วัตสัน ครบรอบ 25 ปี แม้จะนาน แต่เหมือนการเดินทางของแบรนด์จะเพิ่งเริ่มต้น (วิเคราะห์)
คาดการณ์ ตลาดสุขภาพและความงาม ปีนี้เติบโต 1.5 เท่า ข้อมูลนี้วัตสันอ้างอิงจากสมาคมผู้ค้าปลีกไทย
การเติบโตของตลาดสุขภาพและความงามของปีนี้มาจากสินค้าดูแลสุขภาพ และการป้องกันดูแลตัวเองที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงสินค้ากลุ่มเส้นผมที่มีการเติบโตจากคนทำสีผมที่บ้านมากขึ้น
แม้ตลาดสุขภาพและความงามปีนี้จะเติบโต แต่ถ้ามองไปที่รายได้ของร้านวัตสัน ผู้นำในตลาดร้านสุขภาพและความงามในปีที่ผ่านมา กลับเผชิญกับความท้าทายในเรื่องของรายได้และผลกำไรที่ลดลงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มากระทบด้านเศรษฐกิจทำให้การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคระมัดระวังและเลือกที่จะใช้จ่ายมากกว่าที่ผ่านมา
รวมถึงการแข่งขันกันสูงในทุกรีเทลชาแนล จากคู่แข่งขันที่เข้ามากระชับพื้นที่กินส่วนแบ่งตลาดจากวัตสันมากขึ้น จากการมองเห็นโอกาสและการเติบโตของตลาดสุขภาพและความงามในไทย
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า ในปีที่ผ่านมา วัตสันมีรายได้ 18,373.41 ล้านบาท กำไร 1,659.58 ล้านบาท
ลดลงจากปี 2562 ที่มีรายได้ 19,475.78 ล้านบาท กำไร 1,831.87 ล้านบาท
ถือเป็นการลดลงด้านรายได้ 5.66% ลดลงด้านกำไร 9.40%
รายได้วัตสัน
2561 รายได้รวม 17,063.01 ล้านบาท กำไร 1,892.13 ล้านบาท
2562 รายได้รวม 19,475.78 ล้านบาท กำไร 1,831.87 ล้านบาท
2563 รายได้รวม 18,373.41 ล้านบาท กำไร 1,659.58 ล้านบาท
สิ่งที่เรากล่าวมาคือหนึ่งในความท้าทายของวัตสันที่จะก้าวข้ามไปในขวบปีที่ 25 ในประเทศไทย นับตั้งแต่ปี 2539 ที่วัตสันเปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่อาคารมณียาเซ็นเตอร์
กลยุทธ์ของวัตสันในการก้าวข้ามความท้าทายรอบด้านเพื่อเดินต่อไปที่เรามองว่าน่าสนใจ นอกเหนือจากกลยุทธ์โปรโมชั่นชิ้นที่ 2 ราคา 1 บาท ประกอบด้วย
1. ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
การขยายสาขาของวัตสันในแต่ละปีจะมีการขยายสาขาเฉลี่ยอยู่ที่ 50 สาขาเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในทุกพื้นที่
ปัจจุบันอ้างอิงถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2564 วัตสันมีสาขา 619 สาขา และคาดการณ์ว่าสิ้นปี 2564 จะมีสาขา 640 สาขา
การเปิดสาขาของวัตสันในปีนี้จะเน้นไปยังสาขาที่เข้าถึงลูกค้าคนไทยเป็นหลัก โดยเฉพาะสาขาตามแหล่งชุมชนที่อยู่ในพื้นที่นอกเมือง และลดการขยายสาขาในพื้นที่ที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว
ส่วนปี 2565 ยังคงขยายสาขาเพิ่มอีก 50 สาขา
พร้อมกับการปรับปรุงรูปแบบสาขามากกว่า 100 สาขาในแต่ละปี เพื่อให้ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ผ่านโมเดลร้านใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
โดยโมเดลร้านวัตสันล่าสุดที่จะเปิดในเซ็นทรัลอยุธยา เป็นโมเดล Generation ที่ 9 ที่วัตสันจะใช้ในการขยายสาขาในปี 2565 แต่รูปแบบโมเดลเป็นอย่างไร ในวันนี้วัตสันยังคงไม่เปิดเผย จนกว่าจะมีการเปิดตัวสาขาในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564
2. ให้ความสำคัญกับ O+O
นอกเหนือจากการขยายสาขาวัตสัน ให้ความสำคัญกับช่องทางการขายในรูปแบบ O+O (Offline Plus Online) เปิดช่องทางออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าจากวัตสันได้หลากหลายช่องทาง
เช่น การขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ อีมาร์เก็ตเพลส แชตแอนด์ช้อปผ่านไลน์ของร้านวัตสันใกล้บ้าน เพื่อสั่งสินค้ารับที่สาขา หรือชำระเงินผ่านออนไลน์เพื่อให้ส่งสินค้าถึงบ้าน และอื่น ๆ
ซึ่งการขยายสู่ช่องทาง O+O วัตสันให้ข้อมูลว่าเป็นการปรับเปลี่ยนตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการซื้อสินค้า และคุ้นชินกับการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
การที่วัตสันปรับสู่ O+O พบว่าลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านช่องทาง O+O ที่นับจากลูกค้าเฉพาะที่ซื้อสินค้าที่ผ่านช่องทางหน้าร้านและออนไลน์มียอดการซื้อเฉลี่ยสูงกว่าหน้าร้านอย่างเดียว 2.5 เท่า
ซึ่งยอดการซื้อที่สูงกว่าลูกค้ากลุ่มที่ซื้อเฉพาะสินค้าผ่านหน้าร้านมาจากความง่ายและสะดวกในการซื้อสินค้าที่มากกว่า
แม้ในปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากช่องทาง O+O ยังคงสัดส่วนที่เล็กเมื่อเทียบกับช่องทางหน้าร้านที่มีสาขากว่า 619 สาขา แต่พสิษฐ์ มั่นคงขันติวงศ์ Managing Director คาดการณ์ว่าใน 1-2 ปี สัดส่วนการขายสินค้าผ่านช่องทาง O+O จะทำรายได้มากถึง 20% ของรายได้รวมทั้งหมด
สำหรับ 5 กลุ่มสินค้าที่ขายดีในช่องทางหน้าร้านและออนไลน์ของ วัตสัน ประกอบด้วย
Skin Care
Derma Skin Care
Health and Fitness
Personal Care โดยเฉพาะกลุ่มเส้นผม
Cosmetic
3. จำหน่ายสินค้าเพื่อความยั่งยืน
ในปีที่ผ่านมาวัตสันมีการให้ความสำคัญกับการนำสินค้าเพื่อความยั่งยืน ในรูปแบบของ Clean Beauty, Refill Reduce, Better Ingredient และ Better Packaging เข้ามาจำหน่ายมากขึ้น
การที่วัตสันให้ความสำคัญกับสินค้าเพื่อความยั่งยืนนอกเหนือจากเดินทางวิสัยทัศน์ของ เอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ที่วางเป้าหมายทางสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2573 แล้ว
ยังเป็นการสร้างการเติบโตด้านรายได้ที่มากขึ้น เนื่องจากผลสำรวจพบว่า 70% ของผู้บริโภคมีความสนใจสินค้าเพื่อความยั่งยืน แม้จะมีราคาเท่ากับหรือแพงกว่าสินค้าประเภทเดียวกันที่ไม่ได้อยู่ในหมวดสินค้าเพื่อความยั่งยืนก็ตาม
นอกจากนี้ วัตสันยังสื่อสารผ่านกับฐานลูกค้าสมาชิกที่มีอยู่ 6 ล้านราย ผ่านโซเชียลมีเดีย ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าผ่านวัตสันอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
และก้าวที่มากกว่า 25 ปี ของวัตสันจะเป็นอย่างไร ดูกันต่อไป
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ