่ตลาดซินฟาตี้ในกรุงปักกิ่ง จนต้องสั่งปิดตลาดและพื้นที่โดยรอบตลาดเพื่อสกัดการระบาด ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อรอบใหม่ในกรุงปักกิ่งที่เพิ่มเป็น 106 คน

ประเทศที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการดังกล่าวคือ ชิลี นอร์เวย์ ออสเตรเลียและเดนมาร์ก เพราะเป็นชาติที่ส่งออกเนื้อปลาแซลมอนไปยังจีนมากสุด และการระบาดรอบแรกทำให้ 4 เดือนแรกปีนี้ปริมาณส่งออกไปจีนลดลงไปถึง 30% โดยเป็นที่คาดว่าต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าที่ผู้บริโภคชาวจีนจะกล้ากลับมากินเนื้อปลาแซลมอนนำเข้ากันอีกครั้ง

ผลกระทบของการระบาดรอบใหม่ครั้งนี้ ยังทำให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ ในจีนงดขายเนื้อปลาแซลมอนนำเข้า และมีรายงานว่าวานนี้ (15 มิถุนายน) หุ้นของกลุ่มบริษัทส่งออกเนื้อปลาแซลมอนในนอร์เวย์พากันตก

เช่นเดียวกับราคาเนื้อปลาแซลมอนในตลาดโลก แต่กลับส่งผลดีต่อยอดขายเนื้อประเภทอื่น เช่นเนื้อหมู ในจีนจนทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเนื้อแปรรูปจีนขยับขึ้น

การระบาดรอบใหม่ในจีนยังทำให้ทางการฮ่องกงเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเนื้อปลานำเข้าและอาหารทะเล พร้อมกับเตือนประชาชนให้กินอาหารทะเลที่สะอาดและปรุงสุกเท่านั้น
ผลจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนและรายได้ของกลุ่มคนชั้นกลางชาวจีนที่เพิ่มขึ้น ทำให้เนื้อปลาแซลมอนนำเขากลายเป็นหนึ่งในเมนูยอดฮิตของชาวจีนและจีนกลายมาเป็นตลาดใหญ่ของกลุ่มประเทศส่งออกเนื้อปลาแซลมอนที่มีอนาคตสดใส

มีปริมาณนำเข้าอยู่ที่ปีละ 80,000 ตัน และมูลค่านำเข้าเมื่อปี 2019 เพิ่มขึ้นเป็น 686 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 21,311 ล้านบาท) / bloomberg ,cnn ,scmp ,thelocal ,globaltimes ,salmonbusiness
