แกมโบล ถึงเวลาเปิดเกมรุกประเทศเพื่อนบ้าน สร้างการเติบโตก้าวใหม่
ตลาดรองเท้าเเตะลำลองชะงักไม่ขยับนาน 6 ปี แกมโบลหาทางรอดใหม่ให้ตัวเอง บุกประเทศเพื่อนบ้านนิยมใช้เเบรนด์ไทย
รองเท้าเเตะหนึ่งในเครื่องเเต่งกายที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในประเทศเมืองร้อนที่อาจใส่รองเท้าผ้าใบไม่ได้ทุกสถานการณ์
ภาพรวมตลาดรองเท้าแตะลำลองในไทย มีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยที่ 60% ของตลาดรองเท้าเเตะลำลอง เป็นรองเท้ามีแบรนด์ ในกลุ่มนี้มีอัตราการเติบโตที่ต่ำ ตลาดเป็นลักษณะ Fragment ขณะที่กลุ่ม Others คิดเป็น 40% มีเเบรนด์ย่อยเเละ non-brand ของจีน ซึ่งมีอยู่ 50 ยี่ห้อทั่วประเทศ
เเต่ตลาดรองเท้าแตะลำลองหมื่นล้านบาทไม่ขยับตัวมา 5-6 ปีแล้ว
โดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ทุกคนรัดเข็มขัด คนหยุดซื้อรองเท้าเเตะคู่ใหม่ ส่งผลให้หลังสถานการณ์การเเพร่ระบาดโควิด-19 ตลาดรองเท้าชะลอตัว ซึ่งภาพรวมของแกมโบลตกลงจากเดิมเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับดี เพราะได้โอกาสในช่วงเเพร่ระบาด ที่สินค้าจากจีนนำเข้ามาไม่ได้ เเต่ด้วยปัญหาต้นทุนสินค้าที่เเพงขึ้น จากช่วงวิกฤตที่ผ่านมาทำให้บริษัทต้องปรับราคาสินค้าเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขึ้น 10%
นิติ กิจกำจาย กรรมการบริหาร บริษัท บิ๊กสตาร์ จำกัด ผู้ผลิตเเละจำหน่ายรองเท้าเเบรนด์ “แกมโบล” (GAMBOL) กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์โควิดซาลง แบรนด์ต้องกลับมากระตุ้นตลาด ในปีที่ 21 เเกมโบลมุ่งเน้นขยายการสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัย พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้เข้ากับฤดูกาล ขยายช่องทางการขาย ทั้งออนไลน์เเละออฟไลน์
โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่เเบรนด์ยังถือว่าใหม่ในช่องทางนี้ สัดส่วนช่องทางการจำหน่ายในปีที่ผ่านมา Traditional Trade 46.88% Modern Trade 22.79% ส่วนกลางคิดเป็น 20.76% และ Department 8% ด้านออนไลน์ยังอยู่ในสัดส่วนที่น้อย 1.57%
การทำตลาดออนไลน์เปิดโอกาสในการเข้าถึงตลาดที่กว้าง เเต่มีการเเข่งขันสูงเช่นกัน อีกทั้งช่องทางออนไลน์ยังพบปัญหากระบวนการขาย สินค้าไม่ตรงตามคำอธิบาย การลดเเละตัดราคาจากการเเข่งขันที่เพิ่มขึ้น แบรนด์ที่ลงเล่นในโลกออนไลน์ต่างต้องแข่งขันหั่นราคา อัดโปรโมชันเอาใจตลาด เพื่อเลี่ยงการลงเเข่งขันราคา
เเกมโบลจึงวางตำแหน่งเเบรนด์เป็นรองเท้าคุณภาพ ขายความทันสมัย นำกระเเส ด้วยการลอนช์สินค้าใหม่ 70 รุ่นในปีนี้ ทุกคอลเลกชันสอดรับกับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ดีไซน์สินค้าที่ดูทันสมัย นำโดยรุ่นที่ร่วมคอลแลบส์กับศิลปินเเละเเบรนด์ดัง อาทิ ‘แกมโบล x เจมีเจมส์’ เเละ ‘แกมโบล x ลิเวอร์พูล’ ซึ่งการคอลเเลบส์นี้สร้าง Brand Awareness ให้เเก่เเกมโบลได้เป็นอย่างมาก
รวมถึงออกสินค้าไปในกลุ่มกีฬา ในรุ่นที่ชื่อว่า ‘แกมโบล รัน’ ตลอดจนกลุ่มคนรักสัตว์ กับ ‘แกมโบลรุ่น French Bulldog’ เนื่องจากเล็งเห็นว่ากลุ่มคนรักสัตว์เป็นผู้มีกำลังซื้อสูง สินค้ารุ่นนี้จะเข้ามาช่วยดันยอดขายในภาพรวมให้ดีขึ้นได้
ในภาพรวมสินค้าทั้งหมดของ เเกมโบล สามารถแบ่งออกได้ตามคอลเลกชัน ได้เเก่ Iconic, HYPE, Twist, Duo เเละ Slip-on โดยที่สินค้าในกลุ่ม EVA สร้างยอดขาย 50-60% ตามด้วยกลุ่มไฟลอน 30% เเละ slip-on 10%
กลุ่มลูกค้าหลักของแบรนด์ยังเป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุ 18-24 ปี เเละกลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่ 25-34 ปี เป็นหลัก
ในปี 2022 แกมโบลมีตัวเลขยอดขาย 1,042 ล้านบาท เติบโต 37% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 1,300 ล้านบาท เติบโต 30%
อย่างไรก็ตาม เเม้เเกมโบลจะผงาดใน Top3 ของตลาดรองเท้าลำลอง ครองมาร์เก็ตเเชร์ 10-12% เเต่รองเท้าลำลองมีการซื้อจำกัด ในปีหนึ่งผู้บริโภคจะซื้อรองเท้า 1-2 คู่ต่อปี ตลาดรองเท้าลำลองจึงไม่ค่อยเติบโตได้หวือหวานัก การจะหาเส้นทางเติบโตไปในก้าวใหม่ ปลายทางคือต้องขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน
นิติ กล่าวเสริมว่า ตลาดต่างประเทศสร้างยอดขายให้แกมโบลได้มากกว่าการขายในประเทศเป็นเท่าตัว เดิมแกมโบลส่งออกจำหน่ายในประเทศฝั่งยุโรปและตะวันออกกลางเป็นส่วนใหญ่ เเต่จากภาวะสงครามทำให้การส่งออกชะงัก
ด้านกลุ่ม CLMV ตลาดที่เเกมโบลมองไว้เเน่ชัด คือ กัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศที่เเบรนด์อื่น ๆ ก็กำลังวางแผนเข้าทำตลาดเช่นกัน เเต่อาจต้องเผชิญกับการเเข่งขันจากสินค้าจีน อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านมีข้อได้เปรียบที่คนให้ความสนใจเเละเลือกใช้สินค้าเเบรนด์ไทยอยู่เเล้ว เมื่อคนในประเทศนั้นมีความต้องการซื้อรองเท้ามียี่ห้อที่มีคุณภาพยกระดับขึ้นมาจากสินค้าทั่วไป คนจะเลือกเเบรนด์ไทยก่อนเเบรนด์จีน
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ