จิมสกรุ๊ป เปิดกลยุทธ์ปั้น “เลดี้ แอนนา” ความสำเร็จจากเสียงของผู้บริโภค
ภาพรวม ตลาดซุปเพื่อสุขภาพ ในเมืองไทยในปัจจุบันมีทิศทางการเติบโตที่น่าสนใจ ข้อมูลจาก Euromonitor ระบุว่า มูลค่าตลาดซุปครีมกึ่งสำเร็จรูปในไทยอยู่ประมาณ 159.8 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10.7% ต่อปี
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปีแม้กระทั่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยจุดเด่นในเรื่องความสะดวกสบายในการบริโภค เพียงแค่ชงน้ำร้อนแล้วคนให้ละลายก็สามารถรับประทานได้ทันที นอกจากนี้ ยังจัดอยู่ในหมวดสินค้าเพื่อสุขภาพ ด้วยคุณประโยชน์ที่หลากหลาย สะอาด และรสชาติที่ดี ทำให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในแบรนด์ที่ถือเป็นรายใหญ่ของตลาดคือ “เลดี้ แอนนา” ซึ่งปัจจุบันแม้จะมีแบรนด์ผู้เล่นในตลาดทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่เข้ามาแข่งขันมากมาย แต่ยังคงยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง ภายใต้การขับเคลื่อนของ “บริษัท จิมสกรุ๊ป จำกัด”
พัฒนาสินค้าจากเสียงผู้บริโภค
ด้วยคุณภาพและมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก
“แบรนด์ ‘เลดี้ แอนนา’ เราสร้างขึ้นมาเพื่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง ดังนั้น ความสำเร็จของเรา Key Success Factor ที่สำคัญแรก คือ ‘เสียงของผู้บริโภค’ เราเริ่มต้นจากการออกบูธกิจกรรมตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งงานที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและเกี่ยวข้องกับอาหาร เราไปฟัง ไปรับคำแนะนำติชม ไปพูดคุย ไปใช้เวลากับลูกค้าอย่างเต็มที่ มองงานออกบูธเป็น Market Survey อีกช่องทางหนึ่ง บางครั้งเราคุยกับลูกค้าเกือบจะเป็น Deep Interview กันเลย”
คุณวิโรจน์ เลิศประภาพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จิมสกรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงกุญแจความสำเร็จแรกที่ทำให้ “เลดี้ แอนนา” ยังคงเป็นแบรนด์ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีเสมอมา คือการรับฟังเสียงจากผู้บริโภคอยู่เสมอ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ตรงใจในทุกมิติ โดยเฉพาะการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสร้างจุดเด่นและเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคมากกว่าแค่รสชาติเดิมที่ขายดีอย่างเห็ดหรือข้าวโพด รวมถึงการเพิ่มคุณค่าด้วยการเติมเสริมวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ
“การรับฟังเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่กุญแจสู่ความสำเร็จทั้งหมด Key Success Factor ตัวที่สองที่ต้องทำควบคู่กัน คือ ‘การพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง’ เราปรับปรุงรสชาติและเพิ่มคุณค่าของสินค้าให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าของเรามากขึ้น
จุดเริ่มต้นของแบรนด์ซุปเลดี้ แอนนา เราเริ่มจำหน่ายในต่างประเทศก่อน เพราะในหลายประเทศรับประทานซุปเป็นประจำ เป็นที่คุ้นเคย ต่างจากในไทยที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและไม่ได้รับความนิยมมากนัก โดยเริ่มต้นด้วยซุป 5 รสชาติ คือ ไก่ เห็ด ผัก ข้าวโพด และมิเนสโทรเน่ ซึ่งเป็นรสชาติที่เราจำหน่ายอยู่ในต่างประเทศ
จากนั้นมีการปรับปรุงรสชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพิ่มรสชาติที่ผู้บริโภคหลายคนต้องการคือ ซุปที่ลดปริมาณเกลือลง ซุปที่ปั่นละเอียดเนื้อเนียน จึงได้ออกกลุ่มสินค้าใหม่คือ ‘กลุ่ม Lower Sodium’ ได้แก่ รสผักโขมและรสฟักทอง และเพิ่ม ‘กลุ่ม Secret Recipe’ ได้แก่ รสคาโบนาราและปูอลาสกา นี่ก็คือจุดเริ่มต้นการพัฒนาสินค้า โดยรับฟังเสียงของผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันก็มีรสชาติที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
ซึ่งตอนนี้ ได้ออกสินค้าใหม่ตามเทรนด์ที่ผู้บริโภคต้องการคือ ‘รสเห็ดทรัฟเฟิล’ และ ‘รสผักโขมอะโวคาโด’ มาเป็นทางเลือกมากขึ้น”
นอกจากนี้ ผู้บริหารจิมสกรุ๊ป ยังเสริมว่า อีกหนึ่ง Key Success Factor สำคัญคือ ในทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงที่มาจากเสียงของผู้บริโภค แบรนด์จะ “ยึดมั่นในคุณภาพและมาตรฐานเดียวกัน” ในการจำหน่ายสินค้าทั่วโลก
ผลักดันสินค้าคุณภาพ ให้เข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น
พร้อมส่งต่อสโลแกน “Better Choice for Better Health”
ในฐานะผู้นำในตลาด คุณวิโรจน์วิเคราะห์ว่า โจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันต้องการสุขภาพที่ดีขึ้นตามเมกะเทรนด์ทั่วโลก อย่างไรก็ดี พฤติกรรมการใช้ชีวิตยุคใหม่ไม่สอดคล้องกับเรื่องนี้นัก เนื่องจากอาหารที่ดีต่อสุขภาพยังถูกเลือกซื้อน้อย แม้มีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี สิ่งสำคัญที่แบรนด์ต้องทำคือ การผลักดันสินค้าสุขภาพให้อยู่ในชีวิตประจำวันให้ได้ และที่สำคัญไม่แพ้กันคือทำให้สินค้าสุขภาพรับประทานง่าย เข้าถึงง่าย สอดรับกับวิถีการใช้ชีวิต ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยให้สินค้าสุขภาพไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราว
“จากแนวคิดประกอบกับประสบการณ์ที่ผู้บริโภค รับรู้เกี่ยวกับอาหารสุขภาพ คือ รสชาติไม่อร่อยหรือรสชาติพอรับได้ และราคาต้องสูงกว่าอาหารปกติมาก ๆ หลายเท่า ทำให้ไม่สามารถรับประทานได้ทุกวันหรือบ่อยครั้ง นี่คือโจทย์สำคัญที่เราคำนึงถึง ดังนั้น หัวใจของแบรนด์เลดี้ แอนนา เราผลิตสินค้าสุขภาพที่รับประทานง่าย ราคาที่เหมาะสม ไม่สูงจนเกินไป เพียงกล่องละ 42-48 บาท สามารถรับประทานได้ทุกวัน
เรามอง ‘เลดี้ แอนนา คือ เชฟนักโภชนาการ’ รสชาติที่ดีด้วยโภชนาการอย่างเหมาะสม เพราะอาหารต้องผ่านลิ้น เรารับรู้มันได้ก่อนรับรู้เรื่องสุขภาพหลังจากรับประทาน นี่คือสิ่งที่เราต่างจากคู่แข่ง และจะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าสุขภาพได้มากขึ้น”
นอกจากนี้ “เลดี้ แอนนา” ได้วางแผนที่จะจัดแคมเปญและลงพื้นที่เพื่อแนะนำและสร้างความเข้าใจในสินค้าซุปครีม เพื่อให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
“ผู้บริโภคบางท่านยังไม่เคยรับประทานซุปของเรา หรือบางท่านเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีในการรับประทานซุปจึงไม่กล้ารับประทานซุปอีกเลย ดังนั้น เราจึงมีแคมเปญที่จะเน้นการออกกิจกรรมชงชิมตามจุดต่าง ๆ มากขึ้น ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายสินค้า
อีกจุดสำคัญที่เราต้องใส่ใจ คือ ‘บอกความลับของการรับประทานซุปให้อร่อย’ เราคำนึงถึงอินไซด์ผู้บริโภคเสมอ ลูกค้าที่ซื้อไปส่วนใหญ่ทำรับประทานอย่างไร วิธีการง่าย ๆ ที่ลูกค้าหลายท่านบอกกับผมมาคือ เทซุปเลดี้แอนนาลงในถ้วยมีหู แล้วเทน้ำร้อนให้ต่ำกว่าขอบปากแล้ว 1 ข้อนิ้วชี้ ซึ่งนั่นคือหนึ่งใน Pain Point ผู้บริโภคเจอคือ ลูกค้าหลายท่านบอกว่า ซุปถ้วยเลดี้ แอนนา นำไปทำรับประทานเองที่บ้านไม่อร่อยเหมือนชิมที่บูธซึ่งความลับสำคัญของการรับประทานซุปคือ ต้องรับประทานตอนที่มันยังร้อน ๆ อยู่ และปริมาณน้ำร้อนต้องอยู่ในช่วง 190-210 มิลลิลิตร นี่คือคำตอบที่เราต้องแถมถ้วยที่มีขีดบอกระดับน้ำไปด้วย เพราะหลายบ้านไม่มีถ้วยตวง”
สุดท้ายนี้ คุณวิโรจน์ กล่าวว่า “เลดี้ แอนนา” ยังคงมุ่นมั่นนำเสนอสินค้าสุขภาพที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภค ภายใต้สโลแกน “Better Choice for Better Health”
“เราทราบว่าเมื่อพูดถึงอาหารสุขภาพ ความคิดของใครหลายคนมักมองว่า คืออาหารที่เราปลูกเอง ทำเอง ปราศจากการปรุงแต่ง ทำแล้วรับประทานทันที แล้วอาหารกึ่งสำเร็จรูปจะเป็นอาหารสุขภาพได้อย่างไร
ซึ่งจริง ๆ แล้ว จิมสกรุ๊ป มองเลดี้ แอนนาเป็นตัวช่วยคุณในวันที่คุณไม่สะดวกในการเตรียมอาหาร ให้คุณมีเวลาไปจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิต ปล่อยให้เราดูแล แม้ไม่ดีเท่าทำอาหารสดที่คุณทำรับประทาน แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าอาหารบางอย่างที่คุณรับประทาน จึงเกิดเป็นสโลแกน ‘Better Choice for Better Health’ ของเลดี้ แอนนา ที่เราพร้อมนำเสนอสิ่งที่ดีมีคุณภาพให้กับผู้บริโภคอย่างแท้จริง”
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ