A-Time Media ไม่ใช่แค่วิทยุ แต่เป็น Completed Music Community
ในยุคที่สื่อกำลังก้าวข้ามสู่ยุคดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบ หลายคนสงสัยว่าสื่ออนาล็อก หรือ Traditional Media อย่างวิทยุจะหายไปจากวงการสื่อหรือไม่ อีกทั้งหลายคนก็ไม่มีเครื่องรับวิทยุที่บ้านกันแล้ว
“แท้จริงสื่อวิทยุไม่ได้หายไปไหน หรือ มีคนฟังลดลงแต่อย่างใด เพียงแต่การรับฟังได้เปลี่ยนไปสู่ Device อื่นๆ เช่น ฟังผ่านเว็บบนคอมพิวเตอร์ ฟังจาก App บนมือถือ เป็นต้น”
สมโรจน์ วสุพงศ์โสธร กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ-ไทม์ มีเดีย จำกัด บอกกับ Marketeer อย่างนั้น ในฐานะที่เป็นบริษัทผลิตรายการวิทยุอันดับ 1 ของไทย วันนี้เราจึงต้องมาพูดคุยกับเขา ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน เอ-ไทม์ มีเดียปรับตัวอย่างไรและกำลังจะทำอะไรบ้าง ซึ่งหลายประเด็นที่เชื่อว่า ผู้บริโภคสื่อยุคใหม่ โดยเฉพาะแฟนเอ-ไทม์ มีเดียน่าจะสนใจ
25 ปีแห่งผู้นำนวัตกรรมคลื่นวิทยุ
ปัจจุบัน เอ-ไทม์ มีเดีย มีคลื่นวิทยุดังอยู่ถึง 3 คลื่น ในปัจจุบันได้แก่ Chill FM 89 , 94EFM และ GreenWave 106.5 FM ซึ่งถือเป็นบริษัทผลิตรายการวิทยุรายใหญ่ที่อยู่ในธุรกิจนี้มานานกว่า 25 ปี นับเป็นเจ้าแรกที่มีการออกอากาศผ่านเว็บไซต์ นอกเหนือไปจากวิทยุตั้งแต่ปี 2550 ทำให้รายการวิทยุของ เอ-ไทม์ มีเดีย เป็นรายการวิทยุรายการแรกที่สามารถรับฟังได้ทั่วประเทศและทั่วโลกผ่านอินเทอร์เน็ต
ต่อจากนั้นก็ได้พัฒนาเรื่อยมาอย่างไม่หยุดยั้ง จนมี Application AtimeOnline สำหรับฟังวิทยุบนมือถือที่เป็นมากกว่าการฟังวิทยุ เพื่อตอบรับกับไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดสามล้านกว่า User และมียอดผู้ฟังกว่า 15 ล้านคนในแต่ละเดือน
“วันนี้ A-Time Media คงไม่ใช่แค่วิทยุ แต่วิทยุเป็นส่วนหนึ่ง ของ Completed Music Community ของ เอ-ไทม์ มีเดีย ด้วยการทำรีเสิร์ชอย่างจริงจัง ประกอบกับประสบการณ์อันยาวนานของ เอ-ไทม์ มีเดีย ทำให้เรารู้จักและเข้าใจไลฟสไตล์ของคนฟังรุ่นใหม่ เราจึงได้พัฒนารูปแบบการฟังวิทยุมาโดยตลอด
ไม่ว่าจะเป็นการฟังบนเว็บไซต์ จนปัจจุบันสามารถฟังผ่าน Application ผ่านสมาร์ทโฟนได้ ซึ่ง Application AtimeOnline ของ เอ-ไทม์ มีเดีย ยังเป็น Application ที่ไม่ใช่แค่ฟังวิทยุเหมือนคู่แข่งทั่วไป แต่ Application ของเราฟังได้ ดูได้ เล่นได้ คุยได้ ถ่ายรูปโชว์ได้ โหวตเพลงได้ สามารถฟังวิทยุ พร้อมเห็นดีเจในห้องจัด แชตคุยกับดีเจได้แบบเรียลไทม์ ผู้ฟังสามารถขอเพลงได้ เล่นเกมส์ร่วมสนุกกันได้ หรือถ่ายรูปแชร์กันได้ และ ยังสามารถกดไลค์เพลงที่ชอบ ซึ่งทุกๆไลค์จะเก็บเป็นคะแนนโชว์อันดับเพลงที่คนฟังชอบแบบเรียลไทม์อีกด้วย”
ความสมบูรณ์แบบของฟังก์ชั่นทั้งหมดนี้ที่ผู้บริหารคุยว่า ยอดคนฟังของเอ-ไทม์ มีเดีย ผ่านทาง AtimeOnline เติบโตอย่างรวดเร็ว จนมีคนฟังไม่ต่ำกว่า 15 ล้านไอดีต่อเดือน และยอดดาวน์โหลด Application AtimeOnline ก็เติบโตอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่ายอดดาวน์โหลดจะถึง 4 ล้านในไม่ช้านี้
Power of engagements
“นอกเหนือไปจากวิทยุ เว็บไซต์ และ Application AtimeOnline แล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้ เอ-ไทม์ มีเดีย เป็น Completed Music Community ที่แท้จริง ก็คือ โซเชี่ยลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook , IG หรือ YouTube เอ-ไทม์ มีเดีย มียอดผู้ติดตามมากเป็นอันดับหนึ่งทั้งสิ้น
และ ยังเป็นยอดที่แอคทีฟจริง สามารถดูได้จากยอด Engagement บนเฟสบุค วิทยุของ เอ-ไทม์ มีเดีย มียอดรวมสามล้านกว่า User ต่อเดือน YouTube แชนแนลของ Atime ก็มีจำนวน 230 ล้านวิว IG ก็เช่นเดียวกัน มีผู้ติดตามกว่า 1 แสน 6 หมื่นคน ซึ่งถือว่าเป็นอันดับ 1 ของวิทยุไทยเช่นเดียวกัน
และที่ตอกย้ำความเป็นอันดับ 1 อย่างแท้จริง ก็คือ ยอดผู้ติดตาม IG ของดีเจเอ-ไทม์ มีเดีย ที่หลายคนมียอดผู้ติดตามทะลุหลักล้าน เหล่านี้ล้วนตอกย้ำว่าดีเจ เอ-ไทม์ มีเดีย เป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงอย่างแน่นอน”
อีกหนึ่งความสำเร็จที่ต้องพูดถึงเพราะเป็นธุรกิจที่เกิดจากการต่อยอดมาจากธุรกิจวิทยุและเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ เอ-ไทม์ มีเดีย เป็น Completed Music Community อย่างสมบูรณ์แบบก็คือ Atime Showbiz ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเอ-ไทม์ มีเดียเป็นบริษัทผลิตรายการวิทยุเจ้าเดียว ที่จัดคอนเสิร์ตศิลปินไทยมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง มายาวนานกว่าสิบปี จำนวนบัตรที่ขายได้ในแต่ละปี มีไม่ต่ำกว่า 95 ถึง 100% ในแต่ละปี มีคอนเสิร์ตไม่ต่ำกว่า 5 คอนเสิร์ต จำนวนรอบการแสดงอย่างต่ำ 10 รอบ
“ด้วยคุณภาพจัดเต็มโปรดักชั่น ทำให้เป็นที่ยอมรับสำหรับผู้ชมคอนเสิร์ตเป็นอย่างดี และ ความสำเร็จของทุกคอนเสิร์ตก็ใช้การโปรโมทโดยสื่อวิทยุ และ โซเชี่ยลมีเดีย ของ เอ-ไทม์ มีเดีย เป็นสื่อหลักทั้งสิ้น จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพได้เป็นอย่างดี
อย่างเช่นในปี 2016นี้ สองคอนเสิร์ตแรกของปี คือ Stage Fighter และ สามแยกปากหวาน 4 Atime Showbiz สามารถขายบัตรได้หมดทั้ง 4 รอบ เป็นการเปิดปีที่ดีมากๆ ของ Atime Showbiz
และ คาดว่าคอนเสิร์ต Christina Kingdom ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ ก็จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีแน่นอน”
ตัวเลขที่พิสูจน์ได้จริง
แน่นอน กับคำถามที่ว่าสื่อเจ้าไหนจะไปได้รอดหรือไม่ คอนเท้นต์ดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องดูว่า “ท่อน้ำเลี้ยง”ทั้งลูกค้าหรือเอเจนซี่เชื่อมั่นวางงบลงทุนโฆษณามากน้อยแค่ไหน คำถามนี้เอง ที่ผู้บริหารเอ-ไทม์ มีเดียมั่นใจว่า “แข็งปึ๊ก”
“ณ ปัจจุบัน การวาง Brand Positioning ของ เอ-ไทม์ มีเดีย ให้เป็น Completed Music Community ที่ประกอบไปด้วยรายการวิทยุ Chill FM 89 , 94EFM ,GreenWave 106.5 FM, AtimeOnline , Atime Showbiz และ โซเชี่ยลมีเดียของทุกๆส่วน นับเป็นการตอบสนองการฟังเพลงแบบครบวงจรของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง แบบจับต้องได้
โดยสถิติต่างๆ ทางออนไลน์เป็นตัวเลขจริง พิสูจน์ได้จริง ซึ่งนอกจากเข้าถึงผู้ฟังได้อย่างกว้างขวางแล้ว ยังสามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เอเจนซี่ อีกด้วย
เพราะตัวเลขสถิติต่างๆทางออนไลน์ ในยุคดิจิตอลนี้มีชัดมาก ไม่เหมือนการวัดผลแบบเดิมๆที่ยังใช้การสุ่มตัวอย่างหลักพัน โดยวิธีตอบแบบสอบถาม”
และจากสถิติที่นับได้จริงนี้ จึงเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดีว่าคนฟังวิทยุอยู่หรือไม่ อีกทั้งยังเป็นสื่อที่อยู่บนมือถือติดตัวไปกับคนโดยตลอด จึงนับเป็นข้อได้เปรียบของรายการวิทยุในปัจจุบัน บวกกับความสมบูรณ์ของความเป็น Completed Music Community ของ เอ-ไทม์ มีเดีย จึงทำให้ เอ-ไทม์ มีเดีย ยังเป็นผู้นำอันดับ 1 ต่อไป
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ