JobThai ชี้ตลาดแรงงานโตพุ่ง 10.8% ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเปิดรับแรงงานมากที่สุด สายงานที่องค์กรต้องการมากคืองานขาย เเละงานที่มีอัตราการแข่งขันสูงคืองานทรัพยากรบุคคล
จ๊อบไทย (JobThai) เผยพฤติกรรมการหางาน สมัครงาน และความต้องการบุคลากรจากฐานข้อมูลช่วงเดือนมกราคม – กันยายน 2566 พบว่า ภาพรวมความต้องการแรงงานทั่วประเทศมีการเปิดรับรวม 1,746,346 อัตรา (การเปิดรับรายเดือนรวมกัน) เพิ่มขึ้น 10.80% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
โดยธุรกิจที่รับพนักงานเติบโตมากที่สุด ได้แก่ ธุรกิจการท่องเที่ยว เติบโตถึง 76% ธุรกิจโรงแรม 39% เนื่องจากเป็นการฟื้นตัวจากผลกระทบวิกฤตโควิด-19 ที่ในช่วงก่อนหน้าธุรกิจท่องเที่ยว และโรงแรมมีการปลดพนักงานออกเป็นจำนวนมาก และกลับมาเปิดรับใหม่อีกครั้งหลังจากที่การท่องเที่ยวกลับมาเป็นปกติ
ตามด้วยธุรกิจเชื้อเพลิง/พลังงาน เติบโต 39% โดยคนหางานมีผู้ใช้งาน 17.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.72 % (นับจำนวนแบบไม่ซ้ำกันตามอุปกรณ์การใช้งาน) มีการสมัครงาน 14.7 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 2.44% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเดือนมิถุนายนมีการสมัครงานกว่า 2 ล้านครั้ง
แสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย http://www.jobthai.com เปิดเผยว่า จากการรวบรวมและวิเคราะห์ฐานข้อมูลความต้องการแรงงานและพฤติกรรมความต้องการของผู้สมัครงานทั่วประเทศของผู้ใช้งานจ๊อบไทยพบสถิติที่น่าสนใจ ดังนี้
คนทำงานอายุ 25-34 ปี เป็นกลุ่มผู้ใช้งานหลัก คิดเป็น 30.27% ลำดับถัดมาเป็นช่วงอายุ 45 ปีขึ้นไป คิดเป็น 25.09% ช่วงอายุ 35-44 ปี คิดเป็น 23.45% และอายุ 18-24 ปี คิดเป็น 21.19%
ระดับการศึกษาและสาขาของผู้ใช้งาน ผู้ใช้งานที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีมีสัดส่วนมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 69.69% ระดับ ปวส. 14.22% ระดับปริญญาโท 4% และในระดับการศึกษาอื่น ๆ รวมกันอยู่ที่ 12.09%
เมื่อแยกตาม สาขาวิชาที่จบของผู้หางาน พบว่าอันดับหนึ่ง ได้แก่ บัญชี/การเงิน/การธนาคาร 10.88% ตามด้วย การบริหาร/การจัดการ/บุคคล 9.66% เเละ เลขา/ประชาสัมพันธ์/ธุรการ/คอมพิวเตอร์ธุรกิจ 7.91% ไปจนถึงช่างอิเล็กทรอนิกส์/ช่างไฟฟ้า/ช่างคอมพิวเตอร์ 6.28% เเละสุดท้าย อักษรศาสตร์/ศิลปศาสตร์/มนุษยศาสตร์ 5.53%
5 กลุ่มธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุด
1. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เปิดรับรวม 167,261 อัตรา
เนื่องมาจากด้านการท่องเที่ยวและอุปสงค์ภายในประเทศกลับมาฟื้นตัว ผู้บริโภคมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นจะเห็นได้จากการใช้จ่ายในหมวดภัตตาคารและโรงแรมที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีแรก (ที่มา: สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ)
ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มยังคงมีการจ้างงานสูงเพื่อรองรับกับความต้องการของผู้บริโภค
2. ธุรกิจค้าปลีก เปิดรับรวม 137,421 อัตรา
จากการขายปลีกที่ยังคงมีการขยายตัว จากปัจจัยสนับสนุนการมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการอุปโภคบริโภคของครัวเรือนที่อยู่ในเกณฑ์ดี สอดคล้องกับศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ประเมินภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยปี 2566 ว่า มีการขยายตัวเติบโตต่อเนื่องโดยได้รับปัจจัยบวกจากกิจกรรมเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นและการบริโภคที่กลับมาฟื้นตัว รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐทำให้ยอดค้าปลีกสูงขึ้นในครึ่งแรกของปี เช่น ช้อปดีมีคืน และเราเที่ยวด้วยกัน
3. ธุรกิจยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เปิดรับรวม 119,609 อัตรา
อุตสาหกรรมยานยนต์มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดรถยนต์นั่งและการลงทุนของผู้ผลิตรถยนต์รายใหม่ รวมทั้งนโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าจากภาครัฐที่มีมาตรการต่าง ๆ อาทิ มาตรการอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ที่ภาครัฐให้เงินอุดหนุนคันละ 70,000-150,000 บาท ส่งผลให้เกิดการพึ่งพาวัตถุดิบในประเทศและมีการจ้างงานในธุรกิจนี้
4. ธุรกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง เปิดรับรวม 108,491 อัตรา
มีปัจจัยสนับสนุนจากการก่อสร้างของภาครัฐในโครงการเมกะโปรเจกต์ต่อเนื่องจากในอดีต และมีความคืบหน้าของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนก่อสร้างโครงการใหม่ ๆ และการขยายตัวต่อเนื่องของการก่อสร้างภาคเอกชนในการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ และการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ (ที่มา: SCB EIC)
5. ธุรกิจบริการ เปิดรับรวม 106,143 อัตรา
จากการขยายตัวเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัว ตลอดจนการมาทำกิจกรรมนอกบ้านของผู้บริโภคมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจบริการซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ได้รับอานิสงส์ภาคการท่องเที่ยวมีการขยายตัวเพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทย
5 สายงานที่องค์กรเปิดรับมากที่สุด
– อันดับหนึ่ง งานขาย 21.43%
– อันดับสอง งานช่างเทคนิค 9.37%
– อันดับสาม งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ 7.09%
– อันดับสี่ งานธุรการ/งานจัดซื้อ 6.26%
– อันดับห้า งานวิศวกรรม 5.87% ของอัตราการเปิดรับในแต่ละเดือนรวมกัน
และ 5 สายงานที่มีผู้สมัครมากที่สุด
– งานผลิต/งานควบคุมคุณภาพ มีการสมัครสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 16.03%
– อันดับสอง งานธุรการ/งานจัดซื้อ 14.12%
– อันดับสาม งานวิศวกรรม 10.98%
– อันดับสี่ งานช่างเทคนิค 9.20%
– อันดับห้า งานขาย 8.54% ของผู้สมัครทั้งหมด
ถ้าเปรียบเทียบ ความต้องการจากฝั่งองค์กรและความนิยมในการสมัครงาน พบว่า งานที่มีอัตราการแข่งขันสูงที่สุด คือ อันดับหนึ่ง งานทรัพยากรบุคคล 5.8 คน ต่อ 1 อัตรา
อันดับสอง งานวิทยาศาสตร์ 5.5 คน ต่อ 1 อัตรา
อันดับสาม งานนำเข้า/ส่งออก 5.5 คน ต่อ 1 อัตรา
อันดับสี่ งานจัดซื้อ/งานธุรการ/ประสานงาน 4 คน ต่อ 1 อัตรา
อันดับห้า งานสิ่งแวดล้อม/ความปลอดภัย 3.8 คน ต่อ 1 อัตรา
สำหรับ พฤติกรรมในการค้นหาประวัติผู้หางานของฝั่งองค์กร มีการค้นหาประวัติผู้หางานโดยค้นหาจากช่วงประสบการณ์ทำงานเพิ่มขึ้น 31% มีการค้นหาผู้ที่มีอายุงาน 5 ปีขึ้นไป คิดเป็น 19.19% และยังพบว่าองค์กรมีการค้นหาผู้สมัครงานจากทักษะและการใช้โปรแกรม โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจแบ่งเป็นกลุ่มหลักได้ ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ทักษะด้านการใช้ภาษา
โดยมีการค้นหาทักษะภาษาจีนมากที่สุด ตามมาด้วยภาษาอังกฤษ และภาษาญี่ปุ่น ตามลำดับ ซึ่งองค์กรยังมีการค้นหาระดับความสามารถในการใช้ภาษาต่าง ๆ อย่าง TOEIC (การสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษ) และ HSK (การสอบวัดระดับความสามารถภาษาจีน)
กลุ่มที่ 2 ทักษะที่เกี่ยวข้องกับสายงานไอที
โดยมีการค้นหาทักษะด้านภาษาคอมพิวเตอร์และการใช้เครื่องมือในการพัฒนาซอฟต์แวร์ ดังนี้ C#, JAVA, .NET, ANGULAR, PHP, SQL, GOLANG, และ PYTHON ตามลำดับ
กลุ่มที่ 3 โปรแกรมและเครื่องมือที่ใช้ในการทำงาน
ได้แก่ SAP (System Application Products) และ ERP (Enterprise Resource Planning) ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับการวางแผนการจัดการขององค์กร, EXPRESS โปรแกรมทางด้านบัญชี และ TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารสินค้าและบริการยอดนิยมขององค์กรในปัจจุบัน
การหางาน รับสมัครเเรงงาน ปี 2023 งาน HR แย่งชิงกันมากที่สุด
5 ธุรกิจที่ต้องการแรงงานมากที่สุด | ||||
อาหารและเครื่องดื่ม
167,261 อัตรา |
ค้าปลีก
137,421 อัตรา |
ยานยนต์เเละชิ้นส่วนยานยนต์
119,609 อัตรา |
ก่อสร้างเเละวัสดุก่อสร้าง
108,491 อัตรา |
บริการ
106,143 อัตรา |
ธุรกิจที่มีการเปิดรับเติบโตสูงสุด | ||||
ธุรกิจการท่องเที่ยว
+76%YoY |
ธุรกิจโรงเเรม
+39%YoY |
ธุรกิจเชื้อเพลิงเเละพลังงาน
+39%YoY |
||
5 สายงานที่องค์กรเปิดรับมากที่สุด | ||||
งานขาย
21.43% |
ช่างเทคนิค
9.37% |
ผลิต/ควบคุมคุณภาพ
7.09% |
ธุรการ/จัดซื้อ
6.26% |
วิศวกรรม
5.87% |
สายงานที่มีอัตราการแข่งขันสูงสุด | ||||
ทรัพยากรบุคคล
1:5.8 |
วิทยาศาสตร์
1:5.5 |
นำเข้า/ส่งออก
1:5.5 |
ธุรการ/จัดซื้อ
1:4 |
สิ่งเเวดล้อม/ความปลอดภัย
1:3.8 |
ที่มา: Jobthai ตั้งเเต่มกราคม-กันยายน 2023 |
นอกจากนี้ ในเฟซบุ๊กกลุ่ม “JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน” ที่ประกอบด้วยสมาชิกภายในกลุ่มกว่า 1.1 ล้านคน พบว่า คนทำงานได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนประเด็นที่น่าสนใจต่าง ๆ ดังนี้
– คนทำงานอายุเยอะหางานยาก
– งานในต่างจังหวัดเงินเดือนน้อย
– เด็กจบใหม่มีปัญหาเกี่ยวกับการสื่อสารในการทำงาน
– ปัญหาด้านเวลาในการทำงาน เช่น การต้องทำงานนอกเหนือเวลางาน หรือตอบข้อความหลังเวลางาน ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่องค์กรควรให้ความสำคัญ
สำหรับนักศึกษาจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มหางาน ควรให้ความสำคัญกับการนำเสนอตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำเนื้อหาในเรซูเม่และพอร์ตโฟลิโอให้ตรงกับตำแหน่งงานที่สมัคร และควรมีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์งาน เช่น
ฝึกซ้อมตอบคำถามสัมภาษณ์งาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองและสร้างความประทับใจกับผู้สัมภาษณ์งาน ก็จะทำให้มีโอกาสได้งานมากขึ้น
ส่วนคนทำงานที่มีประสบการณ์นั้นต้องแสดงศักยภาพให้องค์กรเห็นว่า สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่มีมาประยุกต์ใช้กับการทำงาน เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับองค์กร ตลอดจนต้องพัฒนาทักษะให้ทันกับความการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมและเทคโนโลยี ให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดอยู่เสมอ
ในขณะที่องค์กรควรมีการส่งเสริมสุขภาวะที่ดี (Well-being) ให้กับพนักงานในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพด้านกาย สุขภาพ ด้านจิตใจ สภาพแวดล้อมในการทำงาน ตลอดจนการส่งเสริมศักยภาพของพนักงานโดยให้พื้นที่ในการแสดงความสามารถ และมีการสนับสนุนให้พนักงานเรียนรู้ตลอดเวลา
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ