1.ตลาดหินมงคลหรือหินนำโชคได้เกิดขึ้นมาเพียง 10ปีเท่านั้น โดยได้รับความนิยมครั้งแรกในปี 2546-2547 ในฐานะหินสีมงคลที่ช่วยนำโชคด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความรัก งาน เงิน โชคลาภ ตามสีของหิน และคำบอกเล่าของผู้ขายที่ปรุงแต่งให้หินมีสรรพคุณน่าสนใจและน่าเชื่อถือ
2.ในปัจจุบันตลาดหินมงคลได้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งจากและพีคสุดขีดในช่วงปลายปี 2557 จากการเป็นเครื่องประดับของดาราเซเลปที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆ ของวงการที่ใส่อวดโพสต์ลงใน IG จนผู้ขายบางคนเรียกหินมงคลว่าหินดารา
3.หินมงคลมีตั้งแต่ระดับราคาหลักร้อยบาทถึงหลักพัน ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับขนาดและความเก่าแก่ และคุณภาพของหิน โดยหินไหมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไหมจักรพรรดิ ไหมเศรษฐี ไหม 5 สี ไหมทอง เป็นหินที่ได้รับความนิยมสูง และกำไลเป็นเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
4.ประเทศจีนเป็นประเทศที่ส่งออกหินมงคลแปรรูปมากที่สุดเนื่องจากเป็นประเทศที่มีค่าแรงถูก โดยส่วนใหญ่จะนำหินดิบมาจากประเทศอเมริกา ออสเตรเลีย แอฟริกาซึ่งเป็นแหล่งที่มีหินมงคลมากมาแปรรูปเพื่อส่งออกไปยังตลาดประเทศต่างๆ โดยเฉพาะไทย
5.ตลาดสำเพ็งเป็นแหล่งตลาดหินสีอีกแหล่งที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มเป้าหมาย โดยสำเพ็งมีการจำหน่ายหินทีหลากรูปแบบทั้งแบบเหมาเป็นเส้น ชั่งเป็นขีดและจำหน่ายเป็นเม็ดแล้วแต่ขนาดให้เลือกตามกำลังทรัพย์
6.กลุ่มเป้าหมายหินมงคลปัจจุบันมี 2 กลุ่มหลักคือ กลุ่มแรก คือกลุ่มที่มีความเชื่อเรื่องอิทธิพลของหินที่ช่วยส่งเสริมดวง โดยคนกลุ่มนี้จะสนใจ ที่มาที่ไปของหิน และเรื่องของสีที่เสริมดวงในด้านต่างๆ รวมถึงช่วยบำบัดดูแลสร้างสมดุลในร่างกายในรูปแบบหินบำบัด และกลุ่มที่สองคือ กลุ่มที่ใส่เพื่อความสวยงามตามแฟชั่น โดยไม่สนใจเรื่องดวงชะตา ที่มาที่ไปและสีชองหิน หรือสีที่เหมาะสมกับดวง
ตรวจดูหินมงคลยังไงไม่โดนหลอก
1.หินมงคลที่ทำมาจากหินจริงๆ จะมีน้ำหนักกว่าของปลอมที่ทำมาจากพาสติกหรือเรซิน
2.หินจริงจะไม่ติดไฟ และไม่เสียรูปเมื่อโดนไฟ
3.หินจริงจะมีความเย็นในตัวและมีอุณหภูมิปรับไปตามสภาพอากาศ
4.หินจริงจะไม่มีสีเท่ากันทุกเม็ด เพราะหินเกิดการแร่ธาตุต่างๆ ที่สะสมมาเป็นเวลานาน
5.การซื้อหินมงคลควระวังการย้อมแมวโดยนำหินอื่นๆ มาย้อมสีจำหน่ายในราคาสูงขึ้น
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ