ระหว่างแถลงผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้ Tesla เผยว่าจำเป็นต้องเทขาย Bitcoin ที่ถือครองอยู่ออกไป 75% เพื่อลดความเสียหายจากการเสื่อมค่าของคริปโทสกุลนี้ และรักษาสภาพคล่องของบริษัทท่ามกลางปัจจัยลบต่าง ๆ ตั้งแต่กำไรที่ลดลง ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และขาลงของเศรษฐกิจโลก
ย้อนไปเมื่อต้นปี 2021 ขณะที่ Bitcoin การลงทุนคริปโทและสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ ยังเฟื่องฟู Telsa ทุ่มเงินถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 55,000 ล้านบาท) ซื้อ Bitcoin โดยเกือบตลอดปีนั้นก็ยังถือว่าทำกำไร โดยขณะนั้น Bitcoin ดีดขึ้นไปอยู่ที่ 70,000 ดอลลาร์ (ราว 2 ล้านบาท) ต่อเหรียญเลยทีเดียว
ทว่าปลายปี 2021 ก็มีปัจจัยลบมากมายที่ฉุดมูลค่า Bitcoin ให้ลดลง และในปีนี้สถานการณ์ก็แย่ลงอีก พาราคาต่อเหรียญลงไปอีก 50% จนร่วงไปอยู่ที่ 25,000 ดอลลาร์ (ราว 918,000 บาท) ต่อเหรียญแล้ว
นี่ทำให้ Tesla ต้องขาย Bitcoin ที่มีอยู่ออกไป 75% แล้วแลกเป็นเงินสด 936 ล้านดอลลาร์ (ราว 34,000 ล้านบาท) กลับเข้ามาเพื่อเสริมสภาพคล่อง ชดเชยกำไรไตรมาส 2 ปี 2022 ที่ลดลงจากไตรมาส 2 ปี 2021 ถึง 31% และยังลดลงจากไตรมาสแรกปี 2022 พอสมควรอีกด้วย
การเทขายดังกล่าวทำให้มูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลของ Tesla ในปัจจุบันเหลือเพียง 218 ล้านดอลลาร์ (ราว 7,900 ล้านบาท) เท่านั้น ลดลงจาก 1,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 44,000 ล้านบาท) ของไตรมาสแรกปี 2022
กำไรที่ลดลงของ Tesla ในไตรมาส 2 ปี 2022 ยังมาจากการปิดโรงงานในจีนจากสถานการณ์โควิด สายพานการผลิตของโรงงานทั้งในสหรัฐฯ และเยอรมนีที่เคยหยุดชะงักไป และต้นทุนในผลิตทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกอีกด้วย
ข่าวร้ายทั้งหมดดังกล่าวของ Tesla มีขึ้นในช่วงที่ตัว Elon Musk–CEO มหาเศรษฐีของ Tesla เองก็กำลังเผชิญมรสุม อยู่ระหว่างสู้คดีหลังประกาศถอนตัวจากการซื้อกิจการ Twitter มูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,500,000 ล้านบาท)/ theverge, bbc, theguardian
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ