ออนิกซ์ ผุดโรงแรม-รีสอร์ต-เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เพิ่ม 11 แห่ง รุกหนักตลาดมาเลเซีย รับท่องเที่ยวฟื้น-กำลังซื้อสูง ปิดรายได้ทั้งปี 2566 รวม 3 แบรนด์หลัก อมารี-โอโซ่-ชามา ที่ 8.8 พัน ลบ.

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป บริษัทในเครืออิตัลไทย ดำเนินธุรกิจด้านบริหารจัดการโรงแรม, รีสอร์ต, เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และสปาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตธุรกิจอยู่ในกลุ่ม 3 แบรนด์หลัก คือ อมารี, โอโซ่ และชามา ครอบคลุมตั้งแต่โรงแรม 5 ดาว จนถึงเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ รวม 44 แห่ง

กระจายอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั้งไทย, มาเลเซีย, จีน, ฮ่องกง, มัลดีฟส์, บังกลาเทศ และ สปป. ลาว สัดส่วนธุรกิจแบ่งเป็น เจ้าของเอง 18% และรับบริหาร 82%

แผนการดำเนินงาน ปี 2566 บริษัทตั้งเป้าขยายพอร์ตธุรกิจเพิ่มอีก 11 แห่ง โดยวางยุทธศาสตร์หลักไว้ใน 7 กลุ่มประเทศข้างต้น โดยเฉพาะ มาเลเซีย ซึ่งนับเป็นตลาดใหม่ที่สำคัญมากในอนาคตของบริษัท

เพราะเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ และมีกำลังซื้อสูง นอกจากกลุ่มนักท่องเที่ยว ยังจะมีการเดินทางของกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติจำนวนมาก สามารถขยายธุรกิจได้หลากหลาย จึงมีแผนเปิดดำเนินงานครบ 3 แบรนด์หลัก ครอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจ และท่องเที่ยวของมาเลเซีย ภายในปีนี้

ขณะที่ภาพรวมการทำงานส่วนใหญ่ยังเป็นการรับบริหาร มีเพียง โรงแรมที่มัลดีฟส์ ซึ่งเป็นการร่วมทุนของบริษัท ด้วยการเข้าถือหุ้นประมาณ 4%

โดยความคืบหน้าของทั้ง 3 แบรนด์ ตอนนี้เริ่มจาก “อมารี” แบรนด์โรงแรมระดับลักชัวรีในประเทศไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการปรับภาพลักษณ์เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่

ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มที่เข้ามาใช้บริการ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนต่างประเทศ ได้เปิดดําเนินการเพิ่ม 2 แห่ง ที่มาเลเซีย ได้แก่ “อมารี กัวลาลัมเปอร์” และ “อมารี สไปซ์ ปีนัง” รวมถึงเปิด “อมารี ราญา มัลดีฟส์” ในมัลดีฟส์ เพิ่มอีก 1 แห่ง

สําหรับแบรนด์ “โอโซ่” แบรนด์โรงแรมที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการออกไปค้นพบความสนุกใหม่ ๆ เปิดดําเนินการแล้วที่ พัทยา, สมุย, ภูเก็ต ส่วนต่างประเทศมีแผนเปิด “โอโซ่ เมดินี” ในเมืองเมดินี อิสกันดาร์ ประเทศมาเลเซีย

ส่วนแบรนด์ “ชามา” เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ที่เน้นกลุ่ม Expat & Long stay เปิดดําเนินการในไทยแล้ว 6 แห่ง และอีก 10 แห่งทั่วฮ่องกง และจีน ทั้งเตรียมเปิดเพิ่มในมาเลเซียอีก 2 แห่ง ที่เมืองยะโฮร์บาห์รู และเมืองเมดินี อิสกันดาร์ ในปี 2566

ตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปี 2566 ทั้งเจ้าของ-เข้าไปบริหารให้ อยู่ที่ 8,800 ล้านบาท โต 60% จากปี 2555 แบ่งสัดส่วนรายได้อยู่ที่แบรนด์ อมารี 62.84%, โอโซ่ 12.06%, ชามา 16.62% และแบรนด์ย่อยอื่น ๆ ในเครือบริษัท 8.48%

ซึ่งการทำงานในส่วนเข้าไปรับบริหาร บริษัทถือให้ Quality Partnerships เป็นหัวใจสำคัญของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ที่มุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรระยะยาว เพื่อมาร่วมกันสร้างการเติบโตไปด้วยกัน

สอดรับเทรนด์ธุรกิจปัจจุบันที่นักลงทุนต่างกำลังมองหาความร่วมมือกับแบรนด์ที่แข็งแรง เพื่อช่วยส่งเสริมศักยภาพทางธุรกิจให้แก่กัน ซึ่งในส่วนของบริษัท ก็เชื่อมั่นว่าด้วยจุดเด่นของพอร์ตโฟลิโอที่มีหลากหลาย และครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย

ธุรกิจที่มีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามโจทย์คู่ค้า จะทำให้ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, กลุ่ม SP SETIA นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในมาเลเซีย, JR Kyushu จากญี่ปุ่น, Tai Hung Fai จากฮ่องกง หรือ Panchshil จากอินเดีย เป็นต้น



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online