นอกจากความครีเอทของสินค้าและการทำโฆษณาแล้ว การออกแบบทางเดินภายในให้เป็นแบบ ‘วกไปวนมา’ ก็ยังทำให้ IKEA แตกต่างจากห้างค้าปลีกเจ้าอื่น ๆ อีกด้วย
โดยเหตุผลที่ทำให้ IKEA เลือกที่จะทำผังทางเดินเป็นแบบรูปก้นหอย แทนที่จะทำแบบเป็นล็อค ๆ เหมือนกับห้างทั่วไปนั่นก็เพราะว่า ทางบริษัทอยากจะให้ลูกค้าเลือกชมสินค้าของพวกเขาได้ครบทุกหมวดหมู่นั่นเอง และเมื่อเห็นสินค้าเยอะขึ้น การตัดสินใจซื้อก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลเดียวกับที่ว่า ทำไมห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ในบ้านเราถึงทำให้บันไดเลื่อนที่จะลงไปสู่ชั้นต่อไปต้องเดินอ้อมไปอีกด้าน
โดยในต่างประเทศ คนที่มีหน้าที่นี้จะถูกเรียกว่า ‘User Experience Professional’ ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่มีค่าตัวแพงและเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก
สิ่งที่ User Experience Professional ต้องทำ คือการคิดไปถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค, Insight ข้างในจิตใจ นำมาสู่การจัดดิสเพลหรือออกแบบต่าง ๆ ว่าควรวางส่วนไหนไว้ที่ตรงไหน เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดปฏิกริยา และสุดท้ายเกิดการซื้อหรือเกิด Call To Action บางอย่างกับแบรนด์ในที่สุด
ไม่ใช่แค่กับรูปแบบหน้าร้านหรือออฟไลน์ แต่ User Experience Professional นี้ยังสามารถออกแบบในออนไลน์ได้ด้วยเช่นกัน เช่นการจัด Layout ของคอนเทนต์ที่สามารถทำให้คนอ่านสไลด์ดูจนจบ หรือทำให้ผู้อ่านคลิกปุ่มซื้อโปรดักท์จากแบรนด์ได้
โดยเอิร์ธ อรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์ จาก Adapter เอเยนซี่อีกเจ้าที่มาแรงในไทย ได้ให้มุมมองเอาไว้ว่า ในปี 2017 User Experience Professional จะเริ่มเข้ามามีบทบาทและคนไทยจะเริ่มรู้จักตำแหน่งนี้มากขึ้น เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดปฏิกิริยาบางอย่างกับแบรนด์ได้
ที่มา : สัมภาษณ์พิเศษ “เอิร์ธ อรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์”
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ