โควิดระลอกแล้วระลอกเล่าทำให้ภาคการเงินการคลังของเกาะในเอเชียใต้ไม่ต่างจากผู้ป่วยอาการหนักนอนติดเตียงจนต้องขอให้เจ้าหนี้รายใหญ่ผ่อนปรน
ศรีลังกาขอให้จีนปรับโครงสร้างหนี้เพื่อคลายวิกฤตการเงินการคลังของประเทศหลังเศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด และยังต้องเผชิญข่าวร้ายจากโควิดกลายพันธุ์คุกคามทั่วโลก
โครงการ One Belt
จีนถือเป็นหนึ่งในเจ้าหนี้รายใหญ่ของศรีลังกา โดยช่วง 10 ปีมานี้ศรีลังกากู้เงินรัฐบาลจีนมา 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 168,000 ล้านบาท) เพื่อนำมาใช้สร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่าง ๆ เช่น ท่าเรือ สนามบินและถนนหนทาง นี่ทำให้ศรีลังกาเป็นประเทศที่อยู่ในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt-One Road) ของจีน
ผลประโยชน์หลักที่จีนได้ไปคือศรีลังกากลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งส่งออกของสินค้า Made in China และคู่ค้าในเอเชียใต้ พร้อมทำให้โครงการ One Belt ในเอเชียใต้ดำเนินไปอย่างราบรื่น
แต่ก็มีกระแสวิจารณ์โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศตะวันตกว่า จีนกำลังทำให้ศรีลังกาตกอยู่ใต้อาณัติผ่านเงินกู้ และความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ โดยที่สุดศรีลังกาอาจติดกับดักหนี้ของจีน
ฝ่ายศรีลังกาอาการกำลังแย่ โดยผลจากวิกฤตโควิดทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวหนึ่งในแหล่งรายได้สำคัญซบเซา การส่งออกติดขัด และเมื่อรวมกับการสิ้นเปลืองเงินไปในโครงการที่ไม่จำเป็นและวิกฤตการแลกเปลี่ยนค่าเงิน รวมไปถึงปัญหาหนี้สะสมที่มีอยู่เดิมและสถานการณ์ข้าวยากหมากแพง ทำให้การเงินการคลังของประเทศเข้าขั้นวิกฤต
กันยายนปี 2021 รัฐบาลศรีลังกาที่นำโดยประธานาธิบดี Gotabaya Rajapaksa พยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยการประกาศภาวะฉุกเฉินทางการเงิน แต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น โดยต่อมาช่วงธันวาคมรัฐบาลศรีลังกาเจรจากับรัฐบาลอิหร่านขอจ่ายค่าน้ำมันมูลค่า 251 ล้านดอลลาร์ (ราว 8,400 ล้านบาท) ที่ค้างอยู่เป็นชาแทนเงิน โดยจะทยอยส่งออกให้เดือนละ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 167 ล้านบาท) จนครบตามมูลหนี้
ปีนี้ศรีลังกามีนัดต้องจ่ายหนี้ 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 151,000 ล้านบาท) ซึ่งจีนก็เป็นหนึ่งในเจ้าหนี้รายใหญ่ ทว่าจากการระบาดของโควิดรอบใหม่ โดยเฉพาะจากสายพันธุ์โอมิครอน อาจทำให้สถานการณ์การเงินการคลังของศรีลังกายิ่งแย่ลง
Wang Yi กับ ประธานาธิบดี Gotabaya Rajapaksa ของศรีลังกา
เมื่อ 9 มกราคมที่ผ่านมา Wang Yi รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ได้เดินทางมาเยือนศรีลังกา โดยประธานาธิบดี Gotabaya Rajapaksa ได้หารือกับ Wang Yi เรื่องขอปรับโครงสร้างหนี้ เพราะศรีลังกาเผชิญวิกฤตโควิดรอบใหม่
ตามข้อมูลของรัฐบาลศรีลังการะบุว่า การปรับโครงสร้างหนี้ครั้งนี้ อาจเป็นการลดพิกัดภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีน และให้นักท่องเที่ยวจีนที่ได้รับวัคซีนแล้วเดินทางเข้ามาในศรีลังกาได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ นอกจากเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่แล้ว จีนยังเป็นประเทศที่ศรีลังกานำเข้าสินค้ามามากที่สุด และในสถานการณ์ปกติ นักท่องเที่ยวจีนคือหนึ่งในนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในศรีลังกามากที่สุด/bbc
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ