วันที่ 8 มีนาคมของทุกปี นับว่าเป็นเดือนที่ผู้คนให้ความสำคัญในเรื่องของความเท่าเทียมและส่งเสริมคุณค่าในสตรี จึงเกิดเป็น ‘วันสตรีสากล’ หรือ ‘International Women’s Day’ ขึ้น โดยบริษัท แมคไทย จำกัด ผู้นำธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ภายใต้ แบรนด์ แมคโดนัลด์ ประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ให้ความสำคัญกับผู้หญิงในทุกบทบาท พร้อมทั้งเปิดรับโอกาสให้ผู้หญิงได้ทำงานในทุก ๆ ตำแหน่งงาน เราจึงขอเป็นหนึ่งแรงใจในการเฉลิมฉลองส่งเสริมคุณค่าผู้หญิงในสังคม ด้วยการให้ความสำคัญกับการยอมรับและเข้าใจในความแตกต่างระหว่างเพศ มองโลกด้วยความเท่าเทียม ปราศจากอคติ ไม่เลือกปฏิบัติ และอยู่ร่วมกันได้อย่างเสมอภาค
คุณกิตติวรรณ อนุเวชสกุล รองประธานกรรมการ มูลนิธิแมค แฮปปี้ แฟมิลี่ และประธานกรรมการบริหารบริษัท แมคไทย จำกัด กล่าวว่า “เนื่องด้วยในวันสตรีสากลปี 2024 นี้ ขอเป็นส่วนหนึ่งการสนับสนุนคุณค่าผู้หญิงในสังคม ภายใต้แนวคิด “Inspire Inclusion” ให้ผู้หญิงพร้อมเป็นผู้ขับเคลื่อนอย่างแท้จริง ด้วยเป้าหมายที่อยากจะสร้างแรงบันดาลใจทั้งในการใช้ชีวิตและในบทบาทการทำงานของผู้หญิง เราเชื่อว่าพลังที่ยิ่งใหญ่ของผู้หญิงคือพลังของความเป็นหนึ่งเดียวกันในสังคม ไร้ซึ่งความแตกต่าง และเราทุกคนสามารถสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียมนี้ได้”
ทั้งนี้ แมคโดนัลด์ ปัจจุบันมีพนักงานทั้งหมดกว่า 6,000 คน และกว่า 61% เป็นพนักงานหญิง ทำให้เห็นว่า มีการเปิดโอกาสผู้หญิงได้มีงานทำมากยิ่งขึ้น ด้วยโอกาสพิเศษนี้จึงได้จัดทำแคมเปญร่วมเฉลิมฉลอง ‘วันสตรีสากล’ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้หญิงทุกคนผ่านการแชร์เรื่องราวจากตัวแทนพนักผู้หญิงที่มีบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
คุณสุรศักดิ์ พลแรง, หัวหน้าพนักงานต้อนรับ แมคโดนัลด์ สาขา บิ๊กซี บางพลี, พนักงานข้ามเพศหรือ LGBTQ+ ที่ต่อสู้และทลายกำแพงความไม่มั่นใจในตนเอง เมื่อแต่งชุดพนักหญิง กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจ ของดิฉันเลยคือความสุขของเราในการทำงานและได้สื่อสารกับลูกค้าในทุก ๆ วัน และได้รับคำเชยชมจากลูกค้า เนื่องจากสามารถจดจำเมนูอาหารที่ลูกค้าชอบทานหรือจำชื่อลูกค้าได้ และกล่าวสวัสดียินดีต้อนรับด้วยรอยยิ้มสดใส”
คุณอรุณี จันทะดวง, พนักงานแมคโดนัลด์ สาขา บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ศรีนครินทร์ ตัวแทนพลังหญิงแกร่ง ผู้ที่ไม่มีความย่อท้อต่อความบกพร่องทางร่างกายหรือนำมาเป็นอุปสรรค กล่าวว่า “แม้ร่างกายนั้นพิการบกพร่องมาแต่กำเนิด แต่เราก็ยังอยากที่จะทำงานหรือใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไป ดังนั้น สิ่งที่เราได้พบเจอหรือโดนตั้งคำถามเดิม ๆ หรือโดนดูถูก นั้นไม่อยากให้เกิดขึ้นในทุกองค์กร เพราะมันทำให้รู้สึกคุณค่าในตัวเองนั้นตกต่ำและย่อท้อ หรือไม่มั่นใจในตนเอง จนโดนมองว่าเราไม่สามารถทำงานได้และเสียโอกาสในที่สุด แต่เมื่อได้มีโอกาสจากแมคโดนัลด์ ที่หยิบยื่นและติดต่อมา เพื่อเปิดโอกาสให้ได้มีงานทำ จนทำให้เราสามารถพิสูจน์ให้คนอื่น ๆ ได้เห็นว่า ถึงร่างกายเราจะพิการ แต่ก็ยังคงที่จะสามารถทำงานได้ตามปกติเหมือนกับคนทั่วไป”

