ความสำเร็จในการผลักดันประเทศและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนเป็นเรื่องที่ไร้ข้อกังขาและสร้างความอิจฉาให้แทบทุกประเทศในโลก แต่ช่วง 3 ปีมานี้ก็เกิดวิกฤตใหญ่ในจีน นั่นคือ การระบาดของโควิด-19 และปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์
วิกฤตโควิดคลี่คลายไปแล้ว ทว่าวิกฤตอสังหาฯ ยังมีแต่ทรงกับทรุด และมาปีนี้ (2023) ก็มีประเด็นให้ต้องจับตามองกันมากยิ่งขึ้น
เมื่อราวกลางสิงหาคม Evergrande ยักษ์อสังหาฯ จีนเบอร์ต้น ๆ ที่หนี้ท่วมเมื่อปี 2021 ได้ยื่นล้มละลายในสหรัฐฯ เพราะมีหุ้นซื้อ-ขายอยู่ในสหรัฐฯ ด้วย และประโยชน์ในการปรับโครงสร้างของธุรกิจในประเทศต่าง ๆ
นับจากที่วิกฤตอสังหาฯ จีนเกิดขึ้น โดยที่ Evergrande เจ็บหนักสุด คนที่ถูกจับตามองมากสุดคือ Hui Ka Yan (ฮุย กา ยัน) ประธานบอร์ดบริหาร เพราะต้องทำทุกทางเพื่อพาบริษัทที่ตนสร้างขึ้นมาเองกับมือเมื่อเกือบ 30 ปีก่อนผ่านวิกฤต
Hui Ka Yan
และหากตีกรอบให้แคบลงมาอีก Hui Ka Yan ก็น่าสนใจไม่แพ้ตัวบริษัท เพราะนี่คือคนที่สร้างฐานะตัวเองขึ้นมาจากเด็กยากจน และไม่กี่ปีก่อนเผชิญวิกฤตใหญ่ เขารุ่งถึงขนาดแซง Jack Ma )(แจ็ค หม่า) ขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีนมาแล้ว
Hui Ka Yan เกิดเมื่อปี 1958 ในครอบครัวฐานะยากจนมณฑลหูหนาน ทำให้ชีวิตวัยเด็กต่อมาถึงวัยรุ่นยากลำบาก ต้องไปทำงานในโรงงานปูนเลี้ยงตัวเองและครอบครัว อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ทิ้งการเรียน โดยสอบเข้ามหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอู่ฮั่นได้สำเร็จ และคว้าปริญญามาได้
ชีวิตการทำงานของ Hui Ka Yan เริ่มขึ้นในปี 1982 หลังเรียนจบด้วยตำแหน่งพนักงานคุมเครื่องระบายความร้อนบริษัทเหล็ก ทำอยู่ 10 ปีก็ลาออกไปอยู่เซินเจิ้นที่ ณ เวลานั้นรัฐบาลเพิ่งเปิดเป็นเขตเศรษฐกิจใหม่
พอปี 1997 แม้ได้เป็นผู้บริหารเบอร์ต้น ๆ ของบริษัทแห่งหนึ่งในเซินเจิ้นแล้ว แต่การอิ่มตัวกับชีวิตมนุษย์เงินเดือนและความสนใจในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงลาออกมาตั้งบริษัทตัวเองในชื่อ Evergrande ขึ้น
ข้ามมาปี 2012 Evergrande ก็ขยับขยายใหญ่ขึ้น ๆ และเดินหน้ารุกสู่ธุรกิจอื่น ๆ ส่งให้ Hui Ka Yan เป็นเศรษฐี พร้อมกับเป็นที่รู้จักในหมู่เศรษฐีด้วยกันและฝ่ายปกครองท้องถิ่นจากการใส่หัวเข็มขัดโลโก้แบรนด์หรูระดับโลกอยู่เสมอ
Jack Ma
ปี 2017 ขึ้นเป็นยักษ์อสังหาฯ ของจีน ทำให้มูลค่าทรัพย์สินของ Hui Ka Yan เพิ่มขึ้นเป็น 42,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.5 ล้านล้านบาท) โดยมีนัยสำคัญอยู่ที่เขาแซง Jack Ma มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้ง Alibaba และเจ้าสัวจีนยุคใหม่ที่คนทั่วโลกรู้จักมากสุด
แต่ปี 2021 วงการอสังหาฯ จีนก็เกิดวิกฤต ซึ่ง Evergrande ยักษ์ของวงการได้รับผลกระทบมากสุด โดยมูลหนี้สูงถึง 30,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1 ล้านล้านบาท) คิดเป็นครึ่งหนึ่งของยักษ์สถาบันการเงินสหรัฐฯ ที่ล้มเมื่อปี 2008 และการเทขายธุรกิจมากมาย ไล่ตั้งแต่สโมสรฟุตบอลไปจนถึงรถไฟฟ้า
ประกอบกับพนักงานธุรกิจในเครือทั้งหมดราว 200,000 คน และสร้างงานจากธุรกิจเกี่ยวเนื่องให้ชาวจีน 3.8 ล้านคนต่อปี ทำให้วิกฤตของ Evergrande กลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลก
ถัดจากนั้น สถานการณ์ในตลาดอสังหาฯ จีนกับ Evergrande ก็มีแต่ทรงกับทรุด และพอล่วงมาถึงกลางสิงหาคมปีนี้ (2023) ก็เป็นข่าวใหญ่ขึ้นอีกครั้ง โดย Evergrande ยื่นขอล้มละลายตามมาตรา 15 ในสหรัฐฯ เพื่อเปิดทางสู่การคลายวิกฤตข้ามประเทศ
ถัดจากนั้นก็มีข่าวบริษัทอสังหาฯ จีนอีกหลายแห่งล้มละลายตามกันมา และพนักงานในแผนกบริหารความมั่งคั่งของ Evergrande ถูกทางการจีนจับกุมในข้อหาตั้งธนาคารเงา จน Hui Ka Yan ถูกจับตามองว่าอาจเป็นรายต่อไป
ที่สุดเมื่อ 28 กันยายน ก็มีข่าวว่าตำรวจจีนได้เข้าควบคุมตัวประธานบอร์ดบริหาร Evergrande วัย 64 ปี โดยทั้งสื่อจีน สื่อตะวันตก และ Evergrande ให้ข้อมูลตรงกันว่า เขาถูกควบคุมตัวไป และสั่งกักบริเวณอยู่ในสถานที่ไม่เปิดเผย ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนแล้ว และยังไม่สามารถติดต่อกับคนภายนอกหากไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย
จากนี้ต้องติดตามว่า Hui Ka Yan จะถูกตั้งข้อหาอะไร และถ้าถูกดำเนินคดีจะโดนลงโทษมากน้อยแค่ไหน และตัวเขาจะฟื้นกลับขึ้นมาได้หรือไม่ เช่นเดียวกับ Evergrande สามารถคลายวิกฤตอสังหาฯ ของจีนได้หรือไม่/cnn, bbc, wikipedia, theguardian
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ