Trend: จีนในปัจจุบัน ผงาดขึ้นมาบนเวทีโลกหลายด้าน ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ภูมิรัฐศาสตร์ และเทคโนโลยี รวมไปถึงกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีพลังงานสะอาด
ที่ประกอบไปด้วย รถอีวีที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า กังหันขนาดใหญ่และแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าจากลมและแสงอาทิตย์ตามลำดับ ซึ่งแบรนด์จีนไม่ได้แค่อยู่ในตลาด แต่ยังครองส่วนแบ่งตลาดสูง จึงแปรเป็นเม็ดเงินกลับเข้าประเทศมหาศาล
นับตั้งแต่ตลาดเทคโนโลยีพลังงานขยายตัวหลังการใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นที่คนทั่วโลกให้ความสำคัญ
ปี 2023 จีนขายรถอีวีในต่างประเทศได้ราว 100,000 คัน และการส่งออกก็เพิ่มขึ้นจากปี 2022 ถึง 70% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 34,100 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.2 ล้านล้านบาท)
พร้อมการที่ BYD เป็นแบรนด์รถอีวี ยอดขายสูงสุดของโลก ท่ามกลางการไปสร้างโรงงานผลิตรถอีวีในหลายประเทศของค่ายรถจีน รวมถึงในไทย ส่งผลสืบเนื่องให้รถอีวีจีนท่วมตลาด และราคาถูกลดเปิดทางให้คนทั่วไปเข้าถึงได้มากขึ้น
แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวกลายเป็นประเด็นที่รัฐบาลประเทศตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ กับกลุ่มสหภาพยุโรปไม่พอใจ เพราะสาเหตุหลักที่ทำให้ค่ายรถอีวีเป็นเบอร์ใหญ่ในตลาดโลกได้ มาจากรัฐบาลสนับสนุนอย่างมาก
เช่นในปี 2019 อุตสาหกรรมกลุ่มพลังงานสะอาดจีนได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลมากถึง 237,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 8.7 ล้านล้านบาท)
และในปี 2022 BYD ได้เงินอุดหนุน 2,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 81,300 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นมหาศาลจากเพียง 235 ล้านดอลลาร์ (ราว 8,700 ล้านบาท) เมื่อปี 2020
จนทาง BYD กล้าประกาศกับนักลงทุนว่า ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายอีก 20% ในปี 2024 และ CATL บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่รถอีวีรายใหญ่สุดของโลกประกาศขยายโรงงานแบบเต็มกำลัง
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้สหรัฐฯ ต้องปกป้องอุตสาหกรรมรถอีวีในประเทศ จนนำมาสู่ตั้งกำแพงภาษีสูงถึง 27% ต่อรถอีวีจีน และสหภาพยุโรปที่เตรียมทำแบบเดียวกันด้วยอัตราภาษีสูงพอ ๆ กับช่วงกรกฎาคมปี 2024
จีนยังบุกตลาดแผงโซลาร์ เซลล์ และกังหันลมอย่างหนักเช่นกัน โดยสหภาพยุโรประบุว่า ปี 2023 โซลาร์ เซลล์ จีนกินสัดส่วนตลาดนี้ในกลุ่มประเทศสมาชิก เพิ่มขึ้น 40%
ส่วนในตลาดกังหันลม ความเป็นแบรนด์ใหญ่ตลาดยุโรป ยังทำให้จีนมีอิทธิพลต่อ Supply chain ด้วย
ด้าน Janet Yellen รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า เงินอุดหนุนมหาศาลจากรัฐบาลและค่าจ้างแรงงานที่ต่ำทำให้สินค้าราคาถูกจากจีนท่วมตลาดเทคโนโลยีพลังงานสะอาดทั่วโลก
ฝ่ายจีนเมื่อเจอกับกำแพงภาษีและการกล่าวโจมตีดังกล่าว จึงไม่พอใจและตอบโต้ว่า บรรดาประเทศตะวันตกดำเนินนโยบายปกป้องทางการค้าด้วยวิธีที่ไม่เป็นธรรม
Margrethe Vestager ประธานคณะกรรมาธิการกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าของสหภาพยุโรป ให้ทัศนะว่า จีนขึ้นมาเป็นเบอร์ใหญ่ในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดได้ด้วยแนวทางเดียวกับอุตสาหกรรมประเภทอื่น ๆ ก่อนหน้านี้
นั่นคือ เชื้อเชิญให้ต่างชาติมาลงทุนในประเทศ พร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย แต่จากนั้นก็ทยอยศึกษา เก็บข้อมูลและองค์ความรู้ต่าง ๆ มาใช้ผลิตสินค้าขึ้นมาเอง
จากนั้นก็เดินหน้าบุกตลาดโลก พร้อมปัจจัยหนุนต่าง ๆ เช่น เงินสนับสนุนจากรัฐบาล และค่าจ้างแรงงานถูก
ส่วนประเด็นที่ต้องจับตามองจากนี้ คือสงครามการค้าในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด จากการตอบโต้ระหว่างจีนกับประเทศตะวันตกที่มีแต่จะยิ่งทวีความดุเดือด/dw
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ