รถไฟความเร็วสูงญี่ปุ่นที่เชี่อมต่อการเดินทางให้คนทั้งประเทศมาอย่างยาวนาน และยังเป็นหนึ่งในภาพสะท้อนถึงความเจริญก้าวหน้าที่ทั่วโลกชื่นชม ถึงคราวสะดุดจากปัญหา
งบประมาณในการขยายเส้นทางรถไฟหัวกระสุนของญี่ปุ่นหรือที่เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า ชินคันเซน ในส่วนของสายเหนือไปยังซัปโปโร หัวเมืองของภาคนี้ จะเพิ่มมาอีก 645,000 ล้านเยน หรือเพิ่มขึ้นถึง 40% จากการประเมินเบื้องต้น จนดันให้งบก่อสร้างทั้งหมด สูงถึง 2.3 ล้านล้านเยน

ตามรายงานของกระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นระบุว่า งบที่เพิ่มขึ้นจนบานปลายนี้มาจาก ค่าวัสดุและค่าแรง โดยอย่างหลังคิดเป็น 1 ใน 3 ของงบการขยายเส้นทางที่เพิ่มขึ้นมา และถ้าค่าแรงเพิ่มขึ้นเกินกว่า 2% ที่คาดไว้ งบประมาณที่ต้องทุ่มลงไปทั้งโครงการก็อาจเพิ่มขึ้นมาอีก
ส่วนการสร้างทางรถไฟเชื่อมเมืองคานาซาวะกับซึรากะ ทางภาคของกลางประเทศ งบก่อสร้างก็เพิ่มเป็น 2.1 ล้านล้านเยน จากค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่การก่อสร้างรถไฟสายอื่นๆ ก็เกิดปัญหาล่าช้าเพราะต้องพิจารณาผลกระทบของสิ่งแวดล้อมและความไม่เห็นด้วยของประชาชนในพื้นที่
ข่าวร้ายเหล่านี้เกิดขึ้นขณะที่รถไฟหลายสายของญี่ปุ่นเผชิญกับภาวะขาดทุน เช่น รถไฟชินคันเซนสายฮอกไกโด ที่ปีงบประมาณ 2021 ที่ผ่านมา ขาดทุน 14,800 ล้านเยน ส่วนรถไฟสายนิชิ-คิวชู ที่เพิ่งเปิดให้บริการ ยอดผู้โดยสารก็มีเพียง 33% จากผลกระทบของสถานการณ์โควิด
จากนี้ต้องจับตาดูต่อไปว่ารัฐบาลญี่ปุ่นชุดนี้และชุดต่อๆไป จะใช้แนวทางใดในการแก้ไขปัญหา เพราะแม้รถไฟชินคันเซนยังคงจำเป็นต่อการสัญจรไปมาของประชาชร แต่งบการก่อสร้างและขยายทางรถไฟที่เพิ่มขึ้น ที่สุดก็จะทำให้ตั๋วแพงขึ้น ซึ่งคนที่ต้องจ่ายเพิ่มก็คือประชาชนชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวนั่นเอง
และหากการก่อสร้างล่าช้าออกไปแผนการพัฒนาสาธารณูปโภคโดยรอบก็ย่อมล่าช้าตามไปด้วย

สำหรับรถไฟชินคันเซน เป็นโครงการขนส่งมวลชนที่สำคัญต่อญี่ปุ่นในหลายๆ ด้าน โดยสายแรกที่เชื่อมระหว่างกรุงโตเกียวกับเมืองโอซาก้า เปิดให้บริการเมื่อ 1 ตุลาคม 1964 ไม่กี่สัปดาห์ก่อนโตเกียวโอลิมปิกในปีเดียวกัน
และนอกจากอำนวยความสะดวกในการเดินทางแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ในฟื้นตัวจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ร่วมกับโตเกียวโอลิมปิกปี 1964 อีกด้วย
ขณะเดียวกันก็ขึ้นชื่อเรื่องความตรงเวลา และเป็นภาพจำที่สร้างความประทับใจให้ชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในญี่ปุ่น จนถูกนำไปเป็นฉากในหนังหลายต่อหลายเรื่อง เช่น Bullet Train ที่ Brad Pitt แสดงนำและเพิ่งลง Netflix ให้ชมกันเมื่อไม่นานมานี้ / nikkei
