การย้ายทีมที่เกิดขึ้นเป็นปกติในแวดวงกีฬาจะเรียกความสนใจและกลายเป็นข่าวพาดหัวทันที ถ้าตัวเก่งย้ายไปทีมคู่ปรับ เพราะนอกจากยิ่งเพิ่มความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างทีมแล้ว ย่อมต้องมีเรื่องดราม่าตามมาทุกครั้งเมื่อทั้งสองทีมแข่งกัน

ข่าวลักษณะนี้จะทวีความน่าสนใจขึ้นไปอีก หากนักกีฬาที่สร้างดราม่าคนนี้สามารถเรียกฟอร์มเก่งได้เหมือนกับอยู่ทีมเก่าแต่ก็ไม่ทิ้ง ‘ลายเซ็น’ ของตัวเอง แถมยังรุ่งต่อเนื่องถึงขนาดขึ้นเป็นเบอร์ใหญ่ของบ้านใหม่อีกด้วย

James Gunn

สถานการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นกับ James Gunn ผู้กำกับที่ดังขึ้นมาหลังพา Guardians of the Galaxy สองภาคแรกประสบความสำเร็จเกินคาด

ทั้งที่ถูกปรามาสว่า จะเป็นหนังที่พังไม่เป็นท่าเรื่องแรกของ Marvels ซึ่งปีนี้ต้องอำลา Marvels เพราะย้ายไปเป็นบอสใหญ่ของ DC flims ค่ายหนังซูเปอร์ฮีโร่คู่ปรับ

เรื่องของ James Gunn ไม่ได้น่าสนใจแค่การไปได้ดิบได้ดีในบริษัทใหม่ซึ่งเป็นคู่ปรับของบริษัทเก่าเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้เขาคือผู้กำกับโนเนม และพอดังก็ต้องมาถูกปลดกลางอากาศอีก

James Gunn เป็นชาวอเมริกัน เกิดเมื่อ 5 สิงหาคม 1966 โดยเขาเคยลองทำหนังซอมบี้เล่น ๆ กับน้องชาย และฝันอยากเป็นผู้กำกับหนังหลังติดใจ Night of the Living Dead และ Friday the 13th หนังสยองขวัญและระทึกขวัญทุนต่ำแต่โกยรายได้มหาศาลจนกลายเป็นปรากฏการณ์

หลังคว้าปริญญาตรีสาขาภาพยนตร์มาได้ช่วงกลางยุค 90 James Gunn ก็เปิดตัวกับ Tromeo and Juliet หนังไอเดียพิเรนทร์ ล้อเลียนวรรณกรรมโรแมนติกเรื่องดังของ Shakespeare โดยอีกหลายปีจากนั้นเขาก็วนเวียนอยู่กับงานเบื้องหลังหนังและซีรีส์

ปี 2004-2006 James Gunn เริ่มเป็นที่รู้จักของค่ายหนังหลัง Dawn of The Dead หนังซอมบี้ที่นำหนังดังชื่อเดียวกันเมื่อปลายยุค 70 มาสร้างใหม่ ซึ่งเขาเขียนบทโกยเงิน และ Slither หนังไซไฟที่กำกับเองได้รับคำชมจากนักวิจารณ์แม้ล้มเหลวเรื่องรายได้ 

ช่วงสำคัญในชีวิตของผู้กำกับคอหนังซอมบี้รายนี้มาถึงในปี 2012 เมื่อเขาเข้าไปคุยกับ Kevin Feige บอสใหญ่ของ Marvels ที่กำลังหาตัวผู้กำกับ Guardians of the Galaxy ภาคแรก เพื่อขยายจักรวาลคอนเทนต์ซูเปอร์ฮีโร่ หลังปิดเฟสแรกของหนังรวมพลังซูเปอร์ฮีโร่ทีม Avengers และสนใจในตัวเขา เพราะเคยมีผลงานแนวซูเปอร์ฮีโร่มาบ้าง

Raccoon

James Gunn นำโปรเจกต์นี้มาคิดดูว่าจะพัฒนาไปในทางไหน โดยหลังจากปิ๊งไอเดียว่าจะใช้ Raccoon ตัวละครเก่งด้านอาวุธแต่ปากจัดและมีประวัติน่าสนใจในร่างแรคคูน เป็นหนึ่งในตัวละครหลัก และโยงไปยังตัวละครอื่น ๆ ในทีม Guardians of the Galaxy โดยเฉพาะ Star-Lord

Star-Lord

พร้อมใส่ความเชยแต่มีเสน่ห์จากของต่าง ๆ ในอดีตอย่าง เพลง ซาวด์เบาต์ และงานสร้างแบบย้อนยุค รวมไปถึงธีมหนังแก๊งเข้าไป

Kevin Feige ซื้อไอเดียนี้ และ James Gunn ก็เดินหน้าสร้าง Guardians of the Galaxy ภาคแรกไปเงียบ ๆ โดยหลังตัวอย่างหนังออกมา เหล่ากูรูหนังก็ฟันธงว่า หนังรวมทีมซูเปอร์ฮีโร่ย้อนยุคที่เต็มไปด้วยตัวละครโนเนมไม่ต่างจากผู้กำกับคงเป็นหนังเรื่องแรกที่พังไม่เป็นท่าของ Marvels

แต่คาดการณ์ดังกล่าวผิดหมด เพราะกลายเป็นว่า หนังที่มีทั้งคนหลงยุค หุ่นยนต์ สัตว์ตัดต่อพันธุกรรม มนุษย์ต่างดาวในร่างนักมวยปล้ำ และต้นไม้ที่พูดเป็นอยู่คำเดียว ซึ่งออกฉายในปี 2014 โกยเงินทั่วโลกไปถึง 773 ล้านดอลลาร์ (ราว 26,000 ล้านบาท) คว้าอันดับ 3 หนังทำเงินสูงสุดทั่วโลกของปีนั้น

Chris Pratt

แถมปลุกกระแสเพลงและเทปให้กับมาฮิต ทำให้ Chris Pratt นักแสดงตัวประกอบสายตลกกลายเป็นดาราดัง และที่สำคัญยังเป็นตัวปลดล็อก ไม่ให้ Marvels ต้องยึดติดอยู่แต่กับซูเปอร์ฮีโร่ทีม Avengers เท่านั้น

ปี 2017 James Gunn ก็พาหนัง Guardians of the Galaxy ภาคสองประสบความสำเร็จแซงหน้าภาคแรก และทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี ท่ามกลางหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่กลายเป็นเทรนด์หลักในอุตสาหกรรมหนัง แต่ปี 2018 James Gunn ก็กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่พลังหมด โดนยิงตกกลางอากาศ

สื่อไปเจอการทวิตไม่เหมาะสมในอดีตของ James Gunn เรื่องการนำการข่มขืนมาล้อเลียน และยังบานปลายกลายเป็นประเด็นการเมือง จน Disney บริษัทแม่ของ Marvels สั่งปลดเขาจากโปรเจกต์ทั้งหมด โดยเฉพาะ Guardians of the Galaxy ภาค 3 ที่บทเขียนเสร็จแล้ว เพื่อรักษาภาพการเป็นบริษัทบันเทิงของทุกคนในครอบครัวเอาไว้

เรื่องนี้ถือเป็นข่าวใหญ่ เพราะ Disney และ Marvels เสียผู้กำกับอนาคตไกลที่ทำหนังได้สนุกไปจากข่าวฉาว โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ James Gunn เผชิญมรสุม โดย Sony ตัดชื่อเขาออกจากแผนโปรโมตหนัง Brightburn ที่เขาเป็นโปรดิวเซอร์

หลังเรื่องฉาวซา James Gunn ก็ย้ายไป DC films ค่ายหนังคู่แข่งของ Marvels ที่ยังคงล้มลุกคลุกคลานกับการปั้นหนังซูเปอร์ฮีโร่มาชนกับ Marvels แม้ตัวละครในมือ เช่น Superman กับ Batman จะดังมาก่อน

ซ้ำร้ายหนังรวมพลังซูเปอร์ฮีโร่ ทั้งฝ่ายดีอย่าง Justice League และฝ่ายร้ายอย่าง Suicide Squad ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากตามที่ตั้งไว้

 

James Gunn ประเดิมงานกับ DC Films ด้วยการเปลี่ยน Suicide Squad จากหนังเครียด ๆ ให้กลายเป็น The Suicide Squad หนังไอเดียสนุก ๆ มีความขี้เล่น ภาพสวย ๆ แถมมีความเป็นหนังสัตว์ประหลาดและความตลกร้ายแฝงอยู่ด้วย ที่ออกฉายในปี 2021

หลังปลุก Suicide Squad ให้คืนชีพ James Gunn ก็ต่อด้วย Peacemaker ซีรีส์ต่อยอดของ The Suicide Squad

ช่วงย้ายไปอยู่กับ DC Films มีข่าวออกมาว่า ทีมนักแสดง Guardians of the Galaxy รวมตัวกันเรียกร้องให้ James Gunn กลับมากำกับ Guardians of the Galaxy ภาค 3 จากบทที่เขาเขียนขึ้น และ Disney ก็ไฟเขียวแล้ว เพราะข่าวฉาวซาและเห็นว่าเป็นเรื่องในอดีต

แต่แผนการดึงตัว James Gunn กลับ Disney ก็ต้องพักไปก่อน เพราะเจ้าตัวเซ็นสัญญากำกับ The Suicide Squad ไปแล้ว แถมต่อยอดด้วยซีรีส์ Peacemaker

ปี 2021 กลับมาสานต่อ Guardians of the Galaxy ภาค 3 จากบทที่ตัวเองได้สร้างไว้ และถ่ายทำจนเสร็จช่วงกลางปี 2022 พร้อมข่าวว่าเขาถูกทาบทามจาก DC Films ให้ขึ้นไปเป็นบอสใหญ่ ซึ่งที่สุดปลายปีนั้นเขาก็รับงาน

พฤษภาคมปี 2023 Guardians of the Galaxy ภาค 3 ออกฉายให้คอหนังซูเปอร์ฮีโร่ได้ชมกัน โดยแม้กระแสตอบรับช่วงแรก ๆ ดี และมีแนวโน้มว่าจะทำเงินได้ไม่แพ้สองภาคแรก แต่ก็น่าเสียดายเพราะ James Gunn ไปเป็นบอสใหญ่ DC Films แล้ว ดังนั้น นี่จึงเป็นผลงานเรื่องสุดท้ายของเขากับ Marvels ที่ทำให้เขาดังขึ้นมา

เรื่องราวของ James Gunn ด้านหนึ่งก็ไม่ต่างจากนักเตะดังที่ย้ายไปอยู่กับทีมคู่แข่ง และยังสามารถเรียกฟอร์มเก่งให้กับทีมใหม่ได้อีก พร้อมไม่ทิ้งลายเซ็นของตัวเอง

ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็ไม่ต่างจากซูเปอร์ฮีโร่ที่พลังหมดไปดื้อ ๆ ต้องลอยร่วงลงกระแทกพื้น แต่ก็ฟื้นกลับมาได้อีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่

เรื่องราวของ James Gunn ยังมีประเด็นให้ตามต่อ เพราะนอกจากได้คุมทีมซูเปอร์ฮีโร่ DC จากบทบาทผู้บริหาร DC Films แล้วเขายังนั่งเก้าอี้ผู้กำกับหนัง Superman ภาคใหม่ ในชื่อ Superman : Legacy อีกด้วย

Superman : Legacy ถือเป็นงานท้าทายของ James Gunn เพราะนี่คือซูเปอร์ฮีโร่ที่ค่าย DC ที่คนทั่วโลกรู้จักมากสุด และเคยเป็นหนัง เป็นซีรีส์ ออกมานับไม่ถ้วน แถมปัจจุบันก็เป็นยุคที่หนังซูเปอร์ฮีโร่อิ่มตัว

ดังนั้น จึงเป็นโจทย์ที่ทั้งใหญ่และยากที่ James Gunn ต้องแก้ให้ได้ โดยเราจะได้รู้กันว่าเขาจะทำสำเร็จหรือไม่เมื่อ Superman : Legacy ออกฉายในปี 2025/nytimes, wikipedia, variety, hollywoodreporter



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน