มหาชัยไอศกรีม vs ไผ่ทอง ไอศกรีมขายเร่ สู่โลกเดลิเวอรี และการขายรูปแบบใหม่
ไอศกรีมไทยในตำนาน ที่เข็นผ่านหน้าบ้านทีไร เป็นต้องรีบวิ่งขาขวิดให้ทันซื้อ ยิ่งในช่วงอากาศร้อน ๆ เช่นนี้เเล้วด้วย กินเท่าไรก็ไม่เคยพอ
ตลาดไอศกรีมในไทย เป็นที่น่าสนใจมากทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นตลาดใหญ่ มูลค่า 15,000 ล้านบาท ไทยยังเป็นประเทศที่ส่งออกไอศกรีมอันดับ 4 ของโลกอีกด้วย
เเต่หากจะถามถึงไอศกรีมไทยที่ได้รสชาติไทยเเท้ ๆ จะเหลืออยู่เเค่ไม่กี่ชื่อที่เราจะนึกถึง เเละเเน่นอนว่า “ไอศกรีมมหาชัย” กับ “ไผ่ทองไอสครีม” จะเป็นชื่อที่ไม่หลุดโผเเน่นอน
เริ่มต้นด้วย
มหาชัยไอศกรีม
จุดเริ่มต้นของไอศกรีมมหาชัย ต้องไล่ปฏิทินกลับไป พ.ศ. 2538 ที่คุณสมชาย เลิศสมิทวงศ์ ชาวอำเภอมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ที่ได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่จังหวัดปทุมธานี เปิดร้านขายอาหารประมาณ 1-2 ปี ก่อนลองมาทำไอศกรีมจากกะทิสดของใต้ขาย เพราะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม จึงอยากลองขายอะไรที่หลากหลาย ลดการพึ่งพารายได้จากขายอาหารเพียงอย่างเดียว เเล้วกระจายสินค้าผ่านทางญาติให้ไปทดลองขายกัน
พอผลตอบรับดีจึงได้ทำไอศกรีมเป็นแบรนด์ “มหาชัย” ขึ้นมาอย่างจริงจัง ขายให้กับเหล่าพ่อค้าเเม่ขาย มีแบบจำหน่ายเป็นเซต ได้ไอศกรีม บรรจุภัณฑ์ ป้ายร้าน ตู้เก็บความเย็น ให้สามารถนำไปตั้งร้านขายได้ทันที
เพิ่มเติมด้วยการหา Topping มาใส่เอง บางร้านมีทั้งลูกชิด มันเชื่อม เผือก วุ้น ข้าวเหนียวมูล ถั่วลิสงคั่ว ช่วยให้ไอศกรีมมีลูกเล่นต่างจากเจ้าอื่นด้วย มาพร้อมกับถังไอศกรีมสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์
ด้วยความที่ร้านเปิดให้ผู้ค้าสามารถรังสรรค์เมนูได้เอง ต่างจากเเฟรนไชส์ที่ต้องทำตามสูตรของเเบรนด์ทุกอย่าง ช่วยให้ร้านมีเมนูใหม่ที่ทันต่อกระเเสความนิยมของผู้บริโภคอยู่ตลอด ช่วยเรียกลูกค้าในอีกทาง
สินค้าของมหาชัยประกอบด้วย แบบถัง (สำหรับจัดเลี้ยง) แบบถ้วยสำเร็จ เเละเเบบการขายประจำ สำหรับผู้ที่ต้องการไปทำเป็นธุรกิจขายประจำ ทางเเบรนด์มีอุปกรณ์การขายให้ครบ เเต่นอกจากซื้อตามหน้าร้านหรือรถเข็นเเล้ว ปัจจุบันลูกค้าสามารถสั่งซื้อผ่านทางเดลิเวอรีได้อีกด้วย
ไผ่ทองไอสครีม
เริ่มมาตั้งเเต่เมื่อ 70 ปีก่อน ที่นายกิมเช็ง แซ่ซี และคุณน้ายเฮียง แซ่ซี อดีตเป็นพนักงานขายไอศกรีมของโรงงานแห่งหนึ่ง เเต่พบว่าไอศกรีมที่ทำจากโรงงาน รสชาติไม่คงที่ จึงลองมาทำสูตรของตัวเองจากกะทิ ใช้ชื่อแบรนด์ว่า “หมีบิน” โดยให้ดีลเลอร์เอาไปทดลองขาย
และขายดีจนเปิดโรงงานผลิตไอศกรีมได้ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น “ไผ่ทอง” เพราะความหมายดีกว่าตามความเชื่อของคนจีน
“ไผ่ทองไอสครีม” อยู่ภายใต้การดูเเลของ หจก. ไผ่ทองซีกิมเอ็ง จดทะเบียนเมื่อปี พ.ศ. 2541 ปัจจุบันมีมากกว่า 300 สาขาด้วยกัน อีกทั้งแบรนด์ในเครืออีก 4 แบรนด์ คือ TFK, Thai Snack Nations, คิวปิดไอศครีม เเละ ไผ่ทองสเตชั่น
ไผ่ทองไอสครีม เป็นไอศกรีมที่มาพร้อมรถเข็นสีเขียว เเละเสียงกระดิ่งตามชุมชน ขายผ่านพนักงานรถเข็นเป็นหลัก เเต่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อแบรนด์อยู่ในมือของทายาทรุ่นที่สอง ก็เริ่มขยับสู่การขายผ่านออนไลน์ ก่อนต่อยอดสู่ไผ่ทองสเตชั่น ตามปั๊มน้ำมัน ที่ปัจจุบันมีไม่ต่ำกว่า 50 สาขา เป็นหน้าร้านกระจายสินค้า ง่ายต่อการสั่งออนไลน์ ไรเดอร์สามารถรับสินค้าได้ตรงจุดที่ใกล้ที่สุด
เเละล่าสุดในปี 2022 ไผ่ทองได้เปิดตัว ตู้กดไอศครีม ขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง เข้าถึงคนได้มากกว่า เติมช่องว่างของการขายด้วยรถเข็น ที่ต้องอาศัยเเรงงานคน ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องเวลาและการเข้าถึงในบางพื้นที่ และหาคนทำยากเเล้ว
จากที่ธุรกิจไอศกรีมตักจะอยู่ในธุรกิจขายเร่มาอย่างยาวนาน นึกอยากจะรับประทาน ต้องรอให้ลุงป้าเข็นรถผ่านหน้าบ้าน เพื่อจะได้ดักซื้อไอศกรีมเย็น ๆ ชื่นใจ เเต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนตาม เทคโนโลยีการซื้อสินค้าก็พัฒนาขึ้น คนเริ่มอยากรับประทานอะไรที่ง่าย เเบรนด์จึงต้องตอบโจทย์ลูกค้าให้ไว บังคับให้เเบรนด์ต้องเข้าสู่เดลิเวอรี ทำการตลาดในโซเชียลมีเดียมากขึ้น รวมถึงลอนช์สินค้าที่อยู่ในรูปแบบเก็บรักษาง่าย รับประทานได้ทันที เพื่อให้ลูกค้าสะดวกสบายมากที่สุด
เป็นยุคที่ผู้บริโภคสะดวกเเบบไหน เเบรนด์ก็ต้องเอาใจเเบบนั้น
ส่องธุรกิจไอศกรีมไทย ไผ่ทองไอสครีม VS มหาชัยไอศกรีม
ไผ่ทองไอสครีม | VS | มหาชัยไอศกรีม |
2495 | ปีก่อตั้ง | 2538 |
71 | อายุโดยประมาณ | 28 |
นายกิมเช็ง เเละนางน้ายเฮียง แซ่ซี | ผู้ก่อตั้ง | สมชาย เลิศสมิทวงศ์ |
อดีตคนงานโรงงานไอศกรีม เห็นว่าไอศกรีมไม่ดี เลยออกมาลองทำเอง | ประวัติ | ขายอาหารมาก่อน พอน้ำท่วมจึงลองทำไอศกรีมขาย |
-ตู้กดไอศกรีม
-ไผ่ทอง สเตชั่น
|
สินค้าใหม่ ๆ | ไอศกรีมมหาชัยแบบกระปุก เดลิเวอรี |
กะทิไทยผสมนมผงสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้ได้รสกลิ่นลงตัว | จุดเด่น | ใช้กะทิจากภาคใต้เท่านั้น ทำให้มีความหวานมันมาก |
อ้างอิง: Marketeerรวบรวม
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



