แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนและไม่แน่นอน แต่ภาพรวมการเติบโตของประเทศเวียดนาม ยังคงมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง โดยในปี 2566 นี้ มีการคาดการณ์ว่า GDP เวียดนาม จะโตอยู่ที่ 6.7% ซึ่งขยายตัวสูงเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เมื่อรวมกับการขยายตัวอย่างรวดเร็วของจำนวนประชากรในเมือง การขยายตัวของโมเดิร์นเทรด และอัตรานักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น ถือเป็นสัญญาณบวกที่ทำให้ “เซ็นทรัล รีเทล” ยังคงเดินหน้าเร่งสร้างการเติบโตในประเทศเวียดนามอย่างต่อเนื่อง

เซ็นทรัล รีเทล เห็นเวียดนามเป็น Key market จากศักยภาพของประเทศที่มีความพร้อมในหลายด้าน และมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงเดินหน้าขยายธุรกิจในประเทศเวียดนามอย่างเต็มกำลังตลอด 11 ปีที่ผ่านมา” ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวย้ำในวันที่พาผู้สื่อข่าวจากประเทศไทยเยี่ยมชมธุรกิจในประเทศเวียดนาม

CRC ใหญ่แค่ไหนในเวียดนาม

อย่างที่ทราบกับว่า เซ็นทรัลรุกตลาดเวียดนามเมื่อปี 2555 ในฐานะผู้จัดจำหน่ายแบรนด์สินค้าแฟชั่นที่มีเพียงไม่กี่สาขา เเละเปิดธุรกิจห้างสรรพสินค้าโรบินสันปี 2557

ปัจจุบัน เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม มีจำนวนร้านค้ามากกว่า 340 แห่ง พื้นที่รวมกว่า 1,200,000 ตารางเมตร ใน 40 จังหวัด คิดเป็น 85% ของ GDP ประเทศเวียดนาม และสร้างยอดขายเติบโตก้าวกระโดด จาก 300 ล้านบาท ในปี 2557 จนปี 2564 ที่ผ่านมา มียอดขายอยู่ที่ 38,592 ล้านบาท

ล่าสุดปี 2565 สามารถปิดยอดขายในเวียดนามเป็นสัดส่วนถึง 25% ของยอดขายทั้งหมดของเซ็นทรัล รีเทล (รายได้ของเซ็นทรัล รีเทล รายงานกับตลาดหลักทรัพย์ฯ 9 เดือนในปีที่ผ่านมามีมูลค่า 136,889 ล้านบาท) ส่งผลให้ เซ็นทรัล รีเทล กลายเป็นผู้นำค้าปลีกต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม ที่ขึ้นแท่นอันดับ 1 ด้านไฮเปอร์มาร์เก็ต และอันดับ 2 ด้านศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์

go! (Mini go!)

CRC ยังใหญ่มากกว่านี้ได้อีก

จากปัจจัยบวกที่เกริ่นในข้างต้นประกอบกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เซ็นทรัล รีเทลวางแผนโรดแมป 5 ปี ขยายธุรกิจแบบเต็มกำลัง โดยตั้งเป้าอัดงบลงทุน 5 ปี ในเวียดนามอีกกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อสร้างยอดขาย 150,000 ล้านบาท และดับเบิลจำนวนร้านค้าเป็น 600 สาขา ครอบคลุมทั้งสิ้น 57 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ เพื่อก้าวเป็นเบอร์ 1 ด้านออมนิแชแนลในกลุ่มฟู้ด และอันดับ 2 ในกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ของเวียดนาม ภายในปี 2570

โดยในปี 2566 นี้ ตั้งงบลงทุน 6,000 ล้านบาท ผ่านแผนธุรกิจคือ

  1. สร้างการเติบโตธุรกิจกลุ่มฟู้ดครอบคลุมทั่วประเทศ: ตอกย้ำเบอร์ 1 ไฮเปอร์มาร์เก็ต ด้วยการรีแบรนด์และรีโนเวต GO! ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวม 10 สาขา พร้อมทั้งขยาย ท็อปส์ มาร์เก็ต และ Mini go! เพิ่มขึ้น 8-10 สาขา เพื่อรองรับผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ตลอดจนเสริมแกร่งกลุ่มอาหาร Fresh และ Non-Food เพื่อดึงดูดแทรฟฟิกผู้บริโภคใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น
  2. สร้างความแข็งแกร่งธุรกิจกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้: รีโนเวตศูนย์การค้า GO! 10 สาขา ให้มีความทันสมัยมากขึ้น และเตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีกในอนาคต พร้อมทั้งสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าด้วยร้านค้าในศูนย์ฯ ที่มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
  3. ยกระดับและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของเหงียนคิม: รีโนเวตร้านเหงียนคิม รวม 10-12 สาขา และขยายร้านเหงียนคิมอีก 3-5 สาขา ทั้งแบบ Standalone และขยายเข้าไปในศูนย์การค้า GO! เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบวงจร
  4. พัฒนา Loyalty Platform เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการกว่า 66 ล้านคน: ยกระดับ Loyalty Platform ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะเข้าใจอินไซต์ของลูกค้า และมอบสินค้าและบริการที่ตรงใจ โดยใช้ความเชี่ยวชาญของ The 1 มาช่วยพัฒนาแพลตฟอร์มให้ดีขึ้น
ศูนย์การค้า GO!

ที่น่าสนใจคือ แต่ละแบรนด์ใน Portfolio ของ เซ็นทรัล รีเทล มี Positioning และ Format ที่แตกต่างกันชัดเจน

อย่างแบรนด์ GO! (ศูนย์การค้า) และ GO! (ไฮเปอร์มาร์เก็ต) ที่ตั้งในทำเลการค้า Hight Catchment Area ซึ่งใช้พื้นที่ประมาณ 4,500 ตร.ม. โดยแบ่งพื้นที่เป็น Food 70% และที่เหลืออีก 30% คือ Non-Food ที่มีทั้งร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าเหงียนคิม, สวนสนุกในร่ม Kubo หรือ ร้านขายของใช้ lookkool

Tops market ที่ตั้งในทำเล Urban ซึ่งเป็น Tier 1 และ Tier 2 ขณะที่ซูเปอร์มาร์เก็ต go! (mini go!) จะตั้งในเมืองรอง Tier 3 และ Tier 4 ในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ โดยใช้พื้นที่ประมาณ 1,700 ตร.ม. และเน้นสินค้าประเภท Non-Food เป็นหลักเพื่อตอบโจทย์ความต้องการคนในพื้นที่ ส่วน ลานชี มาร์ท ที่มีรูปแบบเดียวกับ go! (mini go!) เจาะตลาดในภาคเหนือของประเทศเวียดนาม

คุณญนน์ กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “อีก 10 ปีจากนี้ Purpose ของเซ็นทรัล รีเทล ที่จะเป็น Central to Life ก็จะยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงและเราจะเดินหน้าขยายธุรกิจในเวียดนามต่อไปให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน”

ระยะเวลากว่า 10 ปีจนถึงตอนนี้ เซ็นทรัล รีเทล ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชาวเวียดนามมาอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ต และเบอร์ 2 ของศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์

มาลุ้นกันว่าภายในปี 2570 เซ็นทรัล รีเทล จะสามารถก้าวเป็นเบอร์ 1 ออมนิแชแนลในกลุ่มฟู้ด และเบอร์ 2 ในกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ของเวียดนามได้ตามที่ตั้งใจไว้หรือไม่

แต่ที่แน่ ๆ เซ็นทรัล รีเทล เวียดนามในตอนนี้ใหญ่จริง และยังใหญ่ได้มากกว่านี้อีก

(ซ้าย) มร. โอลิวิเยร์ แลงเล็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม (ขวา) ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน