อินทนิล ปล่อยหมัดเด็ด ปรับอิมเมจร้าน ผสานป๊อปคัลเจอร์ จับคนรุ่นใหม่ & วัยทำงาน

อินทนิล ลุยปรับอิมเมจร้านสาขานอกปั๊มบางจากเป็นโฮมมี่ คอลแลบส์ป๊อปคัลเจอร์ โฟกัสสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านออนไลน์ เพื่อขยายฐานผู้บริโภคใหม่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ & วัยทำงาน เหตุพร้อมเป็นกำลังซื้อระยะยาว

 

ปริญญา กิตติการุญจิต กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางจากรีเทล จำกัด (BCR) ภายใต้ บมจ. บางจากคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เชนร้านกาแฟ แบรนด์อินทนิล นับเป็นพอร์ตธุรกิจหลักในกลุ่ม Non-Oil ของบริษัทฯ

บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตต่อเนื่องของแบรนด์ในตลาดเชนร้านกาแฟที่มีการแข่งขันสูงด้วยกลยุทธ์ต่าง ๆ ดังนี้ วางงบการตลาดเพิ่มขึ้น 30% จากปี 2566 เน้นสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะช่องทางโซเชียลมีเดีย

เพื่อขยายฐานผู้บริโภคใหม่ ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และวัยทำงาน (New Gen & Young Working Age) อายุ 18-40 ปี ซึ่งจะเป็นกำลังซื้อสำคัญของแบรนด์ในระยะยาว

บริษัทฯ จะสื่อสารไปยังกลุ่มดังกล่าว ด้วยการนำแบรนด์ไปคอลแลบส์กับคาแรกเตอร์ระดับสากลของนักวาดการ์ตูนคนไทย น้อยหน่า-สุริยา อุทัยรัศมี ไม่ว่าจะเป็น น้องอายะ (Aya) สาวน้อย ผู้ร่าเริง รักสัตว์ พร้อมเหล่าผองเพื่อน

อาทิ แก้ว Reusable Cup 5 สี 5 ลาย ถ่ายทอดคาแรกเตอร์น้องอายะและผองเพื่อนที่จะมาเป็นตัวแทน ท้อป 5 เมนูเครื่องดื่มโปรดักต์ฮีโร่ของบริษัทฯ อเมริกาโน่, โกโก้, ชาไทยลาเต้, เอสเพรสโซ่, ชาเขียวลาเต้ 

 

และมีการนำคาแรกเตอร์น้องอายะ ไปทำกิจกรรมการตลาดต่าง ๆ ทั้งช่องทางออฟไลน์อย่างมาสคอตประจำร้าน หรือออนไลน์ผ่านแคมเปญแชร์โมเมนต์ต่าง ๆ ลงโซเชียลมีเดียกับผลิตภัณฑ์

Physical Store ปัจจุบันร้านสาขาของอินทนิลในประเทศไทย 40% เป็นสาขานอกปั๊มบางจาก และอยู่ในโลเคชันที่มีแทรฟฟิกกลุ่มเป้าหมายข้างต้นสูง ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ออฟฟิศสำนักงาน สถานศึกษา และมหาวิทยาลัย

โดยบริษัทฯ ตั้งใจนำเสนอประสบการณ์แก่ผู้บริโภคด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่อย่าง โฮมมี่ (Homey) หรือการปรับให้ร้านอินทนิลเป็นพื้นที่แห่งความอบอุ่นเสมือนบ้านอีกหลัง มีพื้นที่สำหรับกิจกรรม อีเวนต์ต่าง ๆ และรองรับการเป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซ นำป๊อปคัลเจอร์ต่าง ๆ เข้ามาดึงดูดผู้บริโภค อาทิ เตรียมนำตู้สุ่มอาร์ตทอยเข้ามาในร้านสาขาบางแห่ง 

 

Beverages ออกโปรดักต์ใหม่รองรับดีมานด์ช่วงออฟพีค หรือหลังบ่ายที่ผู้บริโภคเลือกรับประทานโปรดักต์ฮีโร่น้อยลง ด้วย สลัชชี่ เครื่องดื่มเกล็ดน้ำแข็งรสชาติโกโก้, ชาไทยลาเต้ จากการนำมาปั่นในเครื่องสลัชชี่ด้วยความเย็นจัด จนควบแน่นจับตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ให้รสชาติเข้มข้นกว่าเมนูปั่นปกติ เพราะไม่ต้องใช้น้ำแข็งซึ่งทำให้รสชาติเจือจางลง โดยเลือกดื่มได้ทั้งรสชาติเดี่ยวและผสม

หรือ Non-Beverages เปิดตัว ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ 4 รสชาติ แบ่งเป็นยืนพื้น โกโก้, โยเกิร์ต และ 2 รสชาติหมุนเวียนใหม่ ๆ ให้ผู้บริโภคไม่เบื่อ ปัจจุบันเป็น ชาไทย, ชาเขียว

 

ตั้งเป้าลอนช์ 2 เมนูใหม่ไม่น้อยกว่า 60 ร้านสาขา ภายในสิ้นปี 2566 แบ่งเป็นสาขาละ 1 เมนู หรือทั้ง 2 เมนูตามความเหมาะสมของโลเคชั่น เบื้องต้นเน้นสาขาภายใต้การบริหารของบริษัทฯ ที่มีแทรฟฟิกผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ และวัยทำงานสูง

และยังขยายร้านสาขา Shop in Shop ด้วยการร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึงโฟกัสที่การนำอาหารอิ่มท้องพร้อมรับประทานเข้ามาเพิ่มในส่วน Non-Beverages นอกจากเบเกอรี่ที่แข็งแรงอยู่แล้ว หลังปัจจุบันมีร้านสาขาสไตล์ดังกล่าวอยู่แล้วในสาขาขนาดใหญ่ หรือร้านที่มีแทรฟฟิกผู้บริโภคหมุนเวียนตลอดวัน ประมาณ 10 สาขา

นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังออกเมนูเฟสทีฟล่าสุด ท็อฟฟี่นัท นำอเมริกาโน่เย็น โกโกเย็น และชาไทยลาเต้เย็น มาผสมผสานเป็นรสชาติหอมหวาน เพิ่มฟองครีมทอฟฟี่ก่อนทอปหน้าด้วยอัลมอนด์ ให้เทกซ์เจอร์การรับประทานที่ลงตัว ตลอดจนคงแผนออกเมนูเครื่องดื่มตามซีซั่นนอลในทุก ๆ ไตรมาส

โดยหลังปี 2566 บริษัทฯ มุ่งเน้นไปที่การขยายร้านสาขาจนสำเร็จตามเป้าหนึ่งพันสาขา ปี 2567 บริษัทฯ จะเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการบริหารงานหลังบ้าน อาทิ การเทรนนิ่งบาริสต้า ที่รีเฟรชทุก ๆ ไตรมาส ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคจะได้รสชาติเครื่องดื่มมาตรฐานเดียวกันทุกแก้วเช่นเดิม

กลยุทธ์ขยายฐานผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงานของแบรนด์ต่าง ๆ ข้างต้น ได้เป็นไปเพื่อเอื้อให้ผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าว ใช้เวลาอยู่ในร้านนานขึ้น เสริมให้เกิดการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่สูงขึ้นตามไปด้วย

อนึ่ง ปัจจุบันร้านอินทนิล มีสาขาในไทย 1,030 สาขา (มาร์เก็ตแชร์อันดับ 2 ของเชนร้านกาแฟ) สัดส่วนตามพื้นที่ กรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคตะวันออก 60% และภูมิภาคอื่น ๆ 40% และแบ่งตามการบริหารจัดการ สาขาแฟรนไชส์ 70% และสาขาที่บริหารโดยบริษัทฯ 30%

ยอดขายรวมปี 2566 แตะ 2,000 ล้านบาท เติบโต 14% หากนับเป็นยอดขายเครื่องดื่ม กว่า 30 ล้านแก้ว โดยยอดขายที่มาจากกลุ่มลูกค้าสมาชิกบางจากกรีนสไมล์ (กว่า 7 ล้านเมมเบอร์) เติบโต 2 เท่าจากปี 2565 และปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าของร้านอินทนิลในปั๊มบางจาก ครึ่งหนึ่งเป็นสมาชิกฯ จากการที่บริษัทฯ ดึงดูดด้วยสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เฉพาะสมาชิก

ช่องทางออนไลน์ นอกจากแอปฯ บางจาก ที่เตรียมปรับปรุงหน้าแสดงผลการใช้งานครั้งใหญ่ ยังมีไลน์ออฟฟิเชียล และสำหรับร้านสาขาอินทนิลในปั๊มบางจาก บริษัทฯ เพิ่งลอนช์สมาร์ท คิวอาร์โค้ด ให้ลูกค้าออเดอร์ได้ที่รถตั้งแต่ตอนเติมน้ำมัน ชำระเงินผ่านอีเพย์เมนต์ และรอรับสินค้าได้ที่ร้านได้เลย

ปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตไม่น้อยกว่า 20% ทั้งจากการบริหารงานสาขาเดิมและขยายสาขาใหม่ ไม่น้อยกว่า 170 สาขา เน้นในภูมิภาคทางตอนเหนือและตะวันออก เพื่อครอบคลุมพื้นที่ในการเข้าถึงของผู้บริโภค และขยายเป็น 2,500 สาขา ภายใน 5 ปีหลังจากนี้

ตลอดจนยังให้ความสำคัญสูงสุดกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการคำนึงถึงความยั่งยืน โดยผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ 100% สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ

และสร้างผลตอบแทนทางธุรกิจของผู้ประกอบการ (แฟรนไชส์) อย่างมั่นคง โดยทำงานกันอย่างใกล้ชิด อาทิ การพาแฟรนไชส์ไปชมแหล่งผลิตวัตถุดิบ หรือการจัดประชุมดีลเลอร์ประจำปี

ตลาดต่างประเทศ ปี 2567 อินทนิล โฟกัสตลาดในลาว โดยเตรียมเปิดเพิ่ม 4 สาขาสแตนด์อโลน ภายในเดือน ธ.ค. 66 – ม.ค. 67 และตั้งเป้าขยายถึง 20 สาขาตลอดปี

หลัง 1 สาขาสแตนด์อโลนโดยแฟรนไชส์ที่มีอยู่แล้วในเมืองเวียงจันทน์ มีผลตอบรับที่ดีจากยอดขายไม่ต่ำกว่า 250 แก้วต่อวัน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีร้านสาขาสแตนด์อโลนโดยแฟรนไชส์ อีก 1 แห่งอยู่ในเมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer