ตลาดโน้ตบุ๊ก หดตัว แต่ทำไม แอลจี กลับขอลงเล่นตลาดไทยครั้งแรก

ปีที่ผ่านมาตลาดโน้ตบุ๊กในประเทศไทยหดตัว 6% ทั้งมูลค่า และจำนวนเครื่อง

อ้างอิงข้อมูลจาก GFK ปี 2021 ยอดขาย 802,000 ยูนิต  มูลค่า 18,644 ล้านบาท

เหลือเพียงยอดขาย 751,000 ยูนิต  มูลค่า 17,573 ล้านบาท

การหดตัวลงนี้เป็นการหดตัวหลังจากที่เคยเติบโตในช่วง 1-2 ปีแรกที่โควิด-19 แพร่ระบาด

และในปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ต้องการใช้โน้ตบุ๊กมีโน้ตบุ๊กไว้ครอบครองเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ตลาดนี้มียอดจำหน่ายจากผู้ซื้อโน้ตบุ๊กทดแทนเครื่องเก่า และกลุ่ม Gen Z ที่มีโน้ตบุ๊กเป็นเครื่องแรกเพื่อใช้เรียน และเรื่องส่วนตัว

ส่วนปีนี้จีรภา คงสว่างวงศา รองประธานบริหารฝ่ายธุรกิจกลุ่มลูกค้าองค์กรและไอที ภาคพื้นอินโดไชน่า บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลว่า ตลาดโน้ตบุ๊กรวมเป็นตลาดที่หดตัวเช่นกัน แต่ไม่เปิดเผยตัวเลขของตลาดที่แน่ชัด

ที่น่าสนใจคือ แม้แอลจีมองว่าตลาดโน้ตบุ๊กปี 2023 ยังหดตัว แต่กลับเปิดตัวโน้ตบุ๊กเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในชื่อ LG Gram เข้ามาทำตลาดในพรีเมียมเซกเมนต์ หลังจากที่เคยนำ LG Gram เข้ามาทดลองจำหน่ายในปีที่ผ่านมา

หลังจากที่แอลจีเกาหลีได้ทำตลาดในธุรกิจโน้ตบุ๊กนานกว่า 10 ปี

และไทยเป็นประเทศที่ 5 ที่มีการนำ LG Gram มาทำตลาด ก่อนหน้านั้น LG Gram ทำตลาดในเกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา

จีรภาให้ข้อมูลในวันเปิดตัวโน้ตบุ๊ก LG Gram อย่างเป็นทางการว่า เหตุผลที่แอลจีนำโน้ตบุ๊กเข้ามาจำหน่ายในไทยเป็นครั้งแรกมาจากการตอบรับของผู้บริโภคในปีที่ผ่านมา

ประกอบกับกระแสเกาหลีและเทรนด์ของผู้บริโภคกลับมาเดินทางอีกครั้ง ซึ่งโน้ตบุ๊กเป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคสามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา

และแอลจีเห็นโอกาสการเติบโตในกลุ่มพรีเมียมเซกเมนต์ หรือกลุ่มโน้ตบุ๊กที่มีราคา 40,000 บาทขึ้นไป เพราะจีรภา มองว่าตลาดโน้ตบุ๊กพรีเมียมเป็นตลาดที่มีสัดส่วน 17% ของตลาดโน้ตบุ๊กรวม เป็นตลาดที่ยังมีการเติบโต และเป็น Blue Ocean ที่ยังไม่มีคู่แข่งมากนัก โดยเฉพาะตลาดโน้ตบุ๊กหน้าจอขนาด 16-17 นิ้วที่ นำเข้ามาทำตลาด

ซึ่งตลาดโน้ตบุ๊กพรีเมียมส่วนใหญ่จะเป็นตลาดของโน้ตเกมมิ่ง เจาะกลุ่มเกมเมอร์โดยเฉพาะ

สำหรับตลาดโน้ตบุ๊กกลุ่มพรีเมียมในประเทศไทยจีรภาให้ข้อมูลว่าเหตุผลที่ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อโน้ตบุ๊กกลุ่มนี้มาจาก

1. ดีไซน์

2. มีความภูมิใจ ถือได้อย่างมั่นใจว่าโน้ตบุ๊กที่ใช้อยู่เป็นผู้นำแฟชั่น ไม่ใช่เพียงโน้ตบุ๊กเพื่อการทำงาน

LG Gram จึงวางตำแหน่งตัวเองเป็นโน้ตบุ๊กสำหรับธุรกิจและไลฟ์ไตล์ ผ่านจุดขายดีไซน์เรียบหรู บางเบา ด้วยน้ำหนัก 1.19 กิโลกรัม ในรุ่น 16 นิ้ว และ 1.35 กิโลกรัมในรุ่น 17 นิ้ว สามารถพกพาไปได้ทุกที่

มีความทนทานด้วยตัวเครื่องผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่ใช้เป็นชิ้นส่วนในการผลิตเครื่องบิน และผ่านการรับรองมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810H ชุดทดสอบมาตรฐานที่ออกแบบโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาในการทนต่อสภาวะจำลองต่าง ๆ

พร้อมฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น Full HD IR Webcam & AI Noise Cancelling ที่ใช้ AI ช่วยลดสัญญาณรบกวน ทำให้มองเห็นใบหน้าและได้ยินเสียงผู้เข้าร่วมประชุมออนไลน์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น มีฟีเจอร์ LG Glance By Mirametrix® ยังใช้ AI เข้ามาช่วยตรวจจับใบหน้าและสายตา ช่วยเบลอร์ข้อมูลบนหน้าจอเมื่อผู้ใช้งานไม่อยู่หน้าโน้ตบุ๊กหรือเมื่อมีคนอื่นจ้องมองที่หน้าจอ

ในราคาจำหน่าย 49,500-67,700 บาท

LG Gram วางกลุ่มเป้าหมายหลักคือกลุ่มนักธุรกิจ, ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบเดินทาง และกลุ่ม Gen Z 

โดยกลุ่ม Gen Z ในความเห็นของจีรภาเป็นกลุ่มที่เข้ากับคอนเซ็ปต์ของ LG Gram เพราะคนกลุ่มนี้ต้องการใช้โน้ตบุ๊ก และกลุ่ม Gen Z ส่วนหนึ่งยังเป็น Creator ทำคอนเทนต์ลงโซเชียลที่มีผู้ติดตามผลงานอยู่เสมอ

นอกจากนี้ กลุ่ม Gen Z ยังเป็นกลุ่มที่มีโน้ตบุ๊กเป็นเครื่องแรกและเครื่องที่สอง ซึ่งถ้า LG Gram เข้าถึงกลุ่มนี้ได้จะสามารถสร้างฐานการเติบโตในอนาคต

แต่การเข้ามาทำ ตลาดโน้ตบุ๊ก ของ LG Gram ยังมีความท้าทายคือการสร้าง Awareness ให้เกิดขึ้นบนภาพลักษณ์สร้างความภูมิใจที่เป็นเจ้าของ

เพราะในปัจจุบัน Awareness ของ LG Gram ยังมีเพียง 10-20% เท่านั้น แม้จะเคยนำร่องเข้ามาทดลองตลาด และเป็นโน้ตบุ๊กยอดนิยมในเกาหลีแล้วก็ตาม

การตลาดของ LG Gram ในขวบปีแรก ใช้งบการตลาด 30-50 ล้านบาท ในรูปแบบ 360 องศา เพื่อผลักดัน Awareness ให้เกิดขึ้น

เช่น นำ NewJeans ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลี ที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์แอลจีระดับโกลบอลมาเป็นพรีเซนเตอร์เพื่อเข้าถึงกลุ่ม Gen Z

ใช้สื่อออนไลน์ สื่อ Out of Home และสื่อในเซเว่นอีเลฟเว่น กระจายการรับรู้

การเลือกใช้สื่อในเซเว่นอีเลฟเว่นมาจาก LG Gram เจาะกลุ่มคนเดินทาง และสื่อในเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นสื่อที่สามารถเข้าถึงและพบเห็นได้เสมอเมื่อเข้ามาใช้บริการ

การเข้ามาทำตลาดของ LG Gram จีรภาคาดหวังว่าจะสามารถสร้างส่วนแบ่งตลาด 2-5% ในตลาดพรีเมียม

และสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มสินค้า PC (Personal computer) ของ LG ได้ถึง 70% และสร้างการเติบโต 10% ในกลุ่ม IT ในปี 2023

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน