Bitcoin กำลังถูกรุกไล่ในจีน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อมูลค่าในตลาด โดยวานนี้ราคา Bitcoin ร่วงจาก 32,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.012 ล้านบาท) ต่อเหรียญ ลงมาอยู่ที่ 31,760 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.004 ล้านบาท) ต่อเหรียญ ถือว่าต่ำสุดในช่วง 2 สัปดาห์ สืบเนื่องจากจีนได้เดินหน้าปิดเหมืองขุด Bitcoin ไปแล้วหลายแห่ง ภายใต้ข้ออ้างด้านสิ่งแวดล้อม
เหมือง Bitcoin แห่งล่าสุดที่ถูกปิดไปเมื่อวันอาทิตย์อยู่ที่มณฑลเสฉวน ทางภาควันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งการทำเหมือง Bitcoin กำลังเฟื่องฟูตามการแห่ย้ายมาเปิดเหมืองของนายทุนจากเมืองอื่นที่ถูกปิดไป เพราะเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อนพลังงานน้ำที่สำคัญของจีน
ด้าน Global Times หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษที่รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนหนุนหลัง รายงานว่ารัฐบาลจริงจังกับการปราบปรามเหมือง Bitcoin จนเหมืองในประเทศถูกปิดไปแล้วถึง 90%
แม้จีนอ้างว่าจัดการเหมือง Bitcoin เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการสิ้นเปลืองพลังงานและปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ อันเป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อน แต่ความเคลื่อนไหวนี้ก็คู่ขนานไปกับการควบคุมกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงิน
และสั่งให้บริษัทกลุ่มนี้ห้ามไม่ให้มีการซื้อ-ขายแลกเปลี่ยน Bitcoin รวมถึงเงินคริปโตสกุลอื่น ๆ ด้วย จึงเป็นการย้ำว่าจีนยังต้องการให้ระบบการเงินของประเทศอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล ทั้งเงินแบบปกติ ธุรกรรมออนไลน์ รวมถึงเงินคริปโตด้วย
ทั้งนี้ จากการที่จีนเป็นประเทศใหญ่ และมีเหมือง Bitcoin อยู่มากสุดในโลก การปราบปรามเหมือง Bitcoin ครั้งนี้จึงฉุดให้ราคาเงินคริปโตสกุลอื่น ๆ อย่าง Ethereum และ XRP ร่วงตามไปด้วย
ส่วนปัญหาการสิ้นเปลืองพลังงานในการขุด Bitcoin และเงินคริปโตสกุลอื่น ๆ ยังเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก เพราะทุกครั้งที่ขุด CPU จำนวนมหึมาต้องทำงานพร้อม ๆ กัน
มีรายงานออกมาอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมว่า หากประเทศใหญ่ ๆ เช่น จีน ขุดหา Bitcoin อย่างจริงจัง ปริมาณไฟฟ้าที่ใช้อาจเท่ากับประเทศเล็กใช้ได้ในหนึ่งปีเลยทีเดียว/cnbc
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ