ย้อนไปเมื่อปี 2021 โลกยังมีข่าวใหญ่อีกมากมาย นอกเหนือไปจากสถานการณ์โควิด โดยในวงการโลจิสติกส์ทั่วโลก เกิดการหยุดชะงักอยู่เกือบสัปดาห์หลังเรือสินค้าลำยักษ์ Ever Given เกยตื้นขวางคลองสุเอซ

ส่วนในวงการอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ก็เกิดการทุ่มลงทุนครั้งใหญ่ของบรรดาค่ายชิป นำโดย TSMC ของไต้หวัน เพื่อรับประกันว่าสายพานการผลิตจะไม่กระทบอีก หากต้องมีการปรับสัดส่วนผลิตให้กับผลิตภัณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่ง เมื่อเกิดวิกฤตครั้งใหญ่

ขณะที่ในแวดวงการลงทุน บรรดาเหรียญคริปโทมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนเงินสะพัดมหาศาล และนำไปสู่การลงทุนในธุรกิจอื่นๆ อย่างวงการกีฬา
เช่น Stake.com แพลตฟอร์มรับพนันที่มีสาขาอยู่หลายประเทศจ่ายค่าโฆษณาตำแหน่งกลางหน้าอกชุดแข่ง Watford สโมสรใน Premier League อังกฤษเป็น Dodge coin เหรียญคริปโทที่ ณ เวลาดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมาก

หรือการที่ Crypto.com แพลตฟอร์มซื้อ-ขายคริปโทในสิงคโปร์ทำเงินได้มากมายจนสามารถปิดดีลข้ามประเทศมูลค่าสูงถึง 700 ล้านดอลลาร์ (ราว 24,000 ล้านบาท) เปลี่ยนชื่อ Staples Center สนามชื่อดังของทีมบาสเกตบอล LA Lakers เป็น Crypto.com Arena

ทว่าปี 2021 ก็เป็นปีที่เกิดการทุจริตและหลอกลวงที่มีคริปโทเกี่ยวข้องมากมายด้วย โดยที่กลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกคือ การแฮกท่อส่งน้ำมันในสหรัฐฯ จนไม่สามารถใช้การได้ แล้วบังคับให้จ่ายเงินค่าไถ่เป็นเหรียญคริปโทที่มูลค่าสูงสุดอย่าง บิตคอยน์
ชาร์ลี มังเกอร์
ทำให้ ชาร์ลี มังเกอร์ นักลงทุนรุ่นใหญ่มือขวาของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ซึ่งไม่ชอบคริปโทอยู่แล้วได้ที โจมตีว่าบิตคอยน์เป็นการลงทุนที่ลวงโลก
ท่ามกลางการประเมินว่า ตลอดปี 2021 เหตุคริปโทลวงโลก สร้างความเสียหายไปทั่วโลกมากถึง 14,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 488,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปี 2020 ถึง 79%

นับจากนั้นคริปโทก็แทบจากจะแยกไม่ขาดกับการทุจริต โดยมาปรากฏชัดกับ 3 เหตุการณ์ใหญ่ถึง ที่สร้างความเสื่อมเสียให้ตลาดคริปโทในปี 2023 และทุกเหตุการณ์ก็มีลักษณะร่วมกันอย่างหนึ่งคือ มีหัวเรือใหญ่ของคริปโทหรือแพลตฟอร์มซื้อขายเป็นตัวละครหลัก
โด ควอน
มีนาคม โด ควอน ชาวเกาหลีใต้ผู้สร้างเหรียญคริปโท Luna และ Stable coin รวมไปถึงแพลตฟอร์มบล็อกเชน Terra Platforms Lab ที่ถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ออกหมายจับในคดีฉ้อโกงมูลค่าความเสียหาย 40,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.3 ล้านล้านบาท) และหลบหนีการจับกุมไปหลายประเทศ ถูกจับกุมได้ที่ มอนเตรเนโกร
แซม แบงค์แมน-ไฟร์
ต้นพฤศจิกายน แซม แบงค์แมน-ไฟร์ ชาวอเมริกันผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ FTX หนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทใหญ่ ซึ่งอายุเพียง 31 ปี และเคยเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีอายุน้อยอันดับต้นๆ ของสหรัฐฯ ถูกเนรเทศจากบาฮามากลับมายังสหรัฐฯ เพื่อขึ้นศาลจากความผิดฉ้อโกงหลายคดี
จางเผิง เปา
ปลายพฤศจิกายน จางเผิง เปา หรือซีเค ชาวแคนาดาเชื้อสายจีนผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Binance แพลตฟอร์มซื้อ-ขายคริปโทใหญ่สุดในโลกหากวัดจากปริมาณซื้อ-ขาย ยอมมอบตัวกับทางการสหรัฐฯ ในคดีฟอกเงินที่เชื่อมโยงกลุ่มฮามาส
ริชาร์ด เต็ง
ซึ่งทำให้เขาต้องลาออกไปและดัน ริชาร์ด เต็ง มือดีด้านการเงินชาวสิงคโปร์ที่มีตำแหน่งสูงๆ ในธนาคารกลางบ้านเกิดมาแล้ว ขึ้นมาบริหาร Binance แทน
ทั้ง 3 เหตุการณ์ทำให้ปี 2023 เป็นขาลงของตลาดคริปโท และย้ำว่า ไม่ว่าจะยุคสมัยใดการลงทุนทุกประเภทต้องทำอย่างรอบคอบ ถ้าไม่อยากหมดตัวไปกับคริปโท แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ถือเป็นการกำจัดบรรดาผู้อยู่เบื้องหลังเหตุฉ้อโกงเบอร์ใหญ่ ๆ ได้หลายคน

ส่วนปี 2024 คาดกันว่า รัฐบาลทั่วโลกจะหันมาสอดส่องดูแลความเคลื่อนไหวในตลาดคริปโทและสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น จนนำไปสู่การออกกฎเข้มงวดขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ในภาพใหญ่เหตุฉ้อโกงทางดิจิทัลต่างๆ ลดลงไป /cnn
–
