โอสถานุเคราะห์ เผย นิติ โอสถานุเคราะห์ รวยหุ้นอันดับ 3
เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ในปีนี้ ยังคงเป็นของ นิติ โอสถานุเคราะห์ แม้ในปีนี้นิติขยายพอร์ตการลงทุนจากเดิม 10 บริษัท เป็น 12 บริษัท แต่ก็มีอัตราการรวยหุ้น ลดลง 431.68 ล้านบาท หรือ 0.89%
โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 48,181.64 ล้านบาท ลดลง 431.68 ล้านบาท หรือ 0.89%
เป็นที่รู้กันว่านิติ เป็นนักลงทุนรายใหญ่ของไทยที่เก็บตัวเงียบที่สุด ในขณะที่ พอร์ตหุ้นของหลายๆ ตัว HOT ที่สุด
จำนวนหุ้นที่เขาถือ 9 ตัวใน 12 ตัว ติด 1 ใน 10 ของผู้ถือหุ้นรายใหญ่
บางตัวเขาถือมากกว่า ผู้บริหารที่เป็นเจ้าของ หรือผู้ก่อตั้งบริษัทด้วยซ้ำ
ไปดูกันว่า เขาถือหุ้นตัวไหนกันบ้าง และผลประกอบการผ่านไป 9 เดือนแรก เป็นอย่างไร
หลายคนคงไม่รู้ว่าบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) รายชื่อผู้ถือหุ้นมากที่สุดอันดับแรกไม่ใช่ เพชร โอสถานุเคราะห์ อดีตประธานคณะกรรมการบริหาร และ CEO ที่ได้สละตำแหน่งให้กับกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุด ที่เป็นคนนอกตระกูลไปเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
แต่เป็นนิติที่ถืออยู่ 494.496 ล้านหุ้น หรือ 16.46% ในขณะที่เพชรล่าสุดถืออยู่ 120.29 ล้านหุ้น เป็นอันดับที่ 5 ส่วนโอสถานุเคราะห์คนอื่นๆ จะถือน้อยกว่าเพชร
บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) นิติ ถือหุ้นมาก เป็นอันดับ 2 คือ 492.65 ล้านหุ้น ประมาณ 10% รองจากบริษัท ไมเนอร์ โฮลดิ้ง (ไทย) จำกัด ที่ถืออยู่ 15%
ส่วนวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ผู้ก่อตั้ง ถืออยู่ 168.96 ล้านหุ้น จำนวน 3% เป็นอันดับที่ 7
โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา นิติ ถืออยู่ 41.31 ล้านหุ้น สัดส่วน 3.06% เป็นอันดับ 3 รองจากบริษัท เตียง จิราธิวัฒน์ จำกัด และบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด
มากกว่าจิราธิวัฒน์ คนอื่นๆ เช่น สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริษัท ที่ถืออยู่เป็นอันดับที่ 4 คือ 31.17 ล้านหุ้น หรือ 2.31%
นิติ ปัจจุบันอายุ 47 ปี เขาเป็นลูกชายของสุรินทร์ ผู้เป็นน้องชายของสุวิทย์-สุรัตน์ และเป็นพี่ชายของ เสรี ดังนั้นนิติคือลูกพี่ลูกน้องของนายเพชร และรัตน์ และเป็นผู้บริหารรุ่นที่ 4 ของโอสถานุเคราะห์
ตำแหน่งของนิติ ในโอสถสภา คือกรรมการสรรหากำหนดค่าตอบแทน และบรรษัทภิบาล
เขาจบปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต กฎหมายเศรษฐกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์และการเมือง Amherst College, สหรัฐอเมริกา
หุ้นทั้ง 12 ตัว ของนิติกระจายในหลายหมวด เช่น อาหารและเครื่องดื่ม พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และโรงแรม
ในช่วงโควิด-19 หุ้นทั้งหมด มี 3 ตัว ที่มีผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 มีตัวเลขขาดทุน
หนักสุดก็คือของไมเนอร์กรุ๊ป ที่ธุรกิจหลักทั้งอาหารและโรงแรมขาดทุนไปแล้วถึง 15,816 ล้านบาท
โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา ขาดทุน 1,408 ล้านบาท ส่วนโอเชียนกลาส ขาดทุนที่ 203 ล้านบาท
แต่ความมั่งคั่งหลักของนิติยังอยู่ที่การถือหุ้นของโอสถสภา จำนวน 494 ล้านหุ้น ราคาหุ้นวันนี้อยู่ที่ 39 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
หลังวิกฤตโควิด-19 ในยุค NEW NORMAL จึงน่าจับตาดูว่า นิติจะวางแผนซื้อ และปล่อยพอร์ตในมือของเขาอย่างไร
แต่อย่าหวังว่าเขาจะออกมาวิเคราะห์หุ้นตัวใดกับสื่อ เพราะเขาคงจะพอใจกับการรวยแบบเงียบๆ ต่อไป
อ่าน : โอสถสภา
อ่าน : บริษัทโอสถสภา
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

