DHC ธุรกิจเสริมอาหารรายใหญ่ที่เกิดจากศูนย์แปลเอกสารเพื่อการศึกษา
DHC มีชื่อมาจากอะไร
คุณ ๆ อาจจะนึกถึงชื่อที่มีความหมายมาจากเครื่องสำอางหรือเสริมอาหารซึ่งเป็นธุรกิจของDHC ในวันนี้
แต่ความจริงแล้ว ชื่อDHCมาจาก ชื่อ Daigaku Honyaku Center ที่แปลเป็นไทย ๆ ว่าศูนย์แปลเอกสารมหาวิทยาลัย
เพราะจุดเริ่มต้นDHC มาจาก Yoshiaki Yoshida ผู้ก่อตั้งเปิดศูนย์แปลเอกสารที่รับแปลเอกสารให้กับมหาวิทยาลัย มาตั้งแต่ปี 1972
เพราะความรู้จากการแปลเอกสาร และการมองเห็นโอกาสในการตลาดเครื่องสำอางจากธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่น
ที่ในเวลานั้นเครื่องสำอางญี่ปุ่นจะมีส่วนประกอบจากเคมีเป็นหลัก
ในปี 1975 Yoshiaki Yoshida จึงคิดที่จะเข้าธุรกิจเครื่องสำอางจากธรรมชาติ เขาเริ่มศึกษาวิจัยและพัฒนาเครื่องสำอางบำรุงผิวจากนำมันมะกอก จากสรรพคุณน้ำมันมะกอกให้ความชุ่มชื้น ไม่อุดตันรูขุมขน และทำตลาดภายใต้แบรนด์DHCในเวลาต่อมา ในชื่อบริษัทDHC Corporation
ก่อนที่จะขยายไปสู่ธุรกิจเสริมอาหารและอื่น ๆ ภายใต้ชื่อDHCและชื่อแบรนด์อื่นอีกเป็นจำนวนมาก
และทำตลาดไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
ปัจจุบันบริษัทDHC Corporation มีสินค้าในหมวดต่าง ๆ จำนวนมาก ทั้งเครื่องสำอาง เสริมอาหาร ขนมและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เภสัชกรรม เครื่องแต่งกาย ชุดชั้นใน เบียร์ สื่อสิ่งพิมพ์ หลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
การทำตลาดยุคแรกของDHCเน้นการขายสินค้าผ่านแค็ตตาล็อกสินค้าทางไปรษณีย์จนประสบความสำเร็จ พร้อมขยายไปยังร้านสะดวกซื้อ ช้อปออนไลน์ และอื่น ๆ
และในวันนี้DHCยังคงจำหน่ายสินค้าผ่านแค็ตตาล็อกสั่งซื้อทางไปรษณีย์ และมีผู้ใช้บริการลงทะเบียนมากถึง 15.78 ล้านคน
อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศไทยDHCเคยเข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการในปี 2547 ในชื่อ ดีเอชซี (ประเทศไทย) จำกัด ทำตลาดผ่านทีวีช้อปปิ้งและร้านDHC เพียงไม่กี่แห่ง และปิดตัวไปในปี 2555 จากข้อจำกัดด้านช่องทางจัดจำหน่าย และการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดเครื่องสำอางและบำรุงผิวในประเทศไทย
จนในปี 2559 DHCกลับมารุกตลาดประเทศไทยอีกครั้งในชื่อบริษัท อาราตะ (ประเทศไทย) ที่เกิดจากความร่วมมือของอาราตะ คอร์ปอเรชั่น ตัวแทนจำหน่ายDHC ประเทศญี่ปุ่น กับกลุ่มสหพัฒนพิบูล
การเข้ามาทำตลาดครั้งนี้ DHC ได้คัดสินค้าบางไลน์อัปเข้ามาทำตลาด และวางช่องทางจัดจำหน่ายไปยังร้านเครื่องสำอาง ร้านสุขภาพและความงามเป็นหลัก
สำหรับรายได้ของ อาราตะ (ประเทศไทย) อ้างอิงจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีผลประกอบการดังนี้
2561 รายได้รวม 24.60 ล้านบาท ขาดทุน 3.50 ล้านบาท
2562 รายได้รวม 36.94 ล้านบาท กำไร 0.82 ล้านบาท
2563 รายได้รวม 32.77 ล้านบาท กำไร 0.23 ล้านบาท
2564 รายได้รวม 58.71 ล้านบาท กำไร 2.26 ล้านบาท
2565 รายได้รวม 87.67 ล้านบาท กำไร 6.63 ล้านบาท
อ้างอิง
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ