ต้องยอมรับว่าร้านยางรถยนต์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ริมถนนหรือในปั๊มพ์น้ำมันต่าง ๆ เป็นธุรกิจที่มี Magin น้อย ต้องอาศัยจำนวนลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการเยอะ ๆ จึงจะสามารถอยู่รอดได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว กว่าการที่คน ๆ หนึ่งจะเข้ามาใช้บริการร้านยางรถยนต์ในแต่ละครั้งก็เป็นเวลาที่นานไม่ใช่น้อย เพราะการซ่อมยางแต่ละทีสามารถทำให้ยางเส้นนั้น ๆ ใช้งานต่อไปได้เป็นอีกปี ๆ หนำซ้ำร้านยางรถยนต์ขนาดเเล็กเหล่านี้ยังเจอกับคู่แข่งที่มาในรูปแบบของศูนย์บริการยางแบบครงวงจรของต่างประเทศ เข้ามาแย่งชิงลูกค้าไปเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
Grip อีกหนึ่งแบรนด์ของคนไทยที่ให้การบริการเรื่องยางอย่างครบวงจร ภายใต้แนวคิดหลักของแบรนด์อย่าง ‘Grip ที่เดียว จบเรื่องยาง’ ก็เลยเข้ามาแก้ Pain Point ตรงนี้ ด้วยการเปลี่ยนร้านยางรถยนต์ขนาดเล็กให้กลายเป็นร้านยางรถยนต์ระดับมืออาชีพที่ลูกค้าไว้วางใจ
ผ่านการสร้างคอนเน็คชั่น ดึงร้านยางรถยนต์ต่าง ๆ ให้เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไป Educated ให้ธุรกิจร้านยางรถยนต์รายเล็ก ๆ เหล่านี้มีความทันสมัย มี Know-how ในการให้บริการลูกค้ามากขึ้น การเข้าไปปรับปรุงร้านให้มีมาตรฐานและความปลอดภัยตามที่สากลได้กำหนดไว้ จนสามารถเคลมได้ว่าร้านยางรถยนต์ต่าง ๆ เหล่านี้กลายเป็น ‘ศุนย์บริการยางอย่างครบวงจร’
ซึ่งนอกจากตัวร้านหรือตัวโปรดักท์ Grip ก็ยังเข้าไปช่วยดูแลเรื่องของ Model Business เพื่อให้ทั้งทาง Grip และธุรกิจร้ายางรถยนต์เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
โดยนอกจากการทำไวรัลคลิปชิ้นนี้จะสร้างการรับรู้ไปยังผู้คนและเจ้าของกิจการร้านยางเล็ก ๆ แล้ว นี่ยังเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า Grip เริ่มเข้ามารุดหน้าการทำ Online Marketing อย่างเต็มตัวแล้ว สังเกตได้จาก Facebook ของทาง Grip ที่ได้นำ Insight ต่าง ๆ และข้อมูลของยางไม่ว่าจะเป็น ถ้ายางรั่วจะจอดหรือจะไปต่อ, สอนการเปลี่ยนยางด้วยตัวคุณฌองในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน หรือแม้แต่มุกขำ ๆ อย่าง “ถ้าเจ็บจากเขามาหาเราก็ได้นะ” สร้างยอดไลค์ ยอดแชร์ และการรับรู้ในแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

กลยุทธ์การทำตลาดของ Grip จึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะส่วนใหญ่พวกเขาจะไม่เน้น Hard Sale แบบตรง ๆ แต่จะเน้นการพูดด้วยอารมณ์ที่เข้าถึงใจของผู้คนได้เป็นอย่างดี
